New Honda City 2023 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาเริ่มต้น 6.29 แสนบาท
New Honda City 2023 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคา เริ่มต้น 6.29 แสนบาท โดยเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ในทุกรุ่นย่อย และเพิ่มรุ่นย่อยขุมกำลังไฮบริด e:HEV SV เป็นทางเลือก ในราคา 7.69 แสนบาท
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีการปรับดีไซน์ใหม่หลายจุด ยกระดับความสปอร์ตด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน โฉบเฉี่ยวในทุกมุมมอง กระจังหน้า, กันชนหน้า, กันชนหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ พร้อมภายในสีใหม่เพิ่มความสปอร์ตพรีเมียม ห้องโดยสารกว้างขวาง, โปร่ง, โล่งสบาย และเทคโนโลยีความสะดวกสบายอันล้ำสมัยใช้งานง่ายตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่
New Honda City 2023 มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
• ฮอนด้า ซิตี้ เทอร์โบ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
»รุ่น V ราคา 629,000 บาท (+20,000 บาทจากรุ่นก่อน)
» รุ่น SV ราคา 679,000 บาท (+ 14,000 บาทจากรุ่นก่อน)
»รุ่น RS ราคา 749,000 บาท (+10,000 บาทจากรุ่นก่อน)
•ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
» รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท
» e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS), สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS), สีดำคริสตัล (มุก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก), สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น V)
– ข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 2.09%** พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี** และเฉพาะรุ่น e:HEV เพิ่มการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง** เมื่อจองและรับรถตั้งแต่ 5 กรกฎาคม–30 กันยายน 2566**
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น, **เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
– สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท, สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท, ราคาล้ออัลลอย รวม 4 วง ไม่รวมราคายาง, ราคาอุปกรณ์ตกแต่งรวมค่าแรงติดตั้ง ไม่รวม VAT 7% ดูรายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้ที่ https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city
New Honda City 2023 ที่สุดของยนตรกรรมซิตี้คาร์ ที่จะทำให้ทุกวันของคุณสมบูรณ์แบบ
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมคุณค่าที่ยกระดับซิตี้คาร์ไปอีกขั้น กับ 2 ขุมพลังทางเลือก เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ อีกทั้งยังขับสนุกและประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อม Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย เพิ่มเติมฟังก์ชันใหม่ ด้วยระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) มีเฉพาะในรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS
ครบครันด้วยความปลอดภัย อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)*, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)*, ถุงลม 6 ตำแหน่ง*, กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น
โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตพรีเมียมรอบคัน เช่น กันชนหน้า, กันชนหลัง, สเกิร์ตข้าง, สปอยเลอร์หลัง และกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตแบบ RS* ดีไซน์ภายในกว้างขวาง โปร่งโล่ง เสริมลุคสปอร์ตพรีเมียมใหม่กับเส้นสายสีแดง
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายที่เชื่อมต่อง่ายในไม่กี่ขั้นตอน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
ประสบการณ์สุดเร้าใจและท้าทายทุกการขับขี่ ด้วย 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน
• ขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 253 นิวตันเมตรที่ 0–3,000 รอบต่อนาที และยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 83 กรัม/กิโลเมตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ทั้งนี้ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสม ประกอบด้วย 3 โหมด: โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode), โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
>> ขุมพลัง TURBO: เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger มอบกำลังสูงสุด 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E20
New Honda City 2023 ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังก์ชันการทำงานหลัก ดังนี้:
•ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
•ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
•ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น V, SV และ RS) พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• และ ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ลุคใหม่ กับความสปอร์ตพรีเมียมรอบคัน ภายนอก โดดเด่นเหนือระดับในทุกรายละเอียด
• กันชนหน้าและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ •กระจังหน้าโครเมียม
• ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
•ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ • มือจับประตูด้านนอกโครเมียม (รุ่น SV และ e:HEV SV)
• กระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว • ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
•เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
• ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (รุ่น V) แบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
เสริมความสปอร์ตรอบคันยิ่งขึ้นและโฉบเฉี่ยวในทุกมุมมอง กับรุ่น RS และ รุ่น e:HEV RS
• กระจังหน้าสีดำเงาดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
• กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ตข้าง ดีไซน์ใหม่ เสริมความสปอร์ตแบบ RS
•สปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ตแบบ RS
• ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
• มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น RS และ e:HEV RS)
•ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED • ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
• ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (รุ่น e:HEV RS)
• เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา • ล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว
สะดวกสบายไปอีกขั้น กับห้องโดยสารที่กว้างขวาง โปร่ง โล่งสบาย
» ภายใน
• วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน (เฉพาะรุ่น V) และสีดำ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
•วัสดุหุ้มเบาะผ้า (เฉพาะรุ่น V) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
• มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม
ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้นกับรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS
• วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิก •วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์* อาทิ
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
•ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
• พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
•พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
•ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
•ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ปุ่ม ECON • กระจกมองหลังแบบตัดแสง
•ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
•ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
•ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร • ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
• พนักเท้าแขนด้านหน้า • พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
-ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับและหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก
(รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS)
•ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
• ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีและความปลอดภัยครบครัน* อาทิ
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
•กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
•ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
•ถุงลมคู่หน้า • ถุงลมด้านข้างคู่หน้า • ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
•ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
•ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
•ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
•เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ •เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าและหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
•ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
•ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) – ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
•สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “More Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว* ราคา 15,600 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 4,400 บาท รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เช่น กระบะใส่ของท้ายรถ สำหรับรุ่น TURBO ราคา 1,100 บาท สำหรับรุ่น e:HEV ราคา 1,250 บาท
นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่ Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น, สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น
ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือภายในงานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ แอนด์ อีวี เอ็กซ์โป 2023 ตั้งแต่วันที่ 5–9 กรกฎาคม 2566
ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศหรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 02-341-7777 หรืออ่านรายละเอียดทาง www.honda.co.th/city
ลูกค้าที่ลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม-30 กันยายน 2566 จะได้รับฟรี ขวดน้ำพับได้ มูลค่า 250 บาท**
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
but
in fact
as a result
again
also
and
and then
besides
equally
important
finally
further
furthermore
in addition
lastly
next
but
in fact
as a result
again
also
and
and then
besides
equally
important
finally
further
furthermore
in addition
lastly
next
but
in fact
as a result
again
also
and
and then
besides
equally
important
finally
further
furthermore
in addition
lastly
next
but
in fact
as a result
again
also
and
and then
besides
equally
important
finally
further
furthermore
in addition
lastly
next
but
in fact
as a result
again
also
and
and then
besides
equally
important
finally
further
furthermore
in addition
lastly
next