Mitsubishi Xpander 2022 ครองอันดับ1 MPV 7ที่นั่ง โกยยอดขายกว่า 1.2หมื่นคัน
Mitsubishi Xpander 2022 ครองอันดับ1 MPV 7ที่นั่ง โกยยอดขายกว่า 1.2หมื่นคัน Mitsubishi Xpander รถยนต์ crossover สำหรับครอบครัวคนรุ่นใหม่ ชูจุดเด่นที่ความเป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่นและครบครันด้วยความสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รูปลักษณ์ภายนอกที่เท่บึกบึน และภายในที่สะดวกสบาย อุปกรณ์อำนวยควาใมสะดวกครบครัน ส่งผลในยอดขายรวมในปี 2022 ของ Mitsubishi Xpander สามารถทำยอดขายรวมได้ 12,547 คัน ขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์ MPV 7 ที่นั่ง
ยอดขายรถยนต์ในกลุ่ม | MPV | 7 ที่นั่ง |
MITSUBISHI XPANDER | 12,547 | คัน |
TOYOTA VELOZ | 10,887 | คัน |
SUZUKI XL7 | 1,925 | คัน |
HONDA BR-V | 1,045 | คัน |
ปี2018 เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย
Mitsubishi Xpander เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2018 มาพร้อมเครื่องยนต์ MIVEC ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ มี 2 รุ่นย่อย คือ 1.5 GLS-Ltd A/T ราคา 779,000 บาท และ1.5 GT A/T 849,000 บาท
ปี2020 เปิดรุ่นไมเนอร์เชนจ์
ต่อมาในปี 2020 มิตซูบิชิ ประเทศไทยได้ปล่อย Mitsubishi Xpander ไมเนอร์เชนจ์ออกมา โดยเปลี่ยน กระจังหน้าใหม่ดูหรูหราขึ้น เปลี่ยนล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนเสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม Shark Fin เปลี่ยนสีเทา จาก Titanium Grey เป็น เทา Graphite Grey และปรับเพิ่ม 4,000 บาท ในรุ่น 1.5 GT โดยราคาจะปรับเป็น1.5 GLS-Ltd AT 789,000 บาท และ 1.5 GT AT 863,000 บาท
ปี2020 เปิดตัว Xpander Cross
ในปี 2020 มิซูบิชิได้ปล่อยรุ่น Mitsubishi Xpander Cross ออกมาเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า โดยการเปลี่ยนล้ออัลลอยเป็นขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ สีทูโทน เปลี่ยนยางเป็นขนาด 225/50 R17 เปลี่ยนช่วงล่าง โช็คอัพ และ สปริงใหม่ ยกสูงอีก 20 มิลลิเมตร เปลี่ยนไฟหน้าเป็นแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าเป็นแบบ LED กระจังหน้าเป็นแบบ Cross Design
เพิ่มการ์ดกันชนล่างด้านหน้า ด้านหลัง และการ์ดกันกระแทกประตูด้านข้าง เพิ่มคิ้วซุ้มล้อสีดำ เพิ่มราวหลังคา เปลี่ยนคิ้วเหนือป้ายทะเบียน สีดำเงา Black Gloss เปลี่ยนโทนสีภายในห้องโดยสาร สีทูโทน ดำ – น้ำตาล เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีทูโทน ดำ – น้ำตาล เพิ่มสีตัวถังภายนอก ใหม่ ส้ม Sunrise Orange Metallic และปรับราคาเพิ่ม 40,000 บาทจากรุ่นปกติ เป็น 899,000 บาท
ปี2022 ปล่อย Xpander Cross 2022 (เกียร์ CVT)
และในปี 2022 ได้มีการปล่อย Mitsubishi Xpander Cross 2022 โดยมีการเปลี่ยนแผงแดชบอร์ดด้านหน้าดีไซน์ใหม่พวงมาลัย 3 ก้าน ดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารเป็นสีทูโทน ดำ – น้ำเงิน หน้าจอเครื่องเสียง ขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบสัมผัส Touchscreen เครื่องปรับอากาศ พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิตอล และฟังก์ชั่น Max Cool เปลี่ยนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผัน CVT เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold & Release และราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 20,000 บาท โดยจำหน่ายที่ราคา 939,000 บาท
