New MG Maxus9 MPV ไฟฟ้าตอบโจทย์ครอบครัวและระดับ VIP
เอ็มจี สร้างกระแสเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนำเข้า New MG Maxus9 เข้ามาจำหน่ายในไทย โดยในรุ่น X ราคา 2,499,000 บาท และรุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นท๊อป ราคา 2,699,000 บาท เป็นรถสไตล์ MPV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100% รุ่นแรก สร้างปรากฎการณ์ยอดจองถล่มทลาย เพราะโดนใจกลุ่มเป้าหมายเต็มๆ อีกทั้งราคายังถูกกว่ารถในกลุ่มเดียวกันที่เป็นรถขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อีกด้วย
ทริปนี้มาครบทีม EV มีทั้ง New MG MAXUS9, MG ES, MG ZS EV และ MG4 เส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่
สำหรับไฮไลท์ที่ต้องพูดถึงนอกจากเทคโนโลยีเจ๋งๆ รอบคันที่จะเขียนถึงในลำดับถัดไป ขอมาโฟกัสกันที่เบาะนั่งแถวที่สองกันก่อน เพราะเป็นเบาะหนังที่นั่งได้สบายมากๆ และยังเป็นเบาะแบบ VIP Captain Seat ที่มีความพิเศษและล้ำสมัย เพราะสามารถควบคุมเบาะได้ผ่านหน้าจอ Touch Screen ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน สามารถเลื่อนที่พักแขนมาบังปิดเอาไว้ได้ เมื่อต้องการใช้งาน ดันเบาะพักแขนลงจะเห็นหน้าจอสัมผัสขนาด 4 นิ้ว ที่ตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอได้แบบไม่หน่วงเลย สามารถปลดล็อคหน้าจอได้แบบไอโฟน ซึ่งในเมนูย่อยสามารถสั่งให้เบาะนวด, จดจำตำแหน่งการนั่ง, อุ่นเบาะ, ระบายความร้อน, ปรับระดับการเอนของเบาะได้ และสั่งให้เปิด-ปิดกระจกข้าง หลังคาซันรูป ระบบปรับอากาศได้อีกด้วย โดยหน้าจอมีความละเอียดไม่ได้สูง แต่มีความคมชัดมาก มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนเวลาใช้งานจริงหน้าจอจะเป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายเหมือนกับหน้าจอสมาร์ทโฟน
เบาะนั่งแถวสอง VIP Captain Seat ที่มีลูกเล่นมากมาย เป็นไฮไลท์ของรถรุ่นนี้ และยังนั่งสบายอีกต่างหาก
เส้นแสงภายในห้องโดยสารที่สามารถปรับโทนสีได้ถึง 64 เฉดสี
ช่องต่อ USB ฝั่งผู้โดยสารที่ซ่อนตัวเองได้อย่างแนบเนียน
หน้าจอสัมผัสที่สามารถปรับระดับเบาะนั่ง กระจกไฟฟ้า หลังคาซันรูฟ
นอกจากนี้ เบาะนั่งแถวสองยังซ่อนช่องวางโทรศัพท์ ที่วางแก้ว และกดปุ่มภายในจะมีโต๊ะพับเด้งออกมา กางออกเป็นโต๊ะเล็กๆ ที่มากพอสำหรับวางโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13 นิ้วได้สบาย กลายเป็นพื้นที่ทำงานส่วนตัวได้อีกต่างหาก ถือว่าเป็นการคิดมาได้อย่างละเอียดสำหรับในเรื่องของการใช้งานเบาะนั่งแถวที่สองนี้ และยังเป็นไฮไลท์ของรถคันนี้อีกด้วย
ด้านการออกแบบภายนอก ถือว่าเป็น Luxury MPV ที่สะดุดตา ด้วยตัวถังขนาดใหญ่และมีความเรียบหรู มิติตัวถังยาว 5,270 x กว้าง 2,000 x สูง 1,840 มม. ระยะความยาวฐานล้อ 3,200 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 140 มม. ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางแบบ Run Flat กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง ฝาครอบเครื่องพร้อมช่องเก็บสัมภาระ หลังคา Dual Panoramic Sunroof และประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า
ส่วนภายในห้องโดยสาร ดีไซน์คอนโซลหน้าแบบ Double Layer พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ พร้อมการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ SOFT TOUCH และไฟห้องโดยสาร Ambient Light ถึง 64 สี เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่สองในรุ่น V แบบ VIP Captain Seat พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว (Digital Interactive Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมลำโพง 12 จุด ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB 9 จุด และช่องจ่ายไฟ AC Adaptor 220V รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมิติ แยกบริเวณด้านหน้าและหลังอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 ระบบกุญแจนิรภัยแบบอัจฉริยะ พร้อมระบบ Push Start และพิเศษกับกระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror (SMRM) ที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 เพราะผู้ขับเวลามองกระจกหลังจะเห็นเพียงภาพจากด้านหลังรถเท่านั้น จะมองไม่เห็นผู้โดยสารที่นั่งอยู่ ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หากใช้งานเป็นรถที่มีผู้ขับรถให้ ไม่จำเป็นต้องกั้นห้องเพื่อป้องกันสายตาจากผู้ขับนั่นเอง
ด้านสมรรถนะ E- PERFORMANCE แรงด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลัง 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาดความจุ 90 kWh พร้อมระบบระบายความร้อน ที่มีการจัดวางแบบ Cell To Pack สามารถขับได้ระยะทางสูงสุด 435 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP และแบตเตอรี่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
รวมทั้งติดตั้งระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.4 เมตร ระบบเบรกดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์ ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่สูง
ในส่วนของระบบการชาร์จมี 2 รูปแบบ ทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge การชาร์จแบบเร็ว DC Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 120 kWh และชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 5% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที* รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh และยังสบายใจได้ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่พร้อมให้บริการแล้วกว่า 129 แห่งทั่วประเทศ
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
ไม่เพียงเท่านี้ New MG Maxus9 มาพร้อมระบบโครงสร้างนิรภัยปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 25 ระบบ ได้แก่
- ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW)
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง
ส่วนในเรื่องของการขับใช้งาน โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ช่วงล่างเน้นความนุ่มนวล แต่ให้การเกาะถนนได้ยอดเยี่ยม เสียงลมเข้ามาน้อยมาก รวมทั้งเสียงยางที่ดังเข้ามาก็น้อยมากด้วยเช่นกัน พวงมาลัยสามารถปรับระดับน้ำหนักได้ มีความแม่นยำสูง แต่มีความรู้สึกว่าการหมุนพวงมาลัยไม่ค่อยนุ่มนวลสักเท่าไหร่ การทำความเร็วในการเร่งแซงถือว่าจัดจ้านมากๆ ช่วงล่างด้านหลังออกแนวแข็งนิดๆ แต่ถ้ามีผู้โดยสารนั่งเต็มรวมสัมภาระจะสัมผัสได้ถึงการควบคุมรถที่แต่งต่างจากเดิม จะมีความนิ่งมากขึ้น ไม่น่าเชื่อว่ารถไซส์ใหญ่ขนาดนี้ แถมยังเป็น MPV ไฟฟ้า จะขับได้สนุกแบบนี้ ปกติแล้วรถกลุ่มนี้คนซื้อจะไม่ได้ขับ คนขับจะไม่ได้ซื้อ แต่สำหรับ New MG Maxus9 คนซื้อจะชอบขับเองอย่างแน่นอน
ถือว่า New MG Maxus9 เป็นรถ MPV ไฟฟ้า 100% ที่ครบเครื่อง ตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัว สามาถขับเดินทางระยะทางไกลได้สบาย เพียงวางแผนการเดินทางและการแวะชาร์จไฟตามระยะต่างๆ เอาไว้ เพราะจากการลองใช้งานจริงด้วยความเร็ว 90-120 กม./ชม. สามารถขับได้ไกล 380 กม. และหากชาร์จไฟจากแบตเตอรี่ที่คงเหลือ 50% จะใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที แบตเตอรี่จะขยับขึ้นไปถึง 80% ทำให้ขับต่อได้อีกเป็นร้อยกิโลเมตร เป็นรถที่ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ที่ให้ความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงใช้เป็นรถ VIP ได้อย่างสบายๆ ในราคาที่เป็นเจ้าของได้มากกว่าอีกด้วย แล้วยังเป็น MPV ไฟฟ้ารุ่นเดียวในตลาดตอนนี้ ใครกำลังมองหารถสไตล์นี้อยู่ต้องรีบหน่อยล่ะ เพราะตอนนี้คิวจองยาวมาก
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th