BMW 3 Series อัปเดตเน้นห้องโดยสาร พร้อมปรับปรุงขุมพลัง
BMW ทำการอัปเดตให้กับ New 3 Series ทั้งตัวถังซีดานและแวกอนหรือ 3 Series Touring โดยเน้นไปที่การอัปเกรดในห้องโดยสาร และขุมพลังที่ขับเคลื่อนรถทำให้รุ่นสมรรถนะสูงมีแรงม้ามากขึ้น ขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมีระยะเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าไกลขึ้น
ความสดใหม่ที่เกิดขึ้นภายนอกของ New BMW 3 Series ทั้งตัวถังซีดานและแวกอนคือมี 2 สีใหม่ให้เลือกคือสีฟ้าเมทัลลิก Arctic Race Blue และสีแดงเมทัลลิก Fire Red ทำให้มีสีเมทัลลิกรวม 7 สีให้เลือก รวมทั้งรถที่มาพร้อมกับแพกเก็จ M Sport จะมีล้อ M Light-Alloy ใหม่ลายก้านคู่ขนาด 19 นิ้วสีดำ Jet Black หรือสีทูโทน นอกจากนี้การแต่งBMW Individual สำหรับทั้งตัวถังซีดานและแวกอนทุกรุ่นจะมีล้อ Light-Allot ลาย Y-spoke ใหม่ขนาด 19 นิ้วสีทูโทนให้เลือก
ห้องโดยสารของรถรู้สึกถึงการอัปเดตขึ้นด้วยการมีพวงมาลัยใหม่และไฟ Cascade Lighting อยู่ที่ช่องระบบปรับอากาศตรงกลาง โดยที่มี 9 สีให้เลือกแต่งในห้องโดยสาร และให้ความทันสมัยขึ้นด้วยอนิเมชันเมื่อเข้าและออกจากรถ รวมทั้งไฟสัญญาณสำหรับสถานการณ์ต่างๆ อย่างมีสายโทรศัพท์เข้าหรือเมื่อเปิดประตู
รถรุ่นใหม่ยังมีการปรับการแต่งในห้องโดยสารอย่างการใช้ไม้โชว์ลาย Fineline Light เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน 330i ส่วนรุ่น M340i มี M Aluminum Rhombicle แต่ง มีการอัปเกรด Sensatec ที่แผงแดชบอร์ด และมีออปชันให้ผู้ซื้อเลือกแต่งอย่าง Aluminum Fine Brushed หรือไม้ Ash Grey และคาร์บอนไฟเบอร์ รวมไปถึงระบบ Infotainment ของรถถูกอัปเกรดเป็น BMW Operation System 8.5 ที่มีหน้าโฮมสกรีนใหม่และการควบคุมที่เข้าใจง่ายขึ้น ทำให้มีการปรับควบคุมระบบปรับอากาศง่ายขึ้น พร้อมมีการปรับปรุงระบบนำทางและฟังก์ชัน Augmented View
การอัปเดตรถรุ่นปรับโฉมมีไปถึงใต้ฝากระโปรงหน้า โดยรุ่น M340i มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบใหม่ พร้อมมีระบบไมลด์ไฮบริด 48V 374 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตรโดยระบบไมลด์ไอบริดสร้างกำลังออกมา 11 แรงม้า ทำให้รถใช้เวลา 4.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 250 กม./ชม. โดยใช้ระบบส่งกำลัง Steptronic 8 สปีดเพื่อนำกำลังสู่ทุกล้อขของรถผ่านระบบ xDrive
ขณะที่เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบใน 330i ก็ได้รับการปรับปรุงโดยออกแบบใหม่ในส่วนของช่องไอดี ห้องเผาไหม้ และทางผู้ผลิตรถยนต์พรีเมียมจากเยอรมนียังบอกว่าใช้นวัตกรรมในส่วนของการควบคุมแคมชาฟต์ ระบบจุดระเบิด และเส้นทางระบายไอเสีย
ส่วนรุ่นปลั๊กอินไฮบริด 330e ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ในระบบส่งกำลัง Steptronic 8 สปีด มีกำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบ 292 แรงม้า มาพร้อมกับแบตเตอรีที่มีความจุมากขึ้นเป็น 19.5 kWh จากเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนเรชันที่ 5 ทำให้รถปลั๊กอินไฮบริดตัวถังซีดานเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 101 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังเป็นรถรุ่นแรกของบริษัทที่รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ Three-phase AC 11 kW ทำให้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 15 นาทีเพื่อชาร์จไฟจนเต็มความจุ
ค่ายกังหันฟ้า-ขาวยังระบุว่ามีการปรับแชสซีส์ของรถใหม่เพื่อให้มีความสมดุลย์ทั้งความสปอร์ตและความสบาย พร้อมปรับพวงมาลัยใหม่เพื่อให้ความสบายมากขึ้นเมื่อขับในโหมด Comfort ส่วนการขายรถรุ่นใหม่จะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024 นี้
อ่านต่อได้ที่นี่: Jaguar F-Pace 90th Anniversary Edition และ F-Pace SVR 575 Edition สองรถรุ่นพิเศษก่อนปิดฉากการผลิต
Jaguar ที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าหรูภายในปี 2025 บอกลารถเอสยูวีรุ่น F-Pace ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปซึ่งจะยุติการผลิตปลายปีนี้ ด้วยสองรถรุ่นพิเศษ F-Pace 90th Anniversary Edition และ F-Pace SVR 575 Edition โดยรถรุ่นแรกมีชื่อรุ่นพิเศษมาจากการฉลอง 90 ทศวรรษของนวัตกรรมและการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน ส่วนรุ่นหลังมีชื่อรุ่นมาจากจำนวนแรงม้า
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th