ในปี 2007 Audi สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเซกเม้นต์รถยนต์นั่งขนาดกลางด้วยการเปิดตัว A5 รถยนต์ที่เปรียบเสมือนงานศิลปะที่สร้างกระแสความสนใจจากผู้คนทั่วโลก และ 9 ปีต่อมา ผู้ผลิตรถยนต์แห่งอิงโกลสตัดท์ สร้างปรากฏการณ์อีกครั้งในการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมนิยามที่สวยหรู ‘New, Honed Look and High Tech Everywhere’ (ใหม่, เฉียบคม และเทคโนโลยีชั้นสูงรอบคัน)

New A5 Coupé สะท้อนให้เห็นภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง, รูปทรงสปอร์ต และความหรูหราสง่างาม การออกแบบที่สอดรับระบบแอโรไดนามิกที่ได้รับการพัฒนา รวมทั้งสมรรถนะที่น่าประทับใจของระบบช่วงล่างใหม่, ความแรงของเครื่องยนต์, ระบบความบันเทิง Infotainment ที่ทันสมัย และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ก้าวสู่อีกขั้น

เป็นเป้าหมายที่ทีมดีไซน์ของ Audi ต้องใช้ความพยายามยาวนานหลายปีเพื่อจะก้าวผ่าน A5 เจนเนอเรชั่นแรกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีช ในที่สุดพวกเขาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมา New Audi A5 Coupé รถที่สร้างอารมณ์ความรู้สึกใหม่, ทันสมัย และความคล่องตัว โดยสามารถถ่ายทอด DNA ความเป็นสปอร์ตที่สง่างามสู่รถรุ่นนี้ได้แบบเต็มภาคภูมิ

Audi A5 Coupé ที่จะเริ่มต้นขายในเยอรมนี (และบางประเทศในยุโรป) ช่วงปลายปีนี้ จะมีเครื่องยนต์เบนซิน TFSI 2 รุ่น และเครื่องยนต์ดีเซล TDI 3 รุ่น โดยข้อมูลในเว็บไซต์ของพวกเขาระบุว่าความแรงจะเพิ่มขึ้นระหว่าง 190 แรงม้า – 286 แรงม้า หากเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนสมรรถนะเครื่องยนต์ดีขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ และประหยัดน้ำมันดีขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์

สำหรับรุ่นท็อป Audi S5 Coupé สามารถก้าวขึ้นไปอยู่เหนือรถคู่แข่งในเซกเม้นต์นี้ ด้วยเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ 3.0 TFSI V6 ความแรง 354 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 21 แรงม้าจากรุ่นก่อน) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 4.7 วินาที และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 7.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร

ระบบส่งกำลังของ Audi A5 Coupé เรียกว่ามีความพิถีพิถันจนเหมือนออกแบบให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์ในแต่ละรุ่น โดยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์ S Tronic 7 สปีด ถูกจับคู่ใช้งานในเครื่องยนต์ 4 สูบ รวมทั้งเครื่องยนต์ 3.0 TDI (218 แรงม้า) ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro โดยระบบเกียร์ Tiptronic 8 สปีด จะถูกใส่ในเครื่องยนต์ดีเซล (286 แรงม้า) และรุ่น S5 Coupé

ระบบช่วงล่างใหม่เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ New A5 Coupé เพิ่มความสบายในการควบคุม และความคล่องตัวในทุกสถานการณ์ ทั้งการขับที่ต้องใช้ความเร็วสูงบนทางด่วนออโต้บาห์นของเยอรมนี หรือเส้นทางคดเคี้ยวบนภูเขา โดยมีระบบ Damper Control เป็นออปชั่นพิเศษให้เลือกติดตั้ง เพื่อปรับเลือกช่วงล่างผ่าน Audi Drive Select ให้เหมาะสมกับสภาพถนน เช่นเดียวกับระบบควบคุมพวงมาลัย Electromechanical Power Steering ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ปรับน้ำหนักให้เหมาะสมกับความเร็วของรถเพื่อการตอบสนองที่ดี

