Mitsubishi Xpender Cross 2023 เตรียมพร้อมเปิดตัวในไทย กระตุ้นตลาด MPV ด้วยการปรับใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้นช่วงกุมภาพันธ์นี้  “มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่” โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบ รถอเนกประสงค์ พร้อมด้วยมาตรฐานที่เหนือระดับด้วย ฟังก์ชันแบบรถอเนกประสงค์ ที่เหนือกว่า มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ พร้อมภายในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง ที่สามารถตอบสนองทุกการใช้งานที่หลากหลายสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวคันใหม่ที่คุ้มค่า

ซึ่งเวอร์ชั่นปัจจุบันก่อนเปิดตัวราคาจำหน่ายอยู่ที่ 939,000 บาท ส่วนรายละเอียดเวอร์ชั่นใหม่ในไทยกรังด์ปรีซ์คาดว่าจะไม่แตกต่างในเวอร์ชั่นนี้มากนัก ไปดูกันเลย

NEW MITSUBISHI XPANDER CROSS อัพเกรดใหม่ ราคาขาย 939,000 บาท

เทียบ 4 MPV ในไทย BR-V , VELOZ , XPANDER , XL7 ก่อนตัดสินใจซื้อ

Mitsubishi Xpender Cross 2023 : ดีไซน์ภายนอก

ภายนอกมีความเปลี่ยนแปลงด้านหน้าดูสปอร์ตทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงดีไซน์เส้นสาย DNA ความเป็น Mitsubishi Xpender Cross แบบเดิมส่วนใหญ่ไว้ โดยมีการตกแต่งชุดไฟหน้าใหม่ในแบบ LED ทั้งหมด มาพร้อมดีไซน์ใหม่รูปทรง T-Shape ส่วนไฟเลี้ยวมีการปรับใหม่ให้ยาวมากขึ้นจนถึงกระจังหน้าแต่ยังเป็นรูปทรงเดิม ไฟสปอร์ตไลท์ปรับใหม่แบบ LED จากเดิมรูปทรงกลม กระจังหน้าสีดำปรับใหม่ ตำแหน่งป้ายทะเบียนด้านหน้าลดต่ำลงมาจากเดิม ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างเหมือนเวอร์ชั่นก่อนหน้า โดยรวมแล้วถือได้ว่าดีไซน์มีความสดใหม่มากขึ้นตามสไตล์รถยนต์อเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่ง

มุมมองด้านข้างเหมือนเวอร์ชั่นก่อนหน้า แต่ปรับดีไซน์ซุ้มล้อใหม่ แผงกันกระแทกตกแต่งบริเวณประตูแบบใหม่ มือเปิดประตูเป็นแบบสีเดียวกับตัวรถ คิ้วโครเมียมขอบหน้าต่างยังอยู่เหมือนเดิม ส่วนแร็คหลังคาเปลี่ยนมาใช้โทนสีดำ กันชนหลังแบบใหม่เพิ่มความบึกบึนตามสไตล์รถครอสโอเวอร์เช่นกัน ฝาท้ายสีเดียวกับตัวรถ ไม่มีคิ้วหรืออุปกรณ์ตกแต่งสีดำเหมือนรุ่นก่อน ไฟท้าย LED แบบ T-Shape ส่วนล้ออัลลอยทูโทนดีไซน์ใหม่ขนาด 205/55 R17

ตัวเลขมิติตัวถัง ยาว  4,595 มิลลิเมตร x กว้าง  1,790 มิลลิเมตร x สูง  1,750 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อ Wheelbase ยาว  2,775 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance  220 มิลลิเมตร

Mitsubishi Xpender Cross 2023 : การออกแบบภายใน

Mitsubishi Xpender Cross มีจุดขายอยู่ที่ความเป็นรถยนต์แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เป็นรถยนต์สำหรับครอบครัวที่คุ้มค่า ซึ่งผู้บริโภคหลายคนหลังจากที่ได้สัมผัสประสบการณ์รถยนต์ในเซ็กเม้นท์นี้แล้วต่างให้ความเห็นว่ามันเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลายด้าน ช่วยยกระดับการเดินทางในเรื่องความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี โดยเวอร์ชั่นใหม่ที่จะเปิดตัวในไทยน่าจะใกล้เคียงกับตัวที่ขายเวอร์ชั่นอินโดนีเชียที่เติมแต่งช่องว่างของรายการอุปกรณ์บางอย่างให้ทันสมัยมากขึ้น และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ครบ

