ส่องรถใหม่มีลุ้นเข้าไทยปลายปี 2020
ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี แน่นอนในปีนี้ทั่วทั้วโลกรวมทั้งประเทศไทยได้เจอกับสถาณการณ์โรคระบาด โควิด-19 อย่างที่ทุกคนทราบกัน จนทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว อุตสาหกรรมยานยนต์ก็เช่นกันหลายค่ายมีการเลื่อนเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกไปไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังดีที่พอมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆอยู่บ้างในช่วง 2 ไตรมาสแรก ทีนี้เรามาดูรถยนต์ใหม่ที่พร้อมเปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 นี้ หรือไม่ก็ไตรมาสแรกของปี 2021 กันดีกว่าว่ามีคันไหนน่าสนใจบ้าง
- MG HS Plug-in Hybrid
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า MG ประเทศไทย จะทำการเปิดตัว MG HS Plug-in Hybrid เป็นรถในกลุ่ม PHEV สู่ตลาดเมืองไทย โดยคาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2020 นี้ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2020นี้
MG HS Plug-in Hybrid ถือเป็นรถคันแรกสำหรับ MG ที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ตัวรถภายนอกมีพื้นฐานเดียวกับ MG HS แต่สิ่งที่เด่นชัดคือการเพิ่มสีตัวถังใหม่ สีฟ้า Copenhagen Blue มิติตัวถัง ยาว 4,574 มิลลิเมตร กว้าง 1,876 มิลลิเมตร สูง 1,664 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,720 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วย สีทูโทนน้ำเงิน-ขาว Monaco Blue ตกแต่งด้วยหนังแท้ผสมหนัง Alcantara ติดตั้งหน้าปัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว และชุดหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว พร้อมทั้งติดตั้งระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต Internet Car Intelligent System 3.0 มาให้ ระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Bose
เครื่องยนต์เบนซิน Direct Injection 4 สูบ แถวเรียง Blue Core ขนาด 1.5 ลิตร 1,490 ซีซี. GDI พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU Gearbox เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวมสูงสุด 291 แรงม้า 480 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 16.5 kW อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.6 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางไกลสุด 75 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.6 วินาที วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางไกลสุด 75 กิโลเมตร ส่วนราคาจะว้าวแค่ไหนเดือนพฤศจิกายน 2020 รู้กัน
- Mitsubishi Outlander PHEV
Mitsubishi Outlander ยังคงเป็นสไตล์เดิม Dynamic Shield ตั้งแต่กระจังหน้าใหม่ พร้อมไฟหน้า LED กันชนหน้าทรงเดิม แต่ไฟตัดหมอกมาใหม่แบบ LED ทรงกลมพร้อมกรอบเหลี่ยมและติดตั้งสเกิร์ตดีไซน์ใหม่ทั้งหน้า และหลัง สปอยเลอร์หลังใหม่ ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R18 มิติตัวรถ ยาว 4,695 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร สูง 1,710 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 190 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร ภายในจอแสดงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมเบาะนั่งหนังแท้คุณภาพสูงติดตั้งจากโรงงาน และออพชั่นเด่นทั้งพวงมาลัยมัลติฟังกชั่นสี่ก้าน Paddle-Shift พร้อมตกแต่งภายในใหม่ด้วยโทนสีดำ โดย Mitsubishi Outlander PHEV จะเป็นรถ SUV เบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC MIVEC ECI-Multi 4B12 ขนาด 2.4 ลิตร 2,359 ซีซี. กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnetic Motor 2 ตัว ด้านหน้า S61 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า 137 นิวตันเมตร และ ด้านหลัง Y61 กำลังสูงสุด 95 แรงม้า 195 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวม 236 แรงม้า 300 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion 300 volts ความจุ 13.8 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD โดยการคาดการณ์ Mitsubishi Outlander PHEV จะเปิดตัวช่วงปลายปี 2020 นี้ (ตามกำหนดเดิม)แต่ด้วยสถาณ์การณ์โควิด-19 อาจจะเลื่อนไปเปิดเดือนมกราคม 2021 เลยก็เป็นได้
