ก่อนหน้าที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ เรามาดูสิ่งที่คาดหวังจะได้เห็นจาก  New Honda Accord Hybrid ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นกว่าเดิม

1. สมรรถนะเครื่องยนต์: New Accord Hybrid ที่เพิ่งออกขายในสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังคงใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม 2.0-liter i-VTEC Atkinson Cycle ความแรง 143 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แต่ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าไฮบริดกำลังสูง 2 ตัวได้รับการพัฒนาใหม่สู่เจนเนอเรชั่นที่ 2 มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 181 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที (จากเดิม 166 แรงม้าที่ 3,857-8,000 รอบ/นาที)

ทำให้การผสานระหว่างเครื่องยนต์กับระบบมอเตอร์ไฟฟ้าของ New Accord Hybrid ให้กำลังสูงสูด 212 แรงม้า เพิ่มขึ้น 16 แรงม้าจากรุ่นปี 2015 กลายเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางไฮบริด (Midsize Hybrid Sedan) ที่มีสมรรถนะสูงสุดที่ขายในประเทศสหรัฐฯ

2. อัตราประหยัดน้ำมัน: New Accord Hybrid ผ่านการทดสอบตามข้อกำหนดของสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (อีพีเอ) สำหรับรถยนต์ที่จะออกขายในปี 2017 มีอัตราประหยัดน้ำมันในการวิ่งเส้นทางในเมือง และบนถนนไฮเวย์ 20.4 กม./ลิตร เป็นตัวเลขที่ดีขึ้นจากรุ่นปี 2015 ซึ่งอยู่ที่ 19.98 กม./ลิตร ทำให้ครองตำแหน่งรถยนต์นั่งขนาดกลางไฮบริดที่มีอัตราประหยัดน้ำมันดีที่สุดของสหรัฐฯ เช่นกัน

ขณะที่ Accord Hybrid โฉมปัจจุบันที่ขายในบ้านเรา มีอัตราประหยัดน้ำมันที่ 23.6 กม./ลิตร (ทดสอบในห้องทดสอบตามมาตรฐาน มอก. 2540-2554 และคำนวณตามข้อกำหนดทางเทคนิค UNECE REG. 101)

3. ความสะดวกสบาย: เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์คงเป็น Remote Engine Start ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศจากระยะไกล หลังจากมีให้ใน New Accord เครื่องยนต์เบนซินที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ (High-beam Headlights) ที่น่าจะถูกใส่เข้ามา

     4. ระบบความปลอดภัย: อันนี้คงจะคอนเฟิร์มได้ว่า New Accord Hybrid จะมาพร้อมมาตรฐานใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะระบบ Honda Sensing เป็นครั้งแรก จากทีเซอร์โปรโมทบนเว็บ Honda.co.th โดยประกอบด้วย :

• Adaptive Cruise Control (ACC): ระบบควบคุม และปรับความเร็วอัตโนมัติ ที่จะช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับตั้งค่าไว้ โดยจะช่วยปรับลดหรือเพิ่มความเร็วอัตโนมัติ ด้วยการใช้กล้อง และเรดาร์ตรวจจับรถคันหน้า
• Collision Mitigation Braking System (CMBS): ระบบเตือนการชนด้านหน้า ตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้อง และเรดาร์ พร้อมระบบช่วยเบรก
• Road Departure Mitigation (RDM): ระบบแจ้งเตือน และช่วยเหลือเมื่อรอออกนอกช่องทางเดินรถ รวมทั้งการจะช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางเดินรถที่ถูกต้อง
• Lane Keeping Assist System (LKAS): ระบบแจ้งเตือน และช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ

5. ระบบความบันเทิง: หากดูจาก New Accord จะมีการเปลี่ยนหน้าจอทัชสกรีนจะมีขนาด 7.7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay หรือสมาร์ทโฟนผ่านระบบ MirrorLink ส่วนการใช้แผนที่นำทางทั้ง Apple Maps และ Google Maps ยังต้องรอไปก่อน เช่นเดียวกับค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่ออกมารองรับแล้วเพียงแต่ทั้ง 2 บริษัทยังไม่เปิดให้ใช้งานในบ้านเราเท่านั้น

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ภาพ: Honda Media

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th