New Ford Escape เอสยูวีที่ให้ความสปอร์ตคล้ายแฮทช์แบ็ก
ตอนที่ Ford ทำ Escape เจนเนอเรชั่นแรกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วได้มีการนำเข้ามาจำหน่ายในไทย แม้ว่าชื่อของรถคอมแพกต์เอสยูวีรุ่นนี้จะห่างหายไปจากบ้านเรา แต่ก็ยังคงมี Escape เจนเนอเรชั่นต่อๆ มาโลดแล่นในตลาดอื่นอยู่ โดยล่าสุดทาง Ford ในอเมริกาได้มีการเปิดตัว Escape รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ออกมาในรูปทรงที่สปอร์ตขึ้น เพรียวขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า
ทางผู้บริหารของ Ford อเมริกาเหนือระบุว่า Escape ถูกออกแบบให้มีรูปทรงที่เพรียวขึ้นและสปอร์ตขึ้นไปพร้อมกับความสามารถในการผจญภัยของรถเอสยูวี โดยตัวรถมีความกว้างมากขึ้นและยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่น้ำหนักเบากว่า 90.7 กก. และแม้ด้านหน้าของ Escape ใหม่จะทำให้คิดถึง Focus รุ่นล่าสุดซึ่งใช้แพลตฟอร์เดียวกัน แต่ทาง Ford บอกว่ากระจังหน้า Shield-Shaped 6 เหลี่ยมของ Escape ได้แรงบันดาลใจมาจาก Mustang เจนเนอเรชั่นที่ 6 ในขณะที่ด้านล่างทั้งด้านหน้าและหลังหยิบมาจากซูเปอร์คาร์รุ่น GT
Ford มี 4 ทางเลือกของเครื่องเยนต์สำหรับ Escape ใหม่ซึ่งรวมทั้งเครื่องยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด โดยรุ่นที่ให้กำลังขับเคื่อนมากที่สุดเป็นเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี EcoBoost ใหม่ 250 แรงม้า แรงบิด 372 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ด้วยเวลาที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเครื่องยนต์ปกติที่ไม่มีไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องอีกรุ่นเป็นเครื่อง EcoBoost 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบรุ่นใหม่ซึ่งมีกำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตัน-เมตร โดยเป็นเครื่องยนต์ที่มีความอัจฉริยะสามารถหยุดดการทำงาน 1 สูบในเวลา 14 มิลลิเซคันเมื่อไม่ต้องต้องการใช้เพื่อผลในการประหยัดน้ำมัน ในขณะที่รุ่นไฮบริดเป็นเครื่อง 2,500 ซีซี Atkinson ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ใหม่เช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งกำลังแปรผันร่วมกับไฟฟ้า โดยที่มีกำลังรวมจากสองระบบ 198 แรงม้า และสามารถทำความเร็วด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้สูงสุด 136 กม./ชม. ในขณะที่แบตเตอรี่ใช้เวลาชาร์จ 3.5 ชม.กับเครื่องชาร์จ 240 โวลต์ Level 2 และใช้เวลา 10-11 ชม. กับเครื่องชาร์จ 110 โวลต์ Level 1
นอกจากนี้ Escape ยังมาพร้อมกับระบบให้ความสะดวกแก่ผู้ขับอย่าง Active Park Assist 2.0 ซึ่งจะสามารถเข้าจอดในช่องจอดแบบขนานหรือตั้งฉากได้ด้วยการกดปุ่มโดยไม่ต้องหมุนพวงมาลัยหรือแตะเบรก หรือการทำงาน Evasive Steering Assist ซึ่งจะตรวจจับพาหนะที่เคลื่อนที่ช้าหรืออยู่นิ่งข้างหน้าพร้อมสนับสนุนในการควบคุมทิศทางเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชน ในขณะที่ Ford Co-Pilot360 ซึ่งเป็นการทำงานมาตรฐาน จะมาพร้อมการทำงานช่วยอย่าง Adaptive Cruise Control พร้อมระบบ Stop-and-Go และรักษาตำแหน่งกลางเลน ส่วนพื้นที่เก็บของใน Escape รุ่นใช้น้ำมันอย่างเดียวมีความจุ 1,061 ลิตร ในขณะที่รุ่นไฮบริดได้มีการลดขนาดของแบตเตอรี่ลงจนเหลือ 1 ใน 3 ของรุ่นเดิม
Ford จะเริ่มทำตลาด Escape รุ่นใช้น้ำมันและไฮบริดในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th