NETA X ชูความกว้างห้องโดยสาร ตอบโจทย์การเดินทางในแบบครอบครัว
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยตอนนี้แข่งขันกันสูงมาก แต่ละค่ายพยายามมองหาจุดเด่นมาเป็นจุดขาย นอกเหนือจากเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัย รวมทั้งประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่สามารถขับได้ไกลขึ้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนั้นๆ จะตอบโจทย์ความต้องการมากน้อยเพียงใด
สัดส่วนตัวถังยาว 4,619 มม. กว้าง 1,860 มม. และสูง 1,628 มม. ระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,770 มม.
ระยะต่ำสุดจากพื้นถึงตัวถัง 156 มม. แต่พื้นที่ใต้ท้องเป็นที่ติดตั้งแบตเตอรี่ ทำให้ต้องระมัดระวังพอสมควร
แบตเตอรี่ติดตั้งเต็มพื้นที่ใต้ท้องรถ มีแผ่นอลูมิเนียมปิดเอาไว้ ป้องกันการกระแทกใต้ท้องได้ระดับหนึ่ง
ส่วน NETA X ถึงจะมาทีหลัง แต่ถือว่ามีจุดเด่นอยู่พอตัว โดยเฉพาะการเน้นย้ำถึงความกว้างและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ตามสโลแกน “เติมเต็มทุกโมเมนต์ กับนิยามใหม่ของความกว้าง” ซึ่งจุดนี้ถือว่ามีความชัดเจนดี และเหมาะกับการใช้งานในแบบครอบครัว เสริมด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระดับ 2.0 ระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม และสมรรถนะความแรง 163 แรงม้า ที่ทำตัวเลข 0-100 กม./ชม.ในเวลา 9.5 วินาที อาจจะรู้สึกว่าทำไมรถยนต์ไฟฟ้าทำเวลาเกือบ 10 วินาที คำตอบคือเป็นรถขับใช้งานทั่วไป ตัวถังขนาดใหญ่ เน้นใช้งานแบบครอบครัว จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำอัตราเร่งได้รวดเร็วขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามถือว่ามีอัตราเร่งที่เร็วระดับหนึ่งอยู่ดี
เบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าที่ออกแบบให้ตัวเบาะรองรับได้ทุกสรีระ ออกแบบสไตล์สปอร์ต มีความพรีเมียม
พวงมาลัยสีเดียวกับการตกแต่งภายใน ตัดขอบนอกของพวงมาลัยเป็นสีดำ ทำให้ดูมีดีไซน์ที่โดดเด่นขึ้น
หลังค่าซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยให้ห้องโดยสารมีความโปร่งโล่งมากขึ้น แต่แนะนำให้ติดฟิล์มกันแดดไว้หน่อยนะ
พื้นที่เบาะนั่งตอนหลังกว้างนั่งสบาย การเลือกใช้สีเบาะภายในเป็นสีน้ำตาลโทนนี้ทำให้รถดูหรีเมียมมากขึ้น
เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อีกเพียบ
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเบาะหลังคือที่วางแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ
พื้นที่ระหว่างขากับเบาะหน้าที่กว้าง ทำให้นั่งสบายไม่อึดอัด พร้อมแอร์หลังและช่องต่อ USB
ตามสเปคแล้วถือว่าห้องโดยสารออกแบบมาให้กว้างนั่งสบายในทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะพื้นที่เบาะหลังที่กว้างแบบนั่งไขว่ห้างได้สบายๆ โดยมีความยาวตลอดทั้งคัน 4,619 มม. กว้าง 1,860 มม. และสูง 1,628 มม. ระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,770 มม. ซึ่งฐานล้อที่ยาวระดับนี้ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารในส่วนของเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลังมีพื้นที่สำหรับวางขาได้กว้างมากๆ เสริมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจุถึง 508 ลิตร เมื่อพับเบาะจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 1,388 ลิตร และยังมีช่องเก็บของอเนกประสงค์ 24 จุด กระจายอยู่ทั่วทั้งห้องโดยสาร
ในด้านความสะดวกสบายมาพร้อมกับเบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ถึง 6 ทิศทาง วัสดุหุ้มเบาะค่อนข้างพรีเมียม ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมวัสดุบุนุ่มห้องโดยสารถึง 80% ของพื้นที่ ติดตั้งม่านบังแดดไฟฟ้า และหลังค่าซันรูฟแบบพาโนรามา ซึ่งคันที่ได้ลองขับนี้เป็นเบาะหนังสีน้ำตาลดูหรูใช้ได้ จุดที่น่าสนใจคือเบาะนั่งด้านหลังมีที่พักแขน และองศาของเบาะที่เอนกำลังดี ไม่ชันเกินไป ทำให้นั่งได้สบาย เนื้อฟองน้ำค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็ง ช่วยให้นั่งทางไกลได้สบายขึ้น รวมทั้งการออกแบบเบาะด้านหน้าที่ไม่บดบังทัศนวิสัยของผู้นั่งเบาะหลัง เมื่อเปิดซันรูฟยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าห้องโดยสารกว้างและโปร่งมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับ NETA X ยังคงมีระบบควบคุมรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ (NETA App) มาให้ใช้งาน มีช่องเชื่อมต่อ USB / Type-C รองรับการชาร์จสูงสุด 60W และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ที่สำคัญยังมีฟังก์ชันที่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ควรมีอย่างฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) ที่จ่ายกำลังไฟได้ สูงถึง 3.3 กิโลวัตต์ สามารถดึงพลังงานจากรถยนต์ไปใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้หลายอย่างพร้อมกัน
