รีวิว ขับทดสอบ New Mitsubishi Pajero Sport 2024 ปรับเพิ่มออปชั่นใหม่ ราคาเริ่มต้น 1.38 ล้านบาท

การมาถึงของเครื่องยนต์ V6 ทั้งคู่แข่งโดยตรงในกลุ่มมิดไซส์เอสยูวี และรถกระบะ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เลือกที่จะไมเนอร์เชนจ์ให้กับ Pajero Sport เจเนอเรชั่น 2 ของรถอเนกประสงค์ยอดนิยมของพวกเขาที่เปิดตัวครั้งแรก เมื่อเดือนสิงหาคม 2015 ด้วยการเปลี่ยนขุมกำลังใหม่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง 2.4 ลิตร Hyper Power ที่ใช้งานในหลายรุ่นย่อยของรถกระบะ Triton เจเนอเรชั่นใหม่ รวมทั้งการปรับเปลี่ยนดีไซน์ และเพิ่มออปชั่นใหม่เข้ามา

ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนของ New Mitsubishi Pajero Sport 2024 จุดแรกต้องเป็นกระจังหน้าที่เป็นปกติของโมเดลไมเนอร์เชนจ์ โดยทีมออกแบบมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เลือกใช้ดีไซน์ใหม่แบบรังผึ้ง ทำให้แผงกันชนด้านหน้า-หลังต้องมีการปรับใหม่เช่นกัน รวมทั้งเลือกใช้สีดำคุมโทนความดุดันกับกระจกมองข้าง, มือจับประตู และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว ที่มาพร้อมยาง Yokohama Geolandar G94 265/60

ราคาจำหน่าย NEW MITSUBISHI PAJERO SPORT 2024 ทั้ง 4 รุ่นย่อย:

– Prime 2WD​: 1,389,000 บาท

– Ultra 2WD​: 1,529,000 บาท

– Elite Edition 2WD: 1,579,000 บาท

– Elite Edition 4WD: 1,689,000 บาท

ภายในห้องโดยสารออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ Sport & Premium ตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-แดง เบอร์กันดี (รุ่น Prime 2WD จะเป็นเบาะนั่งสีดำ) สลับด้วยสีไทเทเนียมรมดำบริเวณขอบประตู และรอบช่องแอร์ แต่ออปชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามา และทีมงานมิตซูบิชิ ภูมิใจนำเสนอคือเบาะหนังสังเคราะห์ใหม่ลาย Diamond Cut ที่มาพร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) โดยการทดสอบของพวกเขาเปรียบเทียบกับเบาะหนังทั่วไปเมื่ออยู่กลางแดด 30 นาที เบาะหนังสังเคราะห์ Heat Guard จะมีอุณหภูมิเย็นกว่า 9 องศาเซลเซียส นับเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่ต้องจอดรถกลางแจ้งเป็นหลัก

ในส่วนของผู้ขับขี่มีการติดตั้งพวงมาลัยมัลติ-ฟังก์ชัน แบบ 3 ก้านดีไซน์ใหม่พร้อมแป้น Paddle Shift หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Full Digital ขนาด 8 นิ้ว เพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้วยการติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า และออกแบบให้บริเวณด้านล่างคอนโซลกลางมีชั้นวางของเพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับอุปกรณ์ไอทีจากการที่ใส่ช่องเสียบอุปกรณ์ USB 2 ตำแหน่ง และ HDMI มาให้ รวมทั้งแท่นชาร์จแบบ Wireless Charger

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ จะเป็นมาตรฐานปกติ เช่น หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว บริเวณคอนโซลกลาง รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการณ์ (Apple CarPlay และ Android Auto), ชุดเครื่องเสียงพรีเมียม Mitsubishi Power Sound System ติดตั้งลำโพง 8 ตำแหน่ง และพาวเวอร์แอมป์, หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมต และหูฟังอินฟราเรด ช่องเสียบสาย HDMI และ USB ติดตั้งระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร nanoeX เพื่อลดความเสี่ยงจากมลพิษฝุ่น PM 2.5 และประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรีสามารถเปิด-ปิดได้ 5 รูปแบบ

