Mini Remastered Oselli Edition ทำออกมาใหม่ในสไตล์รถแข่งคลาสสิก

เมื่อปี 2019 David Brown Automotive ได้นำเสนอ Mini Remastered Oselli Edition ออกมาในโอกาสครบ 60 ปีที่ Mini รุ่นดั้งเดิมออกมาจากสายการผลิตครั้งแรกเมื่อปี 1959 โดยบอกว่าจะมีการทำออกมาแบบจำกัดจำนวน 60 คันซึ่งมีทั้งแบบ 2 ที่นั่งและ 4 ที่นั่ง สำหรับบรรดาผู้ที่ชื่นชอบความคลาสสิกดั้งเดิมของ Mini ซึ่งตอนนี้รถคันแรกจาก David Brown Automotive ได้ถูกประกอบออกมาเสร็จให้ดูเพื่อเรียกเงินจากกระเป๋าบรรดาผู้ชอบ Mini คลาสสิกกันแล้ว

ในเมื่อเป็นการทำใหม่ตามแบบดั้งเดิม Mini Remastered Oselii Edition จึงมาพร้อมกับขุมกำลัง A-Series 1,420 ซีซี พร้อมคาบูเรเตอร์คู่ที่ได้รับการอัพเกรด ทำให้มีกำลัง 125 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 153 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที นอกจากนี้ยังไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียความรู้สึกในการขับแบบเดิมๆ ของ Mini เพราะรถมาพร้อมกับเกียร์แมนนวล 5 สปีดให้สับเกียร์เอง โดยที่ทำให้รถใช้เวลา 7.8 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. แต่หากอยากขับสบายขึ้นในความคลาสสิกก็มีเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดให้เลือกโดยที่ความจุของเครื่องยนต์จะลดลงเหลือ 1,380 ซีซี

นอกจากนี้ในด้านสมรรถนะภายใต้ความคลาสสิกของ Mini Remastered Oselli Edition ยังประกอบด้วย Limited-slip Differential, เบรกรถแข่งประสิทธิภาพสูง AP, ช่วงล่างสปอร์ต Bilstein รวมทั้งระบบท่อไอเสียสปอร์ต โดยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 13 นิ้วของรถมาพร้อมกับยางที่ ช่วยเพิ่มความยึดเกาะถนนให้กับรถ

ทาง David Brown Automotive ระบุว่าภายนอกของรถจะถูกทำสีด้วยมือซึ่งมี 2 สีพื้นฐานให้เลือกระหว่างสีเทา Carbon Grey และสีขาว English White พร้อมกับการแต่งบนตัวรถด้วยการใช้สีแดง Competition Red, สีฟ้า Royal Blue และสีเขียว Heritage Green รวมไปถึงมีเลข 60 ซึ่งเขียนด้วยมือแต่งที่กระจังหน้าสีดำของรถ สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ภายนอกรถได้รับการปรับเพื่อให้มีความทันสมัยอย่างไฟหน้า LED พร้อมไฟ Halo-Style ส่วนล้อของรถมีให้เลือกระหว่างสีกราไฟต์หรือสีทอง รวมไปถึงมีการแต่งภายนอกด้วยวัสดุสีดำมัน

ในขณะที่ภายในห้องโดยสารนอกจากแต่งด้วยหนังและ Alcantara แล้ว ยังมีพวงมาลัยสปอร์ต Sebelt หุ้ม Alcantara ด้วยมือพร้อมมีมาร์กแดงตรงกลาง ในขณะที่แป้นเหยียบต่างๆ มาในสไตล์รถแข่งโดยใช้วัสดุดาร์กโครม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีอย่างจอระบบ Infotainment ของ Pioneer ที่มีการเชื่อมต่อบลูทูธ Apple CarPlay และ Android Auto รวมไปถึงมีระบบเสียงรอบทิศทางพร้อมลำโพง 4 ตัว พร้อมมีช่องต่อ USB ทั้งสำหรับการชาร์จและการเชื่อมต่อ

สำหรับราคาขายของ Mini Remastered Oselli Edition ค่อนข้างจะสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับ Mini รุ่นปัจจุบันที่ขายอยู่ เพราะในรถแบบ 2 ที่นั่งมีราคา 98,000 ปอนด์ และแบบ 4 ที่นั่งอยู่ที่ 108,000 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ในขณะที่ Mini Hatch 3 ประตูรุ่นปัจจุบันในสหราชอาณาจักรมีราคาเริ่มต้นที่ 16,605 ปอนด์