นับว่าเป็นรถยนต์ที่ไมเนอร์เชนจ์ที่สร้างกระแสได้ดีกว่าที่คิด New Nissan Kicks e-Power ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่านิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย วางกลยุทธ์อย่างไรถึงอัพเกรดระบบขับเคลื่อน, เพิ่มเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และใส่ความพรีเมียมสู่ห้องโดยสาร โดยทำราคาเริ่มต้นลงมาที่ 759,000 บาท หรือลดลงไป 130,000 บาท หากเทียบกับรุ่นเริ่มต้นในตอนเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2020

เรื่องนี้คงจะไม่มีใครให้คำตอบได้ดีไปกว่า อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย ผู้ที่เข้ามาพร้อมภารกิจในการปรับแบรนด์อิมเมจของ Nissan ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งในสายตาของลูกค้าชาวไทย หลังจากลุยเปิดตัวรถยนต์ใหม่ถึง 2 รุ่นในช่วงระยะเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 1 เดือน

New Nissan Kicks e-Power ทำไมราคาถูกลง?

การที่ราคาของ New Kicks e-Power 2022 ลดลงจากตอนเปิดตัวครั้งแรกเฉลี่ย 100,000-130,000 บาท หากเทียบระหว่างรุ่นย่อย โดยเซคิกุจิ อธิบายถึงที่มาที่ไปในการสัมภาษณ์หลังจบงานเปิดตัวว่า “เหตุผลที่ทำให้ New Nissan Kicks e-Power ประกาศราคาขายที่ลดลงมาจากเดิมอย่างที่ทุกคนได้รับทราบ เกิดจากการเลือกใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และอีกเหตุผลหนึ่งมาจากการที่นิสสัน เริ่มต้นการประกอบแบตเตอรี่ e-Power ในประเทศไทย ที่โรงงานผลิตในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีส่วนทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงจากเดิมอีกทางหนึ่ง”

ตารางเปรียบเทียบราคา New Nissan Kicks e-Power 2022 vs. All-New Nissan Kicks e-Power 2020

“แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งทุกคนคงทราบกันดีว่าราคาวัตถุดิบได้เพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับต้นทุนค่าขนส่ง ทำให้เราพยายามเต็มที่เพื่อให้นิว นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ เปิดตัวในราคาที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากที่สุด ด้วยการเลือกใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศมากขึ้น รวมถึงความทุ่มเทของทีมงานทุกคนที่พยายามทำให้เราสามารถประกาศราคาได้อย่างที่ทุกคนได้รับทราบจากบนเวทีเมื่อครู่นี้” บิ๊กบอสนิสสัน กล่าวอย่างมั่นใจ

สำหรับนิสสัน ประเทศไทย เพิ่งเริ่มประกอบแบตเตอรี่สำหรับเครื่องยนต์ e-Power ที่โรงงานนิสสัน พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย ในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นสายการประกอบแบตเตอรี่ e-Power นอกประเทศญี่ปุ่นแห่งแรก และเป็น 1 ใน 4 โรงงานทั่วโลกของ Nissan ที่มีศักยภาพในการประกอบแบตเตอรี่เพื่อใช้งานในรถยนต์ e-Power อีกด้วย

เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนที่ 2

ในงานเปิดตัว New Kicks e-Power 2022 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม หลายคนน่าจะสังเกตเห็นว่านิสสัน ประเทศไทย มีการปรับกลยุทธ์การตลาดด้วยการเลือกนักแสดงสาวชื่อดัง ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ เข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถยนต์รุ่นนี้ หลังจากเพิ่งได้ ณเดชน์ คูกิมิยะ พระเอกซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสริมภาพลักษณ์ให้รถกระบะ New Navara 2022 ในช่วงเวลาที่ห่างกันไม่ถึง 1 เดือน

ประธานนิสัน ประเทศไทย อธิบายกลยุทธ์การตลาดใหม่ที่เขาจัดการยกเครื่องในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่า “ผมเคยตอบคำถามที่คล้ายกันตอนที่เราแนะนำคุณณเดชน์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ New Nissan Navara ที่จังหวัดขอนแก่น ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่ผมมองว่าในช่วงหลายปีหลัง นิสสัน ประเทศไทย ไม่ได้เลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งที่เป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างต่อเนื่องหากมองในแง่ของแผนการตลาด”