นอกจากนี้ ที่คอนโซลจะเห็นว่าติดตั้งหน้าจอสัมผัสที่ใหญ่ขนาด 15.6 นิ้ว หน้าจอความละเอียดสูง แสดงภาพได้คมชัดในทุกฟังก์ชันการใช้งาน สามารถเข้าถึงระบบนําทางแบบออนไลน์ การสตรีมมิ่งเพลง และการเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับระบบรถยนต์ได้อย่างราบรื่น มีระบบสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงระบบควบคุมรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ (NETA App) เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานะแบบเรียลไทม์ อาทิ การล็อค/ปลดล็อคประตู การควบคุมเครื่องปรับอากาศ การค้นหาตำแหน่งรถ รวมไปถึงการจองนัดหมายเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ
หน้าจอสัมผัสที่ใหญ่ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดสูง รวบรวมคำสั่งและการตั้งค่าต่างๆ เอาไว้ในนี้ทั้งหมด
การแสดงภาพจากกล้อง 360 รอบคัน มีความคมชัดสูง เลือกมุมมองรอบคันได้
มีจุดที่น่าสนใจอีกอย่างที่รอบรับในการขับขี่ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยระบบเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ADAS Level 2.0 ที่มีฟังก์ชันการทำงานเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา, เซ็นเซอร์ รอบคันและเรดาห์รวม 11 จุด, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control), ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะย่านความเร็วสูง(ICA)และความเร็วต่ำ(TJA) รวมไปถึงการควบคุมรถให้อยู่ในเลน เช่น ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน(ELKS) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน(LDW) และระบบช่วยเปลี่ยนเลนพร้อมระบบตรวจจุดอับสายตา(BSD) ถือว่าให้มาเต็มๆ แบบไม่กั๊ก
ในด้านราคายังมีความน่าสนใจ NETA X รุ่น Comfort มาพร้อมแบตเตอรี่ ลิเธียม ฟอสเฟส ไอออนขนาด 51.8 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 401 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ราคา 739,000 บาท ส่วน NETA X รุ่น Smart จับคู่กับแบตเตอรี่ ขนาด 62 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) ราคา 799,000 บาท เป็นราคาค่าตัวที่ไม่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน
ทีนี้ในส่วนของการขับต้องบอกว่า NETA X เป็นรถครอบครัวขนาดกลางที่ค่อนข้างมีความคล่องตัว น้ำหนักพวงมาลัยไม่เบาเกินไป ให้ความแม่นยำสูง สัมพันธ์กับระบบช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวล และให้ความหนึบกำลังดี อาจจะรู้สึกกระด้างไปบ้างเมื่อเจอเส้นทางขรุขระ แต่ด้วยเบาะนั่งที่ฟองน้ำนุ่มทำให้ความรู้สึกกระด้างลดลงไปมาก การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารทำได้ดี จะเริ่มได้ยินเสียงลมเข้ามาตั้งแต่ความเร็ว 120 กม./ชม. ขึ้นไป แต่เบาะหลังจะได้ยินเสียงยางที่ดังผ่านซุ้มล้อเข้ามานิดหน่อย ไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญหู
ในด้านการใช้พลังงาน ในวันที่ทดลองขับใช้เส้นทางจากบางนาไปอ่างศิลา ชลบุรี ระยะทางไปกลับราว 180 กิโลเมตร สังเกตุว่าระยะทางที่ขับกับตัวเลขแสดงระยะของแบตเตอรี่ทำให้ใกล้เคียงกัน ขับกลับมาถึงโชว์รูม NETA ที่บางนา-สุวรรณภูมิ ยังมีแบตเตอรี่พอให้ต่อได้อีกเกือบ 200 กิโลเมตร ถ้าการใช้งานปกติใน 1 วัน แบตเตอรี่ขนาดนี้เพียงพอแน่นอน แต่ถ้าจะเดินทางไปกลับกรุงเทพ-พัทยา ต้องวางแผนชาร์จไฟฟ้า 1 รอบแน่นอน เพื่อความสบายใจ
ที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง สิ่งสำคัญที่รถดีไซน์แบบนี้ต้องมีเอาไว้
NETA X อาจจะมาช้าไปหน่อย ในช่วงเวลาที่คู่แข่งรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนบุกตลาดในไทยอย่างหนักหน่วง ทั้งในเรื่องของราคา การออกแบบ และเทคโนโลยี ซึ่งราคาและเทคโนโลยี ถือว่าสู้ได้ แต่ต้องมาดูว่าเรื่องของศูนย์บริการและบริการหลังการขายจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ขนาดไหน อย่างน้อยๆ ยังพอสบายใจได้ว่ามีโชว์รูมและศูนย์บริการตอนนี้ทั่วประเทศ 40 แห่ง และมีแผนขยายเพิ่มอีกในปีหน้า
มองในภาพรวมถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มครอบครัวที่ทำออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานในกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก รวมถึงการขับใช้งานในเมือง ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ถ้ามองหารถตอบโจทย์ด้านพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างและดูพรีเมียม การเก็บสัมภาระ สไตล์ที่ดูทันสมัย การขับขี่ที่เน้นความสมดุลไม่ได้เน้นความแรงจนเกินไป NETA X เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างสบายใจในเวลานี้เหมือนกันนะ
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th