ในส่วนของตัวถังรถ ทีมวิศวกร Audi สามารถลดน้ำหนักรวมของ A5 Coupé ลงมาได้ 60 กิโลกรัม หากเทียบกับรุ่นก่อน โดยต้องขอบคุณวัสดุที่ใช้ในการผลิต และการดีไซน์รวมทั้งระบบแอโรไดนามิกที่พัฒนาขึ้นจนทำให้ Drag Coefficient (ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ) อยู่ที่ 0.25 สูงสุดในเซกเม้นต์นี้เช่นกัน

สำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ (Driver Assistance System) ได้รับการพัฒนาจนใกล้เคียงกับระบบขับอัตโนมัติ (Piloted Driving) ที่ใกล้เป็นความจริงในอนาคตอันใกล้ หรือจะบอกว่าเทคโนโลยีใน New Audi A5 Coupé แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรุ่นแรกไม่ผิดอะไรนัก ทั้งความแม่นยำมากขึ้นของระบบคำนวณอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, Active Lane Assist ระบบรักษาช่องจราจร และ Stop & Go Adaptive Cruise Control ที่ช่วยควบคุมรถแทนคนขับบนถนนที่จราจรติดขัด รวมทั้งระบบ Audi Pre Sense ที่ช่วยเตือนคนขับหรือหยุดรถอัตโนมัติหากตรวจจับคนหรือวัสดุกีดขวางที่จะเป็นอันตราย

สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเป็นครั้งแรกที่ A5 Coupé มีระบบ Audi Virtual Cockpit เป็นออปชั่นพิเศษให้เลือกติดตั้ง โดยจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT 12.3 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 540 พิกเซล รวมทั้งระบบนำทาง MMI Navigation Plus เป็นจอ 8.3 นิ้ว ติดตั้งบริเวณคอนโซลกลาง สามารถสั่งการผ่าน Touch-sensitive Touchpad ที่สามารถใช้นิ้วมือของเราเขียนตัวอักษรเพื่อค้นหาจุดหมายที่ต้องการหรือชื่อบุคคลในบันทึกโทรศัพท์ รวมทั้งการขยายขนาดแผนที่เหมือนการใช้งานบนสมาร์ทโฟนอีกด้วย ส่วนระบบสั่งงานด้วยเสียงมีการจดจำสำเนียงของผู้ใช้งาน รวมทั้งประโยคคำสั่งที่ใช้เป็นประจำ

การเชื่อมต่อระบบ Infotainment เป็นไปตามมาตรฐานปกติรองรับทั้ง Apple Car Play และ Android Auto ที่คนขับสามารถใช้งานได้เหมือนยกหน้าจอสมาร์ทโฟนของตัวเองมาไว้ในรถ รวมทั้งออปชั่นติดตั้งที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือบริเวณที่พักแขนตรงกลาง แต่หากเลือกติดตั้ง MMI Navigation Plus จะได้บริการเสริม Audi Connect สามารถติดตั้งซิมโทรศัพท์ในรถยนต์เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต (ให้บริการฟรี 3 ปีสำหรับลูกค้าในเยอรมนี และแถบยุโรป) แน่นอนว่ามีการต่อยอดสู่การให้ลูกค้าเลือกซื้อบริการเสริมอย่างการกระจายสัญญาณ Wi-Fi เพื่อให้ทุกคนในรถสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตระหว่างการเดินทาง โดยรองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 8 อุปกรณ์

นอกเหนือจากนี้มีบริการเสริมอย่างการโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบอัตโนมัติ, การควบคุมจากสมาร์ทโฟนผ่านแอพลิเคชั่น MMI Connect, นาฬิกาอัจฉริยะ หรือ Apple TV โดยสามารถสั่งล็อกประตูรถ, ตรวจหาตำแหน่งของรถยนต์ และเรียกดูสถานะของรถยนต์แบบเรียลไทม์

https://youtu.be/hU5Y2HSoIGo

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ภาพ: Audi Media Center

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th