“ทำให้หลังจากผมเข้ารับตำแหน่งในนิสสัน ประเทศไทย เมื่อราว 1 ปีก่อน เราได้มีการสร้างทีมใหม่เพื่อดูแลด้านมาร์เก็ตติ้ง แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงเหตุผลในการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ เราได้ค้นพบจุดอ่อนของ Nissan ในประเทศไทยคือภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Image) ที่ขาดความแข็งแกร่ง” เซคิกุจิ กล่าวต่อไปว่า “ผมทำการตรวจสอบ และศึกษาแผนการตลาดในอดีตของบริษัท ทำให้ผมได้รับรู้ว่า Nissan เป็นที่รู้จักของคนไทยในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่เน้นความคุ้มค่าด้านราคา (Affordable Car) นั่นหมายความว่า Nissan เป็นแบรนด์รถยนต์ราคาถูก (Cheap Brand) ในสายตาของคนไทย”

“ผมมองว่าแนวคิดของ Nissan ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือการขายรถยนต์ให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนนำไปสู่การเสนอโปรโมชั่นที่ให้ส่วนลดสูงกว่ารถยนต์แบรนด์อื่นๆ และหากคุณเลือกที่จะใช้วิธีการแบบนี้ต่อไป Nissan จะไม่มีทางสร้างแบรนด์อิมเมจที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้”

“และทั้งหมดนี้ทำให้เราย้อนกลับไปศึกษาแผนการตลาดในอดีต จนทำให้ทีมงานชุดปัจจุบันเกิดความคิดที่จะนำแบรนด์แอมบาสเดอร์กลับมานำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ของ Nissan ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านกลยุทธ์การตลาด เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้ลูกค้าชาวไทย และนำไปสู่การสร้างแบรนด์อิมเมจที่แข็งแกร่งในอนาคต”

เซคิกุจิ ที่มีประสบการณ์ในตลาดรถยนต์อาเซียนจากการดูแลงานด้านการตลาดของภูมิภาคนี้ รวมทั้งเคยเป็นประธานนิสสัน อินโดนีเซีย อธิบายเพิ่มเติมว่า “ซึ่งคุณจะได้เห็นส่วนหนึ่งผ่านโฆษณาชุดใหม่ของ New Nissan Kicks e-Power ที่จะเผยแพร่พร้อมการเปิดตัวของคุณใบเฟิร์น เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจในข้อความหลักที่เราต้องการสื่อสารสู่ลูกค้าชาวไทยผ่านโฆษณาชุดนี้ ด้วยการใช้ความเป็นนักแสดงสาวที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล และความมีอารมณ์ขันที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ ทั้งหมดนี้ถูกนำเสนอเพื่อแสดงให้เห็นว่า New Nissan Kicks e-Power สามารถมอบอะไรให้กับผู้ใช้งาน ทั้งในด้านมุมมองทางเทคโนโลยี, การสร้างความเข้าใจในระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งในรถยนต์ และการจัดวางตำแหน่งราคาใหม่ที่จะสร้างความดึงดูดใจแก่ลูกค้าชาวไทยมากยิ่งขึ้น”

“ในตอนนี้นิว นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ สามารถกำหนดฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่หากเทียบกับเจเนอเรชั่นแรกที่เราวิเคราะห์ว่าเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับกลุ่มคนที่มีอายุราว 40 ปี และมีรายได้ระดับสูง แต่ด้วยราคาใหม่ที่มีการอัพเดตหลายอย่างในตัวรถ รวมถึงการเพิ่มรุ่นใหม่ AUTECH”

“ทำให้เราสามารถมองไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น เป็นกลุ่มอายุที่เด็กลงกว่าเดิม เป็นรถยนต์ที่บ่งบอกถึงตัวตนของผู้ใช้งาน และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้ทีมงานของเราลงความเห็นว่าควรจะเลือกคุณใบเฟิร์น เข้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนิว นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์”