- All New Nissan Navara
All New Nissan Navara คาดพร้อมเปิดตัวปลายนี้ 2020 นี้แน่นอนถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ส่วนดีไซน์ของ All New Nissan Navara ที่หลายท่านสงสัยว่ามันจะคล้ายรุ่นเดิมหรือไม่ ตอบได้เลยครับว่าไม่คล้ายเดิมแน่นอน การมีการออกแบบให้ดูบึกบึนและแข็งแกร่งงมากขึ้น มีไฟหน้าขนาดใหญ่รูปทรงเหลี่ยม แบ่งส่วนของไฟ LED Daytime Running Lights เป็นแบบ 2 ชั้น ขนาบอยู่ข้างๆกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่ขยายขนาดใหญ่กว่าเดิม การออกแบบที่ดูบึกบึนแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถูกใจสายลุยอย่างแน่นอน ส่วนงานดีไซน์อื่นๆ ยังไม่มีรายละเอียดออกมา เราก็แค่ได้วิเคราะห์จากเงาที่เห็นแว๊บๆไปก่อน ส่วนภายในนั้นแน่นอนต้องเปลี่ยนใหม่ ดีไซน์ใหม่อยู่แล้วเพราะดีไซน์แบบเก่ามันเชยล้าหลังคู่แข่งไปมากแล้ว มาใหม่ต้องใหม่หมด งานนี้นิสสันกลับมาผงาดในตลาดรถกระบะอย่างแน่นอน
ส่วนเครื่องยนต์เราได้ข่าวมาว่านิสสันจะทำการเปลี่ยนขุมพลังใหม่ให้กับ NAVARA ด้วยจากเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 เทอร์โบ จะเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.3 เทอร์โบคู่ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี. DOHC Twin-Turbo Intercooler (เทอร์โบคู่) กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- All New Mazda BT-50
หลังจากนิ่งเงียบมานานกับรถกระบะของค่ายมาสด้า ล่าสุดได้มีข่าวเรื่องการเปิดตัวของ Mazda BT-50 PRO 2020 โดยคาดว่าจะเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทย ออสเตรเลีย และยุโรปบางประเทศ โดยมีการย้ายไลน์ผลิตจากโรงงาน AAT ที่ระยองไปผลิตที่โรงงานของ Isuzu แทน โดยคาดว่า Mazda BT-50 PRO 2020 จะมีให้เลือก 3 ตัวถังเหมือนเดิม แม้ว่าจะใช้พื้นฐานเดียวกับ ISUZU D-MAX แต่เรื่องการดีไซน์มาสด้าจัดการเองทั้งหมดเพราะฉะนั้นหน้าตาไม่เหมือน D-MAX แน่นอน ด้านหน้าตัวรถยังคงยึดหลัก KODO Design ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า, กันชนหน้า และชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่ รวมถึงตัวบอดี้ที่เน้นไปที่ความบึกบึน ภายในอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนมาตรวัดแบบสี TFT, หน้าจอกลางเครื่องเสียง ขนาด 9 นิ้ว ระบบสัมผัส Touchscreen ,ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone, ลำโพง 8 ตำแหน่ง หน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า Head-up Display และ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger ถ้าพูดถึงดีไซน์โดยรวมอาจจะคล้ายๆD-MAX แต่ไม่เหมือนทั้งหมดนะครับ
เครื่องยนต์ของ Mazda BT-50 PRO 2020 แน่นอนจะใช้เครื่องยนต์ และ เกียร์แบบเดียวกับ ISUZU D-MAX มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ ดีเซล 1.9 VGS Turbo 1,898 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และ ดีเซล 3.0 VGS Turbo
2,999 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อม Turbocharger VGS แบบครีบแปรผัน และ Intercooler กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ระบะช่วงล่างหน้าใหม่แบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone with Coil Spring ส่วนด้านหลังเป็นแหนบยาวแบบ LONG SPAN เทคโนโลยีใหม่ WSSP มีการปรับจูนใหม่ทั้งหมดเพราะฉะนั้นฟิวลิ่งของ Mazda BT-50 PRO 2020 แตกต่างจาก D-MAX อย่างแน่นอน มีระบบล็อคเฟืองท้าย Electronic Rear Diff-Lock ระบบความปลอดภัย ระบบถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบเบรก ABS, EBD, BA และ ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ,ป้องกันการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบช่วยลงจากทางลาดชัน HDC ,ระบบเตือนมุมอับกระจกมองข้าง ,ระบบเตือนการชนด้านหน้า และ ช่วยเบรก (SBS),ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติด้านหลัง (SCBS-R) และกล้องรอบคัน 360 องศา