ลัดเลาะเส้นทางเมืองนคร 270 กม.–ทดสอบขุมกำลังใหม่

การทดสอบ New Mitsubishi Pajero Sport 2024 จัดขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นเส้นทางการขับที่สื่อมวลชนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากกรุงเทพฯ และเพิ่งจะมีสายการบินเริ่มเปิดเส้นทางเพียงไม่กี่ไฟลต์ต่อวัน ทำให้แทบจะไม่เคยมีการจัดงานเทสต์ไดร์ฟที่เมืองเก่าแก่ทางภาคใต้แห่งนี้มาก่อน

เส้นทางทดสอบเริ่มต้นที่ร้านอาหาร Wanderwoods ในตัวอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ทีมงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เลือกเส้นทางสายรองเพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะของ New Pajero Sport 2024 รุ่นท็อป Elite Edition 4WD อย่างเต็มที่ โดยจุดหมายอยู่ที่อ่าวขนอม ระยะทางรวมประมาณ 270 กิโลเมตร

เริ่มต้นการทดสอบทีมงาน Grand Prix Online มีโอกาสสัมผัสความเปลี่ยนแปลงของเบาะนั่งแถวสองที่มาพร้อมเทคโนโลยี Heat Guard จากเบาะนั่ง Quole Modure ที่พวกเขานำมาใช้ในรุ่นก่อนหน้า โดยเท่าที่เป็นผู้โดยสารประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ มีความรู้สึกว่าตำแหน่งการนั่งไม่ค่อยรองรับสรีระร่างกายของคนรูปร่างใหญ่ (ความสูงประมาณ 180 เซนติเมตร) จากตำแหน่งวางขาที่ค่อนข้างน้อย และองศาพนักพิงที่ค่อนข้างชัน

เรื่องความไม่สบายของเบาะนั่งแถวสองกลายเป็นหนึ่งในคอมเมนต์ของสื่อมวลชนหลายคนเช่นกัน ในช่วงตอบคำถามกับทีมงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยพวกเขายอมรับว่าส่วนหนึ่งอาจมาจากการเปลี่ยนวัสดุเป็นหนังสังเคราะห์แบบ Heat Guard

เข้าสู่การขับช่วงที่ 2 ทีมงาน Grand Prix Online สลับมาเป็นคนขับบ้าง โดยพวงมาลัยมัลติ-ฟังก์ชั่น ดีไซน์ใหม่แบบ 3 ก้าน จะมีปุ่มควบคุมความเร็ว, ระบบเครื่องเสียง และกล้องแสดงภาพรอบคัน ตามมาตรฐานปกติ ส่วนเบาะนั่งค่อนข้างกระชับกับร่างกายนั่งสบายตามสไตล์รถเอสยูวี

แต่พอเริ่มต้นขับก็รู้สึกแปลกๆ กับน้ำหนักของพวงมาลัยที่ต้องอาศัยแรงในการหมุนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงความเร็วต่ำหรือยูเทิร์นกลับรถ ก่อนจะได้รับคำตอบว่า New Pajero Sport 2024 ยังคงใช้พวงมาลัยแบบไฮดรอลิกแปรผันตามรอบเครื่องยนต์ (แร็ค แอนด์ พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรง ตามข้อมูลในโบรชัวร์) ทำให้ในรอบเครื่องยนต์สูงจะมีน้ำหนักมากกว่าในรอบเครื่องยนต์ต่ำ รวมทั้งน้ำหนักตัวรถ และหน้ายางที่มีขนาดใหญ่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ทีมงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อธิบายข้อมูลเพิ่มเติมว่าเจ้าของรถยนต์ Pajero Sport ส่วนใหญ่จะใช้เดินทางไกล ทำให้พวกเขาเลือกพัฒนารุ่นปรับโฉมให้มีการขับที่สนุกเป็นหลักมากกว่า ทำให้เวลาเจอจราจรที่หนาแน่นบนท้องถนนอาจจะไม่สะดวกเท่าไรเวลาต้องเปลี่ยนเลนเท่าไรนัก

อย่างไรก็ตามจุดอ่อนนี้ถูกชดเชยด้วยเครื่องยนต์ใหม่รหัส 4N16 ขุมกำลังดีเซลคอมมอนเรล วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ 4 สูบแถวเรียง ความจุ 2.4 ลิตร Hyper Power พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ ที่มีกำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,250–2,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ 6 สปีด

