GWM เตรียมส่งรุ่นปรับโฉม New Haval H6 PHEV ทำตลาดต่อในประเทศไทย
New Haval H6 PHEV เตรียมเปิดตัวรุ่นปรับโฉมในประเทศไทย หลังจาก GWM Motor Thailand ยืนยันระหว่างงานแถลงข่าวทศทางการดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศ และประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ประกาศเตรียมเปิดตัว เอสยูวีปลั๊ก-อิน ไฮบริด New Havel H6 PHEV รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ในประเทศไทย ในปี 2568 โดยจะเป็นรถ ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม LEMON ของ Great Wall Motor จะมีสัดส่วนความยาว 4,703 มม. กว้าง 1,886 มม. สูง 1,730 มม. และมีความยาวของระยะฐานล้อ 2,788 มม.
ดีไซน์ภายนอกของรถมาพร้อมกับภาษาการออกแบบใหม่ โดยด้านหน้าของรถยังคงมีกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมกับลาย Matrix Chrome ลายใหม่ ขนาบข้างด้วยไฟหน้าใหม่ทรงเรียวยาว และไฟ Daytime Running Light ตัวแอลคว่ำที่ยาวลงมาถึงด้านข้างกันชน
GWM ปรับแผน ยืนยันประเทศไทยยังสำคัญ ทยอยเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น
ในส่วนของขุมกำลัง New Haval H6 PHEV จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะมีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 275 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 585 นิวตันเมตร โดยการใช้งานโหมดไฟฟ้าจะมีระยะการขับสูงสุด 83 กิโลเมตร
ในส่วนของห้องโดยสารคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเหมือนในรุ่นไฮบริด โดยจะมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนจอตรงกลางเป็นแบบลอยตัวขนาด 14.6 นิ้ว การแสดงข้อมูล Head-up Display ขนาด 9 นิ้วในเกรดสูงสุด พร้อมมียังคงมีคอนโซลกลางขนาดใหญ่เหมือนรุ่นก่อนหน้า โดยที่มีสองช่องวางแก้วน้ำมาให้ใช้และมีช่องระบบปรับอากาศด้านหลังคอนโซลกลางสำหรับเบาะหลัง ส่วนระบบปฏิบัติการของรถเป็น Coffee OS ที่ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ในการทำงาน
อุปกรณ์อื่นๆ ในห้องโดยสารยังมีที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย 50W เบาะหน้าปรับความอุ่นและระบายอากาศได้ รวมไปถึงมีระบบช่วยขับเลเวล 2 ที่ถูกระบุว่ามีมากกว่า 20 การทำงาน ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุ 560 ลิตร ซึ่งขยายเป็น 1,485 ลิตรได้ด้วยการพับเบาะหลัง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
ขอบคุณข้อมูล: GWM Thailand
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท และเราวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเป็นสองเท่า คือ 23,000 ล้านบาท สำหรับประเทศไทยภายใน 3 ปี รองรับกับตลาดในอนาคต ทั้งยังวางแฟนสนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่น รวมถึงการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน
“เราตั้งเป้ายอดขายในประเทศไทย ในปี 2567 อยู่ที่ 9,000-10,000 คัน ส่วนในปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 20,000 คัน ด้วยแผนการผลักดันให้มีการแนะนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ซึ่งเราเตรียมแผนในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ชะตัวและการแข่งขันสูง ซึ่งผมยืนยันว่าเราจะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยระยะยาว พร้อมนำเสนอิผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีแก่คนไทยอย่างต่อเนื่อง”
ปาร์คเกอร์ ฉี ยังเปิดเผย ถึงแผนกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการแข่งขัน ผ่าน 4 กลยุทธ์ด้วยกัน ทั้งด้านการปรับปรุงการดำเนินงาน การสร้างการเติบโต ไปจนถึงการขยายฐานลูกค้า โดยกลยุทธ์แรก คือ การปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยราคาที่เหมาะสม ไปจนถึงการนำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของประเภทเครื่องยนต์เข้ามา ซึ่งเตรียมที่จะแนะนำ HAVAL H6 HEV และ PHEV ไมเนอร์เชนจ์ รวมถึง GWM TANK รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล สู่ตลาดประเทศไทยในปี 2568 ส่วนในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โปร์ เตรียมจะแนะนำ SUV จำนวน 2 รุ่น