ดีไซน์ส่วนใหญ่เหมือนเดิมห้องโดยสารทูโทน ดำ-น้ำเงิน ไล่ตั้งแต่คอนโซนหน้าสีดำ จุดเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนคือพวงมาลัยรูปทรงใหม่ พร้อมสวิตซ์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พวงมาลัยยังคงปรับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออกได้เหมือนเดิม ใหม่…หน้าจอมาตรวัดแบบ LCD -ขนาด 8 นิ้ว ดูสปอร์ตมากขึ้น เพิ่ม Wireless Charger

ส่วนของเดิมที่ยกมาจากเวอร์ชั่นก่อนหน้า ระบบหน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว (เหมือนเดิม) สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้ครบ มาพร้อมกล้อง 360 องศา ระบบปรับอากาศดิจิตอล (รูปทรงแบบเดิมแต่เวอร์ชั่นต่างประเทศมีการปรับช่องแอร์ใหม่) พร้อมฟังก์ชัน Max Cool เย็นสบายเร็วทันใจด้วยการสั่งงานเพียงปุ่มเดียว

เบาะนั่งแบบสะท้อนรังสีความร้อน Heat Guard ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกยังมีให้ครบครัน ทั้งช่องใส่ของ ที่วางแก้วน้ำ ที่ใส่ของจุกจิกต่างๆ รวมทั้งจุดชาร์จ USB Type A และ C แถวสองที่มีให้ใช้ได้สะดวกสบาย นอกจากนี้ระบบปุ่มควบคุมต่างๆ ในรถรุ่นนี้ยังเป็นไฟฟ้าทั้งหมด อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Break Auto Hold

ส่วนจุดเด่นอย่างการพับเบาะปรับพับอิสระหลากหลายรูปแบบ เบาะแถวสอง 40:20:40 มีพนักวางแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ เบาะแถวสาม 50:50 โดยเบาะคู่หน้ายังสามารถปรับเอนนอนราบกับเบาะแถวสองได้ มีปุ่มสตาร์ท พร้อมวัสดุบุนุ่มในจุดสัมผัสต่างๆ

เครื่องเดิม 1.5 ลิตร ปรับระบบส่งกำลังใหม่แบบ CVT

เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,499 ซีซี.  MIVEC DOHC 16 วาล์ว มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ CVT ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (Mitsubishi Innovative Value Timing Electronic Control System)

ความจุถังน้ำมันขนาด 45 ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E 20 ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม มาพร้อมดิสก์เบรกด้านหน้า และดรัมเบรกด้านหลัง

Mitsubishi Xpander CROSS 2023 : ระบบความปลอดภัย

ในส่วนของระบบความปลอดภัยใน Mitsubishi Xpender Cross 2023 ยังไม่มีเพิ่มเติมเมื่อดูจากสเป็กเวอร์ชั่นอินโดนีเซีย ส่วยของเดิมที่มีขายในไทยรุ่นปัจจุบันคือ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC ระบบป้องกันรถลื่นไถล TCL ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS ระบบป้องกันล้อล๊อก ABS ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS ระบบป้องกันการโจรกรรม และระบบสัญญาณกันขโมย Immobilizer ถุงลมนิรภัยด้านคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้าฯลฯ

กำหนดการเปิดตัวของ Mitsubishi Xpander CROSS 2023 เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 นี้ โดยคาดการณ์ว่าราคาจะมีการปรับขึ้นจากเดิมเล็กน้อย

“มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส ใหม่ มาพร้อมกับแนวคิด ‘อีกขั้นกับ SUV ที่เป็นคุณ’ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบ รถอเนกประสงค์ พร้อมด้วยมาตรฐานที่เหนือระดับด้วย ฟังก์ชันแบบรถอเนกประสงค์ อาทิ ความแข็งแกร่ง ความโดดเด่น และความสูงของตัวรถจากพื้น

สะดวกสบายเหนือระดับ พร้อมภายในห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง ภายใต้แนวคิด ‘Mitsubishi Motors–ness’ ที่สามารถตอบสนองทุกการใช้งานที่หลากหลาย ครบครัน และสะดวกสบายระดับพรีเมียมให้แก่ผู้โดยสารทุกคน”

เรื่อง  : ณัฐพล จีระมงคลกุล

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th