หัวใจใหม่ของ New Pajero Sport 2024 สูบฉีดกำลังได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้นกว่าเครื่องยนต์รุ่นก่อน หลังจากเส้นทางทดสอบครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นถนน 2 เลนสวนกัน ทำให้มีโอกาสลองอัตราเร่งอยู่หลายครั้งในจังหวะที่ต้องแซงรถช้า โดยทุกครั้งที่กดคันเร่งลงไปเครื่องยนต์ตอบสนองส่งกำลังออกมาทันที เรียกว่าขับออกต่างจังหวัดสนุกอย่างที่ทีมพัฒนาของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตั้งใจจริงๆ

ระหว่างเส้นทางการขับมีทั้งเนินสูง และทางโค้งที่คดเคี้ยวไม่แตกต่างจากถนนแถบภาคเหนือ ทำให้สัมผัสการควบคุมของพวงมาลัยไฮดรอลิกที่มีน้ำหนักเบาขึ้นในช่วงความเร็วสูง ทำให้พอรวมกับระบบช่วงล่างที่ปรับใหม่ด้วยการเปลี่ยนโช๊คอัพด้านหลังที่มีการตั้งค่าความหนืดใหม่ ส่วนค่าอื่นๆ ยังเท่าเดิม ส่งผลให้เวลาผ่านทางขุรขระยังคงรู้สึกถึงความนุ่มนวล และการเข้าโค้งที่มีความแม่นยำเหมือนเดิม

ในส่วนของระบบเกียร์ที่เปลี่ยนจาก 8 สปีดในรุ่นก่อนมาเป็น 6 สปีด แทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในการใช้งาน โดยเหตุผลที่ลดลงเพื่อการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และที่สำคัญคือการทำให้ค่าไอเสียของ New Mitsubishi Pajero Sport 2024 อยู่ในมาตรฐาน Euro 5 ตามที่ประเทศไทยเพิ่งประกาศบังคับใช้

น่าเสียดายอย่างเดียวที่การทดสอบครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากรถเพิ่งออกจากโรงงานมาแบบสดๆ ร้อนๆ ทำให้ไม่มีโอกาสลองโหมดการขับขี่ Off Road อย่างเต็มรูปแบบ โดยรุ่นท็อป Elite Edition 4WD จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดร์ฟ ทู (Super Select 4WD II) เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส สามารถปรับเข้าสู่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบฟูลไทม์ (4H Full-time) ในขณะขับขี่ด้วยความเร็ว (Shift-on-the-Fly) รวมทั้งมีโหมด 4HLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง) และ 4LLc (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ)

นอกจากนี้หากขับในโหมด 4HLc จะสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 4 รูป ได้แก่ Gravel สำหรับการขับขี่บนทางฝุ่น, Mud/Snow สำหรับการขับขี่บนผิวทางที่ปกคลุมด้วยโคลนหรือหิมะ รวมถึงขณะที่ฝนตกซึ่งพื้นผิวถนนมีความลื่น, Sand สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวทราย และ Rock สำหรับขับขี่บนผิวทางที่ขรุขระหรือพื้นผิวหิน

สำหรับระบบความปลอดภัย New Pajero Sport 2024 ติดตั้งเทคโนโลยี Diamond Sense ประกอบด้วย:

•ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัติโนมัติ (Adaptive Cruise Control: ACC)

• ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System: FCM)

•ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (Ultrasonic Misacceleration Mitigation System: UMS)

• กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM)

•ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)

• ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist: BSW with LCA)

•ระบบปรับระดับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ (Auto Headlight Leveling System: AHLS)

• ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางผิดปกติ (Tire Pressure Monitoring System: TPMS)

การทดสอบครั้งนี้เรียกว่าเป็นการทำความรู้จักกับ Mitsubishi Pajero ในเวอร์ชั่นที่ล้ำสมัยแบบเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนใครถามหาเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร 204 แรงม้า ที่อยู่ใน Triton Athlete ตอนนี้ยังไม่มีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการ แต่มีเหตุผลอะไรล่ะที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จะไม่นำมาใส่ในรถอเนกประสงค์ยอดนิยมของพวกเขา?

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

รีวิว New Pajero Sport 2024