ปี2022 เปิด Xpander ไมเนอร์เชนจ์ (เกียร์ CVT)
หลังจากนั้นในได้มีการไมเนอร์เชนจ์ Mitsubishi Xpander ครั้งใหญ่อีกครั้งโดยเปลี่ยนดีไซน์ด้านหน้าด้านหลังใหม่ เริ่มจากกระจังหน้า Dynamic Shield ในส่วนแถบกระจังหน้าที่เป็นโครเมียมปรับเปลี่ยนมาเป็นวัสดุสีดำ รวมถึงช่องรับลมด้านหน้าออกแบบให้เป็นลายตาข่ายรูปแบบรังผึ้งสีดำ ชุดไฟส่องสว่าง Multi-reflector เปลี่ยนเป็นรูปทรงตัว T
กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟตัดหมอก LED ทรงกลม ดีไซน์ด้านหลังปรับใหม่ มาพร้อมดิฟฟิวเซอร์ท้ายปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้น ล้ออัลลอยสีทูโทนลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว และตัวรถสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 1 นิ้ว เปลี่ยนโช้คอัพใหม่ใหญ่ขึ้น เพิ่มความหนืดในจังหวะรีบาวด์ ขณะที่สปริงยังเป็นสเปกเดิม
ภายในอัพเกรดหน้าจอทัชกรีนเป็นขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แผงแดชบอร์หน้า และพวงมาลัยออกแแบบใหม่ บริเวณคอนโซลกลางเปลี่ยนจากเบรกมือแบบคันโยก เป็นเบรกมือไฟฟ้า พร้อมปุ่มออโต้เบรกโฮลด์ ทำให้มีพื้นที่มากขึ้นมาพร้อมที่พักแขน และช่องบรรจุขวดขนาด 600 มล. และมีที่ใส่กระดาษทิชชู่ไว้ให้ด้านใน แผงควบคุมระบบปรับอากาศเปลี่ยนใหม่เป็นแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิทัล รวมถึงช่องแอร์ และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่มากับดีไซน์ใหม่ ติดตั้งช่องชาร์จ USB Type-A และ Type-C ทั้งด้านหน้าและเบาะที่นั่งด้านหลัง รวมถึงในเบาะแถวที่ 3 บริเวณด้านข้าง ยังได้ติดตั้งช่อง Power Outlet ไว้ด้วย
แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์เดิมคือ เบนซิน 4 สูบ ขนาด1.5 ลิตร MIVEC วาล์วแปรผันฝั่งไอดี ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที มีการเปลี่ยนระบบส่งกำลังใหม่จากเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ เป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือเกียร์ CVT นั้นเอง
ทำให้อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ 13.4 วินาที ซึ่งดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 วินาที เลยทีเดียว นั้นเป็นผลของการเปลี่ยนมาใช้เกียร์ CVT เพราะมันมีจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ และถ่ายทอดกำลังได้ดีกว่าเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดนั้นเอง
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยการขับขี่ติดตั้งมาครบครัน ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
ระบบเสริมแรงเบรก (BA) ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า และกล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด โดยราคาจำหน่ายอย่ที่ รุ่น GT ราคาเริ่มต้น 863,000 บาท และรุ่น GLS-LTD ราคาเริ่มต้น 789,000 บาท
ปี 2023 เตรียมเปิดตัว Xpander Cross 2023
ล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้วว่า มิตซูบิชิประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Mitsubishi Xpander Cross 2023 ใหม่ปรับโฉม เน้นเปลี่ยนดีไซน์หน้า-หลัง รวมถึงการตกแต่งรอบคัน และภายใน โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้ https://www.mitsubishi-motors.co.th/
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th