Mini John Cooper Works Electric / John Cooper Works Aceman สองรถไฟฟ้าขนาดเล็กพรีเมียมตัวแรงรุ่นใหม่
Mini เปิดตัวสองรถไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นแรงสมาชิกใหม่ในชื่อ John Cooper Works ด้วย Mini John Cooper Works Electric และ John Cooper Works Aceman ซึ่งรถทั้งสองรุ่นถูกเพิ่มกำลังขับเคลื่อน ได้รับการออกแบบเพื่อเน้นแอโรไดนามิก มีช่วงล่างที่มาจากรถแข่ง รวมทั้งถูกเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานมากขึ้น
ทั้ง Mini John Cooper Works Electric และ John Cooper Works Aceman มาพร้อมกับกำลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า 190 kW หรือ 258 แรงม้าเท่ากัน แต่รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้า 3 ประตูใช้เวลา 5.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในขณะที่ Aceman รุ่นแรงใช้เวลา 6.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. อย่างไรก็ตามรถทั้งสองรุ่นสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม. และมีแรงบิด 350 นิวตัน-เมตรเท่ากัน
รถสมรรถนะสูงสองรุ่นใหม่ที่มีชื่อ JCW มากับแบตเตอรีความจุ 54.2 kWh ทำให้ JCW Electricเดินทางได้ 371 กิโลเมตร ส่วน JCW Aceman เดินทางได้ 355 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็มความจุ รวมทั้งมีโหมด G0-kart ให้เลือกใช้จากแป้นที่พวงมาลัยของรถซึ่งจะทำให้ถมีการเพิ่มกำลังขึ้น 20 kW สำหรับการเร่งแซง
ส่วนช่วงล่างของรถทั้งสองรุ่นถูกระบุว่าได้รับการปรับตั้งเพื่อให้ความรู้สึกของรถโกคาร์ตมากที่สุด พร้อมกับให้ความคล่องแคล่วปราดเปรียวในการขับขี่ รวมทั้งมียางสมรรถนะสูงยึดเกาะถนนสูงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถ โดยรถยังมากับระบบเบรกสมรรถนะสูงพร้อมคาลิเปอร์เบรกสีแดง Chili Red และโลโก้ JCW สีขาวทำหน้าที่ลดความเร็วและหยุดรถ
ภายนอกบ่งบอกถึงการเป็นรถสมรรถนะสูงด้วยโลโก้ JCW สีแดง ขาว และดำที่ทำให้คิดถึงธงตาหมากรุก กระจังหน้า 8 เหลี่ยมสีดำเงา พร้อมมีการฉายไฟโลโก้ที่พื้น นอกจากนี้ยังมีไฟ Daytime Running Light แถบแนวนอน JCW Signature รวมทั้งมีสเกิร์ตข้าง แอโรเบลดที่เสา C-pillar และสปอยเลอร์ขนาดใหญ่สีดำเพื่อแอโรไดนามิกสูงสุดของรถ ขณะที่กันชนหลังสีดำถูกตัดด้วยแถบสะท้อนแสงสีแดงแนวตั้ง
ผู้ซื้อยังสามารถเลือกหลังคาสีแดง Chili Red หรือหลังคามัลติโทนที่ไล่โทนจากสีแดงเป็นสีดำเพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับรถได้ ส่วนล้อที่มากับรถหากเป็นแฮทช์แบ็กไฟฟ้า 3 ประตูสมรรถนะสูงจะมีล้อขนาด 18 นิ้ว ขณะที่ JCW Aceman มากับล้อขนาด 19 นิ้ว
ห้องโดยสารของรถถูกระบุว่านำแรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง ด้วยโทนสี JCW-specific ทำให้มีการใช้สีดำพร้อมลายสีแดงบนแผงแดชบอร์ด นอกจากนี้เมื่อเปิดไฟ Ambient Lighting จะมีกราฟฟิกไฟเฉพาะบนหลังคาพาโนรามิก ในขณะที่เบาะหน้าของรถหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีดำพร้อมผ้าทอหลากสีที่ไหล่และเย็บด้ายสีแดง
แน่นอนว่ารถมาพร้อมกับจอกลมขนาด 240 มม. ตรงกลางเช่นเดียวกับMini รุ่นใหม่ นอกจากนี้รถทั้ง 2 รุ่นยังมากับระบบช่วยขับต่างๆ ที่รองรับการทำงานในโหมดขับที่มีความสปอร์ต ส่วนราคาและการขายรถยังไม่มีการระบุออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th