MITSUBISHI XPANDER ส่องเวอร์ชั่นอินโดฯ ก่อนพบตัวจริงในไทยกลางปีนี้แน่นอน
เป็นข่าวคราวมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา กับการที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ ประเทศไทย เตรียมจะนำ รถครอสโอเวอร์ อย่าง Mitsubishi XPANDER (เอ็กซ์แพนเดอร์) เข้ามาขายในประเทศไทย ซึ่งก็แว่วอย่างชัดเจนมาว่าจะมีการแนะนำรถยนต์รุ่นนี้ภายในประเทศไทยปีนี้อย่างแน่นอน
ใจความสำคัญหลัก คือ นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอินโดนีเซีย พร้อมกับการได้รับสิทธิ์เป็นผู้ผลิตรถรุ่นนี้ด้วยนั้น พบว่ามียอดจองถล่มทลายจนไม่สามารถจะแบ่งปันพอจะส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศอื่นได้ในเบื้องต้น พร้อมด้วยเหตุจำเป็นหลายประการส่งให้ต้องเลื่อนการเปิดตัวในประเทศไทย
ซึ่งกว่าจะไปถึงเวลานั้น เพื่อเป็นการยั่วน้ำลายสำหรับผู้ที่เฝ้าคอยและสนใจ ในฉบับนี้ทีมยวดยานได้ส่งผู้สื่อข่าวพิเศษไปร่วมทดสอบรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้กันไกลถึงประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งน่าจะเป็นการทดสอบสมรรถนะครั้งแรกในภูมิภาคแถบนี้
สำหรับรถ 7 ที่นั่งของมิตซูบิชิ แบบครอสโอเวอร์ อย่าง เอ็กซ์แพนเดอร์ ในครั้งนี้ จะเป็นทริปการทดสอบจากเมือง ยอกยาการ์ตาไปยังเมือง เซอมารัง ในเซ็นทรัล จาวา เพื่อไปดูกันว่าทำไม เอ็กซ์แพนเดอร์ จึงกลายเป็นที่นิยมในอินโดนีเซีย เป็นอย่างมาก
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เป็นรถซีดานครอสโอเวอร์แบบ 7 ที่นั่งที่ถูกออกแบบและผลิตในโรงงานแห่งใหม่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (MMC) ในจังหวัดเบกาซิ ของอินโดนีเซีย เผยโฉมออกมาครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 ที่กรุงจาการ์ตา และเริ่มเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2560
เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ดูจะเป็นรถที่มีความเหมาะสมเข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอินโดนีเซีย มีการวางจำหน่ายด้วยกัน 4 รุ่น เริ่มจากรุ่น GLX Manual Transmission (MT), GLX Plus Automatic Transmission (AT), GLS AT และรุ่นท็อปสุดคือ GLS Sport
โดยทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส 4A91 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วาล์วแปรผัน MIVEC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร
จากการออกแบบโดยรวม เอ็กซ์แพนเดอร์ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของมิตซูบิชิ ที่จะตอบโจทย์และเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่ดีให้กับลูกค้า ด้วยการใช้แนวคิดการออกแบบ DYNAMIC SHIELD หรูหราด้วยกระจังหน้า แบบโครเมียม-รมดำ สำหรับในรุ่น GLS Sport และรุ่น GLS AT สีดำเงาสำหรับรุ่น GLX Plus (AT )และ รุ่น GLX MT
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟ LED แบบคริสตัลและการออกแบบไฟหน้าแบบเฉพาะตัว พร้อมรูปแบบหลอดไฟที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ส่วนโคมไฟด้านท้ายเป็นแบบ LED รูปตัว L ซึ่งเป็นดีไซน์ใหม่และถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรถรุ่นนี้ ยกระดับให้รถดูสปอร์ตมากขึ้นด้วย การใส่ล้อแม็กซ์ ขนาด 15 นิ้ว ในรุ่น GLX และล้อแม็กซ์สีทูโทน ขนาด 16 นิ้ว สำหรับรุ่น GLX Plus, GLS และ GLS Sport
ขนาดความยาวของตัวถังโดยรวมอยู่ที่ 4,475 มม. พร้อมกับการออกแบบพื้นที่ภายในให้มีพื้นที่ใช้สอยอย่างสะดวกสบาย ใช้งานได้อย่างแท้จริงและเพียงพอสำหรับผู้โดยสารผู้ใหญ่ 7 คน และยังใส่ใจออกแบบให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่งสามารถเข้าออกตัวรถได้อย่างสะดวกอีกด้วย
ส่งผลให้สามารถเข้าออกที่นั่งในแถวที่สามได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนบริเวณเบาะนั่งแถวที่สองเน้นความสะดวกสบายของผู้โดยสารเป็นหลัก พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง วางแขน วางขาได้อย่างสะดวก มีความใส่ใจในคุณภาพของวัสดุอุปกรณ์ภายในมากยิ่งขึ้น ทำให้ดูหรูหรา ผสมผสานหารใช้งานทุกอย่างได้อย่างลงตัว
