กรังด์ปรีซ์ต้อนรับเดือนมกราคม ด้วยยนตรกรรมรุ่นใหม่ ที่จะพาคุณก้าวข้ามทุกข้อจำกัดเดิมๆ สู่การขับขี่แห่งอนาคต กับ NEW MITSUBISHI OUTLANDER PHEV ยนตรกรรมปลั๊กอินไฮบริด เอสยูวี ที่ผสาน 2 พลังงานขับเคลื่อน ทั้งจากน้ำมันและพลังงานไฟฟ้า สมรรถนะชั้นเยี่ยม และระบบความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อให้คุณเดินทางสู่ทุกจุดหมายได้โดยไร้ข้อจำกัด พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่โชว์รูมผู้จำหน่ายรถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV ในประเทศไทย

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ เป็นการผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย “ปาเจโร” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน” เจ้าแห่งสนาม “เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลก อย่าง “ไอ-มีฟ” (i-MiEV)

ELEGANT YET ENERGETIC DESIGN
พรีเมียมเอสยูวีที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น

ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว เน้นความหรูหราเหนือระดับ ในแบบฉบับดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารถโครเมียมรมดำ ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมระบบ Auto Light Control และระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Daytime Running Light ไฟท้ายแบบ LED Tail Lights ไฟตัดหมอกหน้าฮาโลเจน สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ติดตั้งราวหลังคาสีเงิน Silver Roof Rails สำหรับติดอุปกรณ์เสริม แข็งแรง ทนทาน กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ พร้อมไฟเลี้ยวและระบบไล่ฝ้า เสริมความหรูหราด้วยมือเปิดประตูด้านนอกแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ให้คุณสะดวกสบายกว่าที่เคย พร้อมด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

AESTHETIC & DELICATE DESIGN
ครบทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์ความคุ้มค่า กับทุกไลฟ์สไตล์ที่ลงตัว

ภายในประณีตทุกรายละเอียด ห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง ครบทุกฟังก์ชัน ตกแต่งด้วยสีเงินและลายกราฟิกสีดำ มาพร้อมกับเบาะหนังดีไซน์ใหม่แบบ ‘ไดมอนด์ ควิลติ้ง คัท’ ที่ให้ความสะดวกสบาย และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ตลอดการเดินทาง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า เบาะแถวที่สองพับเรียบแยกแบบ 60:40 พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ มาพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง ระบบล็อกความเร็ว Cruise Control และปุ่มควบคุมกล้องมองภาพรอบคัน สามารถกดรับสายโทรศัพท์และสั่งงานด้วยเสียงบนพวงมาลัย จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ High Contrast Meter with Multi-Information Display ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แบบแยกปรับอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อมช่องลมแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ปุ่มสตาร์ตแบบ One Touch Start System ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Brake Auto Hold

ระบบเครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto ติดตั้งลำโพง 6 ตำแหน่ง เชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน USB และ Bluetooth เสริมด้วยช่องต่ออุปกรณ์ USB หลังคอนโซลกลาง และช่องจ่ายกระแสไฟ AC 2 ตำแหน่ง พร้อมกันนี้ยังสามารถผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถเพื่อให้คุณได้สนุกสนานกับชีวิตแบบ Outdoor

HIGH PERFORMANCE IN CONTROL
ที่สุดของประสิทธิภาพการควบคุม

ครั้งแรกในประเทศไทย! กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยคุณสมบัติ “การควบคุมรถดังใจคิด” และ “สมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง” ประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking (ABS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control (ASC) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและล้อขวา Active-Yaw Control (AYC) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง ควบคุมแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ พร้อมเสถียรภาพ เพิ่มสมรรถนะและการควบคุม มั่นใจทุกการเข้าโค้ง

ระบบซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล ยังทำงานร่วมกับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ประกอบด้วย โหมดล็อก (มอบสมรรถนะเต็มรูปแบบของระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โหมดสโนว์ (ให้การควบคุม การยึดเกาะ และการควบคุมที่ดีเยี่ยม เมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น) โหมดนอร์มอล (ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่) และโหมดสปอร์ต (เพิ่มความแม่นยำของคันเร่ง การควบคุม และการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้ดีมากขึ้น) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะและลุยผ่านทุกสภาพถนน พร้อมช่วยรักษาเสถียรภาพ และเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

BEYOND PRACTICALITY
วิ่งได้ไกลยิ่งขึ้น ทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่
13.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถพาคุณไปได้ไกลโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ได้ถึง 55 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง เงียบ ประหยัด และปราศจากการปล่อยก๊าซ CO2 นอกจากนี้ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนดังกล่าว ยังให้คุณชาร์จไฟได้อย่างสะดวก โดยสามารถชาร์จไฟแบบปกติได้เต็ม 100% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 4 ชั่วโมง

เมื่อต้องการกำลังในการเร่งแซง Twin Motors ที่ถูกวางแยกในตำแหน่งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อสร้างกำลังขับเคลื่อนจากไฟฟ้า และเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมวาล์วไอดีแปรผันขนาด 2.4 ลิตร พร้อมทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบการทำงาน
เพื่อปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ หรือการถ่ายทอดกำลังลงสู่ล้อ เมื่อคุณต้องการกำลังของรถที่มากขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยระบบจะคำนวณและปรับโหมดการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเมื่อทั้ง 2 ระบบนี้ คือ น้ำมัน และไฟฟ้า ทำงานควบคู่กัน สามารถให้กำลังรวมสูงสุดถึง 305 แรงม้า นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E20 ได้อีกด้วย มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม.ต่อลิตร หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม. ตามมาตรฐาน NEDC มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำที่43 กรัมต่อ กม.

นวัตกรรมขับเคลื่อนอัจฉริยะ
ปรับเปลี่ยนโหมดโดยอัตโนมัติ

โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมดซีรีส์ ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และโหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน) โดยการขับขี่ทั้ง 3 รูปแบบ จะถูกสลับปรับเปลี่ยนโหมดแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบเบรกที่สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าคืน (Regenerative Braking) เพื่อทำการชาร์จกระแสไฟฟ้าให้แก่แบตเตอรี่

พร้อมกันนี้ ยังได้ติดตั้งเทคโนโลยี Mitsubishi Remote Control การเชื่อมต่อพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะผ่านแอปพลิเคชัน ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ โดยสามารถตั้งเวลาการชาร์จไฟฟ้า เพื่อให้รถยนต์พร้อมทำงานเต็มประสิทธิภาพ สั่งการเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศภายในรถจากระยะไกล และการตรวจสอบสถานะของตัวรถ ทั้งการล็อกรถ และปลดล็อก การเปิด-ปิดไฟในห้องโดยสาร การเปิด-ปิดประตูท้ายรถ ตลอดจนการหาตำแหน่งรถในเวลากลางคืนด้วยการเปิดไฟหน้าหรือไฟหรี่

ADVANCED SAFETY SYSTEM
ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดพร้อมปกป้องทุกชีวิต

ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด อาทิ ระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA) และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) โดยระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC) ไม่ได้ทำหน้าที่แต่เฉพาะรักษาระดับความเร็วให้คงที่เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ตรวจจับรถคันหน้า พร้อมควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยจนกว่ารถจะหยุด ฯลฯ

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น 3 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond, สีเงิน Sterling Silver และสีดำ Jet Black Mica เริ่มต้นที่ รุ่นจีที มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,640,000 บาท และรุ่น จีที พรีเมียม ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,749,000 บาท

โดยทั้ง 2 รุ่น หมดความกังวลในด้านค่าบำรุงรักษาด้วยแพ็กเกจ worry-free ประกอบด้วย ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร, ฟรี มิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ 5 ปี, ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี, ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี รับประกันคุณภาพพร้อมค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี และ พิเศษ สำหรับผู้ที่จองรถภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 รับค่าสนับสนุนการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน รวมมูลค่าสูงสุด 20,000 บาท