New Honda Freed รุ่นใหม่เผยโฉมก่อนเปิดตัวเดือนหน้า
Honda เผยโฉม New Freed รุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 3 ออกมาในเวบไซต์ของตนที่ญี่ปุ่น ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยรถมินิเอ็มพีวีรุ่นใหม่มีทั้งสไตล์รถเอ็มพีวีปกติและสไตล์แกร่งแบบรถเอสยูวี รวมทั้งมีระบบขับเคลื่อนไฮบริด e:HEV
New Honda Freed รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดในตัวเดือนหน้าถูกออกแบบภายนอกให้มีสไตล์ที่สะอาดเรียบง่าย โดยด้านหน้าของรถมาพร้อมกับไฟหน้าทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้ายาวที่มี 2 แถบไฟ Daytime Running Light อยู่ภายใน ด้านข้างรถมีเส้น Belt Line ที่สูงเฉียบคม และเน้นพื้นผิวที่เรียกว้างด้านข้างของรถ ส่วนด้านหลังมีฝาท้ายขนาดใหญ่พร้อมไฟท้ายทรงตั้ง
รถมินิเอ็มพีวีรุ่นใหม่มีให้เลือก 2 สไตล์คือFreed Air ที่มาในแบบรถเอ็มพีวีปกติ และFreed Crosstar ที่มีสไตล์แกร่งในแบบรถเอสยูวีด้วยการมีทั้งกระจังหน้า กันชนหน้า และกันชนหลังแตกต่างจากรุ่น Air รวมทั้งมีการแต่งที่กันชนหน้า ขอบล่างของกันชนหน้า ขอบล่างของประตู ขอบล่างของกันชนหลัง และคิ้วแต่งซุ้มล้อสีดำ นอกจากนี้ยังเสริมสไตล์แกร่งให้กับรถจากการแต่งทั้งที่กันชนหน้าและกันชนหลังด้วยแผงที่มีลักษณะเหมือนโลหะขัดเงา พร้อมมีไฟตัดหมอกและรูฟเรียลมากับรถ
ห้องโดยสารของรถถูกระบุว่ามีการออกแบบรูปทรงเบาะหน้าใหม่เพื่อให้สามารถเดินสู่ด้านหลังรถได้ง่าย นอกจากนี้ทุกเบาะของรถยังหุ้มด้วยผ้าที่มีควาทนทานและมีสัมผัสนุ่ม โดยรุ่น Air มีรูปแบบห้องโดยสารให้เลือกระหว่างแบาะ 3 แถว 6 ที่นั่งหรือเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ขณะที่รุ่น Crosstar มีให้เลือกระหว่างเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่งและเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่ง
รถยังให้ทั้งความสบายและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ด้วยการที่หากเป็นรูปแบบเบาะ 3 แถว 6 ที่นั่งจะมีเบาะแถวที่ 2 แบบ Captain Seat เพื่อให้เข้าสู่เบาะแถวที่ 3 ได้ง่าย และสามารถพับเบาะแถวที่ 3 เพื่อเปลี่ยนเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระได้ ขณะที่รุ่น Crosstar ที่มากับเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่งจะมีแผงโลหะด้านข้างพื้นที่เก็บของด้านหลัง และฝาท้ายของรถยังมีขอให้เกี่ยวสิ่งของเมื่อเปิดฝาท้ายขึ้นได้ขณะออกไปตั้งแคมป์ นอกจากนี้รถทั้งหมดยังมีช่องระบบปรับอากาศบนหลังคาสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
ห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับจอตรงกลางแบบลอยตัวพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเจเนเรชันใหม่ที่สามารถควบคุมระบบปรับอากาศและตรวจสอบตำแหน่งของรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน รวมทั้งมีการทำงานต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและช่วยขับอย่างเช่น ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมบอด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ช่วยจอดรถ ระบบช่วยเบรกเมื่ออาจเกิดการชน
ระบบขับเคลื่อนของรถที่ทางผู้ผลิตเปิดเผยออกมาคือมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าหรือทุกล้อ โดยมีทั้งใช้เครื่องยนต์สันดาปธรรมดา และระบบไฮบริด e:HEV ใช้มอเตอร์คู่สำหรับการขับเคลื่อนทุกล้อ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ทางผู้ผลิตจะเปิดเผยออกมาตอนเปิดตัวอย่างเป็นทางการเดือนหน้า
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th