แม้ว่า Mini JCW GP จะถูกอ้างว่าเป็นรถแฮทช์แบ็กที่มีความเร็วและความแรงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Mini แฮทช์แบ็ก รวมไปถึงยังมีรูปลักษณ์ที่ดุดันแตกต่างจาก Mini ทั่วไป แต่ก็ยังอาจไม่ใช่ความพึงพอใจของบางคนที่ชื่นชอบ Mini ทาง Beek Auto Racing ในเมเธอร์แลนด์จึงมีทางออกให้ด้วย Mini GP3 สำหรับผู้ที่ต้องการความแตกต่างจาก Mini JCW GP มาตรฐานจากโรงงาน

ในการทำ Mini GP3 ให้แตกต่าง Mini JCW GP ที่ออกมาจากโรงงาน ทาง Beek Auto Racing ต้องการปรับใน 3 ส่วนของรถคือสมรรถนะ การควบคุม และเสียง ดังนั้นจึงเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ โดยเป็นการใช้ชุดช่วงล่าง 5100 จาก AST ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีการใช้สตรัตใหม่ที่ให้ลักษณะแตกต่างจากที่มากับรถมาตรฐาน โดยที่สามารถเลือกได้ระหว่างปรับให้มีความนุ่มนวลมากขึ้นเพื่อความเป็นมิตรกับการขับในแต่ละวันมากขึ้น หรือมีความแข็งขึ้นซึ่งเป็นสเปกสำหรับสนามแข่ง โดยทางผู้ปรับแต่งรถในเนเธอร์แลนด์ระบุว่าแม้จะมีการปรับช่วงล่างให้นุ่มขึ้นแต่ก็มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่ามาตรฐาน รวมไปถึงมีการปรับปรุงส่วนที่สัมผัสพื้นถนนของรถ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 เพื่อช่วยให้มีการควบคุมรถที่ดีขึ้น

ในส่วนของเครื่องยนต 4 สูบ 2.0 ลิตร ทวินเทอร์โบที่มีกำลัง 306 แรงม้าได้ถูกเพิ่มกำลังขึ้นเป็น 330 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 500 นิวตัน-เมตรจากเดิม 450 นิวตัน-เมตร ซึ่งทาง Beek Auto Racing ไม่ได้ระบุรายละเอียดส่วนนี้ว่ากำลังที่เพิ่มขึ้นของรถมาจากการปรับสิ่งใดบ้าง ขณะที่การปรับปรุงในเรื่องเสียงของรถได้มีการใช้ท่อไอเสีย Milltek เพื่อเพิ่มความเร้าใจของเสียงมากขึ้น

หากสเปกข้างต้นยังเร้าใจไม่พอ ทาง Beek Auto Racing ยังระบุว่ามีแพ็กเกจปรับแต่งมากขึ้นให้เลือกซึ่งจะทำให้ Mini GP3 มีกำลังมากกว่า 350 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดมากว่า 530 นิวตัน-เมตร โดยรวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้อินเตอร์คูลเลอร์ Airtec และสปอร์ตแคตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ Milltek แทนของเดิมจากโรงงาน

แน่นอนว่านอกจากการปรับสมรรถนะ การควบคุม และเสียงแล้ว ทาง Beek Auto Racing ยังมีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกของรถรวมไปถึงภายในห้องโดยสารด้วย ซึ่งจะเน้นการใช้สีฟ้าและสีขาวที่เป็นสีสำคัญของรถสปอร์ตในประวัติศาสตร์รถยนต์ ซึ่งภายนอกรถใช้การแรปไวนิลสีฟ้า Blue Gem และสีขาว Avery Gloss White พร้อมกับการติดชุดแอโรพาร์ตรอบคัน โดยที่มีจุดเด่นอยู่ที่สปอยเลอร์หลังและซุ้มล้อของรถที่มีล้อสีขาวอยู่ภายใน

สำหรับภายในห้องโดยสารในส่วนของผู้ขับจะมีการหุ้มพวงมาลัยด้วยหนังใหม่และ Alcantara เพื่อให้ความรู้สึกสปอร์ตขึ้นในขณะจับ พร้อมมีการใช้คาร์บอนไฟเบอร์กับบางส่วนของพวงมาลัยและที่บริเวณเรือนไมล์ ขณะที่ฝั่งผู้โดยสารมีการเพิ่มจอเข้ามาสำหรับแสดงข้อมูลต่างๆ อย่างอุณหภูมิเครื่องยนต์และรอบการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อให้ผู้โดยสารได้เห็นข้อมูลสำคัญของรถเหมือนกับผู้ขับด้วย นอกจากนี้ Beek Auto Racing ยังระบุว่ามีการอัพเกรดหลายส่วนในห้องโดยสารของ Mini GP3เพื่อให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นและแตกต่างจากรถมาตรฐาน

ภาพ : Beek Auto Racing

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th