MWM Spartan EV ลุยด้วยพลังงานไฟฟ้าจากพื้นฐานของรถจี๊ปรัสเซีย
ดูเหมือนว่าเทรนด์การแปลงรถเก่าให้เป็นรถไฟฟ้าจะมาแรงไม่มีตก เพราะ MWM Motors ซึ่งอยู่ในสาธารณรัฐเช็กซึ่งเป็นอีกบริษัทที่เดินมาในแนวทางนี้ ได้มีทางเลือกใหม่ด้วยการนำเอา UAZ Hunter ซึ่งเป็นเหมือนกับรถจี๊ปของรัสเซียที่ถูกผลิตและได้รับความนิยมในอดีตมาเปลี่ยนเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการลุยถิ่นทุรกันดารโดยใช้พลังงานไฟฟ้า แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Spartan EV
จริงๆ แล้วโครงการทำรถเอสยูวีไฟฟ้า Spartan EV จากรถเอสยูวี UAZ Hunter ของรัสเซียที่มีการผลิตตั้งแต่ปี 1971 และเคยถูกขายไปกว่า 2 ล้านคันใน 80 ประเทศโดย MWM Motors ถูกประกาศออกมาตั้งแต่ต้นปี 2020 แล้ว แต่จากการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้โครงการนี้ล่าช้าและเพิ่งมีการเปิดตัวรถออกมาไม่นานนี้ ซึ่งเมื่อนำมาแปลงเป็นรถไฟฟ้า บริษัทในสาธารณรัฐเช็กยังคงชิ้นส่วนดั้งเดิมของรถเอาไว้ให้มากที่สุด ยกเว้นในส่วนของเครื่องยนต์ที่ถูกถอดออก กระจังหน้าของรถที่เปลี่ยนใหม่ที่ช่องแนวตั้งในสไตล์ของรถจี๊ปแทนช่องแนวนอนแบบเดิม และเพิ่มเจอแสดงข้อมูลดิจิตอลเข้าไปที่แผงแดชบอร์ด
หลังการแปลงโดยฝีมือของ MWM Motors ทำให้รถในชื่อใหม่ Spartan EV มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าใต้ฝากระโปรงที่กำลัง 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ซึ่งเรียกได้ว่ามีกำลังสำหรับการลุยเพิ่มขึ้นจากรถเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ 2.7 ลิตร 128 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตรพอสมควร นอกจากนี้แม้จะถูกเปลี่ยนเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าแล้ว แต่รถก็ยังคงมาพร้อมกับเกียร์แมนนวล 5 สปีดเหมือนเดิม อย่างไรก็ตามความเร็วสูงสุดของรถอาจน้อยไปสักหน่อยเพราะอยู่ที่ 130 กม./ชม.
ในส่วนพลังงานสำหรับการลุยถิ่นทุรกันดารมาจากแบตเตอรีลิเธียมไอออนที่อยู่ในเคสป้องกันน้ำ โดยมีขนาด 63 kWh ให้ระยะการเดินทางได้ 150 กิโลเมตรต่อการชาร์จ โดยทางผู้ผลิตระบุว่า Spartan EV มาพร้อมกับระบบชาร์จแบบเร็วที่สามารถชาร์จพลังงานได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างหยุดพักการเดินทางเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน รวมทั้งยังมีระบบชาร์จพลังงานกลับจากการเบรกได้สูงสุดถึง 60 kWh นอกจากนี้รถยังมีทั้งการส่งกำลังไปฉพาะที่ล้อหลังเพื่อประหยัดพลังงาน และส่งกำลังทั้งล้อหน้าและล้อหลังเท่ากันสำหรับลุยเส้นทางออฟโรด
สำหรับผู้ที่ชอบการผจญภัยทาง MWM Motors ยังมีอุปกรร์เสริมให้เลือกติด Spartan EV อย่างกันชนเหล็กที่ด้านหน้า บันไดด้านหลังและรูฟแร็ก รวมไปถึงบันไดข้าง ส่วนตัวรถมีให้เลือก 4 สีทั้งสีเขียวเข้ม สีขาว สีเทาเข้ม และสีดำ สำหรับราคาของรถอยู่ที่ 39,900 ยูโร โดยมีการทำออกมาทั้งพวงมาลัยขวาและซ้าย
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th