สำหรับการขับขี่ เอ็กซ์แพนเดอร์ให้ทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม ด้วยความสูงจากใต้ท้องรถถึง 205 มม. ส่งผลให้ตำแหน่งที่นั่งสูงขึ้น เพื่อปรับตำแหน่งการมองเห็น ลดจุดอับทางสายตายยามขับขี่ลง กระจกด้านหน้ามีความกว้างขวาง รวมถึงเสาเอด้านหน้าอยู่ในตำแหน่งที่กว้างขึ้นเช่นกัน จึงทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน ในขณะที่กระจกมองข้าง ช่วยให้มั่นใจได้ถึงมุมมองด้านหลังที่ชัดเจนขึ้น
ด้านพื้นที่ใช้สอยไปจนถึงการเก็บสัมภาระต่าง ๆ เอ็กซ์แพนเดอร์มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมากถึง 1,630 ลิตร สามารถปรับพับเบาะแถวที่สองและสาม เพื่อรองรับการจัดเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างหลายรูปแบบตามการใช้งานและไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน
นอกเหนือจากความโดดเด่นภายในห้องและความสะดวกสบาย เอ็กซ์แพนเดอร์ ยังใส่ใจในรายละเอียดด้วยการเพิ่มช่องจัดเก็บอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อยๆ ไปจนถึงของมีค่าอื่นๆ พร้อมด้วยปลั๊กไฟขนาด 12V แบบมีให้พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารในทุกแถวที่นั่ง
รองรับความสุนทรีย์ยามขับขี่ ด้วยชุดเครื่องเล่นวิทยุ และ MP 3 ขนาด 2-DIN หน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว มีระบบ GPS Navigation System พร้อมช่องต่อเสริมพอร์ต USB การเชื่อมต่อบลูทูธ พวงมาลัยมีการติดตั้ง Remote Control Audio และ Cruise Control เพื่อให้ควบคุมได้ง่ายขึ้นในระหว่างขับขี่
ด้านความปลอดภัย เอ็กแพนเดอร์ ใช้โครงสร้างตัวถัง RISE (Reinforced Impact Safety Evolution) อันเป็นกรรมสิทธิ์ของมิตซูบิชิมอเตอร์ส ซึ่งช่วยป้องกันและดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ยังติดตั้งระบบเบรค ABS (Anti-locking Braking System) เพื่อช่วยในการขับขี่ และป้องกันการลื่นไถลบนผิวถนนลื่น พร้อมระบบ ESS (Emergency Stop Signal System) แจ้งเตือนไฟฉุกเฉินกระพริบอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกแบบกระทันหัน เพื่อเตือนผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหลังช่วยป้องกันการชน
ด้านสมรรถนะในการทดลองขับ ผู้สื่อข่าวพิเศษรายงานว่า แม้จุดเด่นที่สุกของรถคันนี้จะเป็นเรื่องของความอรรถประโยชน์ของห้องโดยสาร แต่เอ็กซ์แพนเดอร์ก็ยังมอบการขับขี่อันแสนสะดวกสบายให้อีกด้วย ช่วงล่างเซ็ทมาได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งในการเข้าโค้ง หรือการใช้ความเร็วสูงในช่วงทางตรง ก็ให้สมรรถนะที่ดี ทั้งยังมีเสียงรบกวนทั้งจากเครื่องยนต์และภายนอกมีเข้ามาในห้องโดยสารน้อยมาก พละกำลังของเครื่องยนต์เพียงพอต่อการใช้งานและดูจะมีความสมดุลกันดีกับขนาดตัวถัง ช่วยให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทำออกมาได้ดีเช่นกัน
ทั้งหมด ทั้งมวล เป็นการรีวิวผ่านผู้สื่อข่าวพิเศษของเราในประเทศอินโดนีเซีย แม้จะยังไม่ชัดเจนแน่นอนว่า หลังจากถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยภายในปีนี้ สเป็คของตัวรถจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมดหรือไม่ แต่ในภาพโดยรวมถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งของมิตซูบิชิ โดยผู้สื่อข่าวพิเศษของเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่เหมาะสำหรับตลาดอาเซียนและคนไทยอย่างแน่อน โดยเฉพาะในเรื่องของความประหยัด และน่าจะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เข้ามาช่วยให้การแข่งขันในตลาดเอสยูวีขนาดเล็กคึกคักมากยิ่งขึ้น ส่วนราคาจำหน่ายและรายละเอียดของตัวรถสำหรับเวอร์ชั่นในประเทศไทย จะเป็นอย่างไร อดใจรออีกไม่นานแน่นอน
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th