- Honda City Hybrid
รูปลักษณ์ภายนอกภายนอกของ Honda City รุ่น e-HEV RS ยังคงเอกลักษณ์ด้วยกระจังหน้าแบบ Solid Wing Face สีดำเงา พร้อมสัญลักษณ์ Honda แรงเงาพื้นหลังสีฟ้า ชุดไฟหน้าเป็นแบบ Full-LED มีการเชื่อมต่อด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยเส้น Character Line ที่มีมิติชัดเจน ด้านท้ายมาพร้อมชุดไฟท้ายแบบ LED นอกจากนี้ ยังติดตั้งล้ออัลลอย สีทูโทน ปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว มิติตัวถัง ยาว : 4,553 มิลลิเมตร กว้าง : 1,748 มิลลิเมตร สูง : 1,467 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,589 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance : 135 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ ไฮไลต์สำคัญของ Honda City เวอร์ชั่นมาเลเซีย อยู่ที่การติดตั้งทางเลือกขุมพลังมาให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน 1.5 ลิตร e:HEV เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี กำลังสูงสุด 97 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร จุดเด่นของขุมพลังนี้คือสามารถสร้างแรงบิดสูงสุดได้เทียบเท่า เครื่องยนต์เบนซิน N/A ขนาด 2.5 ลิตร เลยทีเดียว ใน Honda Fit e:HEV เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ทำตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 9.4 วินาที เท่านั้น และเบนซิน 1.5 ลิตร เบนซิน 4 สูบ DOHC ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า
แพ็กเกจอุกปกรณ์ความปลอดภัย Honda Sensing ระบบแสดงภาพมุมอับด้านหลัง บนจอกลาง Honda LaneWatch Camera เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold ดิสก์เบรก 4 ล้อ ตอนนี้ Honda City RS i-MMD หรือ Honda City Hybrid เปิดรับจองแล้วที่มาเลเซีย ส่วนในไทย คาดว่าเจอกันเร็วๆนี้ อย่างเร็วปลายปี 2020 นี้ พร้อมมาเลเซีย หรือ อาจเจอกันช่วงปี 2021 เป็นอย่างช้า
- All New City Hatchback
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า Honda Jazz ในประเทศไทยจะไม่มีอีกต่อไป แต่อย่าเพิ่งตกใจไปเพราะทางฮอนด้า ประเทศไทย มีแผนที่จะนำรถยนต์รูปทรง Hatchback มาแทนที่ Honda Jazz โดยจะเปลี่ยนรูปแบบใหม่หน้าตาจะไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น เพราะจะหันมาใช้พื้นฐานด้านหน้า และ งานดีไซน์ร่วมกับ All New City ตัวถัง 4 ประตูแทนนั้นเอง เพียงแต่ครึ่งคันหลัง จะถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด และ นี่แหละจะเป็น All New Honda Jazz หรือ อาจใช้ชื่อว่า All New Honda City Hatchback ในบ้านเรา
เครื่องยนต์ของ All New Honda City Hatchback จะเหมือนกับ City ที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้คือ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 998 ซีซี. ระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E20 ปล่อย CO2 99 g./km. เข้าโครงการ Eco Car Phase 2 และภายในห้องโดยสาร คาดว่า All New Honda City Hatchback จะใช้ดีไซน์ร่วมกับ All NEW Honda City ที่เปิดตัวไปแล้ว ก่อนหน้านี้
เรามารอลุ้นกันว่าเจ้าคันนี้ ฮอนด้า ประเทศไทย จะใช้ชื่อ Jazz เหมือนเดิม หรือ ใช้ชื่อ City Hatchback ใหม่ ในการทำตลาดรถรุ่นนี้ คาดว่าเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ช่วงปลายปี 2020 นี้
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th