วันนี้ “กรังด์ปรีซ์” เดินทางมาเยี่ยมชมโชว์รูมมิตซูบิชิแห่งใหม่ ย่านบรมราชชนนี จุดสังเกตอยู่ก่อนถึงสายใต้ใหม่ ที่เพิ่งรีโนเวทใหม่ ลงทุนไปถึง 12 ล้านบาท เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เป็นโชว์รูมแบบ 4S กล่าวคือ มีครบทั้งโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ จำหน่ายอะไหล่ ส่วนงานบริการ พร้อมงานซ่อมสีและตัวถัง ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 7 ไร่ มีช่องซ่อมมากถึง 15 ช่อง สามารถรองรับรถได้สูงสุด 50 คันต่อวัน ส่วนซ่อมสีสามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุด 200 คันต่อเดือน

คุณปรเมศวร์ ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ มิตซู นิวตัน เล่าให้ฟังว่า ภายหลังที่เห็นศักยภาพของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ระเทศไทย ซึ่งประสบความสำเร็จกับรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต, มิตซูบิชิ ไทรทัน หรือล่าสุด มิตซูบิชิ เอ็กซ์เพนเดอร์ จึงหันมาเป็น
พาร์ทเนอร์กับทางมิตซูบิชิในปีนี้ และเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะเติบโตได้อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านศูนย์บริการกว่า 51 ปี จากรุ่นสู่รุ่น เป็นคนขายรถยนต์มาแล้วหลายแบรนด์ ทั้งมือหนึ่ง มือสอง ไม่ว่าเป็นรถยนต์ญี่ปุ่น หรือยุโรป วันนี้กับภาพลักษณ์ใหม่ในนาม มิตซู นิวตัน เราให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าด้วยนโยบายการทำงานที่ต้องการส่งมอบความสุขให้ลูกค้าทุกคนอย่างจริงใจ

ยากไหมกับการเปลี่ยนแบรนด์? ไม่ยาก ถ้าวางยุทธศาสตร์ดีๆ ทุกคนในทีมและพนักงานต้องรับความเปลี่ยนแปลง ถ้าอยากอยู่รอดในธุรกิจ มันเป็นเรื่องที่ท้าทายกับการเตรียมงานทั้งหมด เราทำเพื่อความสุข ของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พนักงาน เพื่อให้พนักงานทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และสอนเสมอว่า ทำงานด้วยความซื่อตรง จริงใจยอมรับว่าเป็นเรื่องท้าทาย ซึ่งที่ผ่านมา รู้กันดีว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 เป็นอย่างไร เราใช้ช่วงเวลาช่วงนั้นรีโนเวท ฝึกฝนพนักงานทั้ง 150 คน เรียนรู้สิ่งใหม่ไปพร้อมๆกัน ทั้งงานขายออนไลน์ และลุยทำงานอีเวนต์ ซึ่งเราผ่านกันมาได้ด้วยการทำงานเป็นทีม ทุกคนทำหน้าที่หลากหลายขึ้น เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ทำให้บริษัทขับเคลื่อนเติบโต
มาได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะงานบริการ ผมมั่นใจว่าถ้าคุณได้สัมผัสความเป็นมิตซู นิวตัน ต้องประทับใจในความสะดวกสบาย

การตกแต่ง ภายหลังที่เปลี่ยนมาทำแบรนด์มิตซูบิชิ ต้องยอมรับว่าด้วยมาตรฐานใหม่ ภาพลักษณ์โชว์รูมของมิตซูบิชิดูเท่ขึ้นกว่าเดิม และโดดเด่นมาแต่ไกล ด้วยสีดำแดงมีความเรียบหรู ทันสมัย คอนเซปต์การ จัดวางพื้นที่กับโจทย์ที่ว่าต้องเป็นมากกว่าศูนย์บริการ พื้นที่ส่วนจัดแสดงรถยนต์กว้างขวาง ในบรรยากาศสบายๆ ทีมขายไม่กดดันลูกค้า จัดแสดงรถยนต์มิตซูบิชิครบทุกรุ่นมีไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่เหมือนยกร้านกาแฟพร้อมกับบาริสต้ามืออาชีพมาคอยให้บริการเน้นใช้ของคุณภาพ คัดเลือกเมล็ดกาแฟมาอย่างดี เพียงแค่เป็นลูกค้า มิตซู นิวตัน คุณสามารถแวะมาดื่มกาแฟฟรีได้ทุกวัน พร้อมห้องพักคอยในบรรยากาศอบอุ่น พร้อมเสียงเพลงบรรเลงเหมือนนั่งในร้าน กาแฟคาเฟ่ มีพื้นที่เวิร์กสเปซให้คุณนั่ง
ทำงานได้พร้อม Wi-Fi ฟรี

ถึงเดือนมิถุนายน เราพร้อมทุกอย่างยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ เกินครึ่งของยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ในช่วงปกติ ส่วนของงานบริการเริ่มเยอะขึ้น เป้าหมายการขายรถใหม่ คาดกว่าต่อจากนี้อีก 6 เดือน น่าจะทำได้ตามเป้าที่ 40 คันต่อเดือน เมื่อถามถึงความเป็น มิตซู นิวตัน ต้องบอกว่าธุรกิจโตได้ และต้องโตไปด้วยกันกับทีมงานทุกคน ด้วยคุณภาพการทำงาน ทำร้อยได้ร้อย ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ เพราะพนักงานของเราส่งต่อความรู้สึกดีๆ ด้วยหัวใจในงานบริการ จนมีคำกล่าวที่ว่า เมื่อคิดถึงมิตซูบิชิ ต้องนิวตัน ส่วนถามว่ามองอนาคตไว้อย่างไร… ปีหน้ายังไม่รู้ แต่เราไม่ลดค่าใช้จ่ายในการลดคน เราปรับโครงสร้างการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเพิ่มปริมาณงาน เชื่อว่าถ้าโควิด-19 กลับ
มารอบสอง เราแข็งแกร่งพร้อมรับมือ

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งโชว์รูมของมิตซูบิชิ ที่มีโอกาสต้องไปเยียมเยือน “กรังด์ปรีซ์” ประทับใจในความสะดวกสบาย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนเวลารอนำรถเข้าเช็กระยะมาเป็นความเพลิดเพลินจะนั่งพักผ่อนในมุมโปรด ดูหนัง ฟังเพลงหรือเลือกจิบกาแฟ พูดคุยกับบาริสต้าได้เผลอแป๊บเดียว รถเช็กเสร็จเรียบร้อย ใครมี มิตซูบิชิ ลองไปใช้บริการดู สะดวกทั้งคนกรุงเทพฯ และปริฆณฑล