นอกจากนี้บิ๊กบอสนิสสัน เปิดเผยว่าในช่วงก่อนการเปิดตัวมีลูกค้าที่แสดงความสนใจจะจองรถ New Kicks e-Power 2022 เข้ามาแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คัน และเชื่อว่าจะมียอดจองสูงขึ้นหลังจากประกาศราคาอย่างเป็นทางการ โดยมีการเตรียมรถพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าเกือบทุกรุ่นย่อยทันที

>> ขณะเดียวกันข้อมูลที่ทีมงาน Grand Prix Online สอบถามทางตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของ Nissan แห่งหนึ่ง ได้รับการคอนเฟิร์มว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขามียอดจอง New Kicks e-Power ไปแล้วราว 60-70 คันเลยทีเดียว<<

Nissan กับอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่ารถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน e-Power เป็นเหมือนเทคโนโลยีที่เข้ามาคั่นกลางช่วงเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์จากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันไปสู่ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% จนกลายเป็นคำถามที่ เซคิกุจิ ไม่อาจเลี่ยงในทุกครั้งที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

“เรื่องหนึ่งที่ชัดเจนคือ Nissan ยังคงมีแผนการลงทุนในประเทศไทยต่อไป โดยมีแผนจะเพิ่มความสดใหม่ให้โมเดลที่ขายอยู่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ผมคงไม่อาจให้รายละเอียดใดๆ แต่สิ่งที่ผมสามารถให้คำตอบได้คือ Nissan จะยังคงทำธุรกิจในประเทศไทยต่อไป” เซคิกุจิ กล่าวถึงภาพรวมของแผนการลงทุนในประเทศไทย ก่อนจะขยายความสู่รถยนต์ไฟฟ้าที่จนถึงปัจจุบันจะมีเพียง Nissan Leaf เป็นเพียงตัวเลือกเดียวในตลาดประเทศไทย “อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเราได้แนะนำ Nissan Leaf สู่ประเทศไทย เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง”

“ด้วยเหตุนี้เราต้องปรับกลยุทธ์ในการโปรโมตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมทั้งศึกษาทางเลือกอื่นๆ โดยแผนระยะสั้นของ Nissan ในตอนนี้คือการมอบโปรโมชั่นด้านการเงินให้ลูกค้า พร้อมกับเดินหน้านำเสนอระบบนิเวศของรถยนต์ไฟฟ้าสู่ลูกค้าชาวไทย ตอนนี้เราได้มีการทำงานร่วมกับหลายองค์กรทั้งหน่วยงานภาครัฐ, ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัย โดยอีก 2-3 เดือนข้างหน้า Nissan เตรียมจะประกาศแผนความร่วมมือใหม่อย่างเป็นทางการ”

“สำหรับแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย หากพิจารณาจากประสบการณ์ของ Nissan ที่มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกขายสู่ตลาดโลกตั้งแต่ปี 2010 เรายังคงศึกษาข้อมูลใหม่อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งการปรับตัวของคนไทยที่มีต่อรถยนต์ไฟฟ้า Nissan และหลายบริษัทรถยนต์ เริ่มต้นการขายรถยนต์ไฟฟ้ามานานร่วม 10 ปี แต่นับถึงตอนนี้ยอดขายรวมยังมีสัดส่วนแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ของอุตสหากรรมยานยนต์”

“แต่ถึงอย่างนั้นในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้มีการขยายสถานีชาร์จไฟฟ้ามากกว่า 30,000 แห่ง ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนสถานีบริการน้ำมัน และในฐานะที่ Nissan ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการผลิตรถยนต์ เราเข้าใจสถานการณ์ที่บริษัทคู่แข่งต้องเผชิญในเวลานี้เป็นอย่างดี รวมถึงการแข่งขันในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เราพิจารณาถึงแผนงานในระยะยาวมากกว่าจะเลือกนำเสนอแบบฉาบฉวย”

“ทั้งหมดนี้ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นจากการที่ Nissan เปิดตัว Ariya รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเพิ่งจะนำเสนอ Sakura รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในเซกเมนต์ Kei Car รุ่นแรกของ Nissan) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า Nissan มีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า เพียงแต่เรากำลังรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่สู่ประเทศไทย” เซคิกุจิ กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นเป็นการทิ้งท้าย

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th