New Nissan Terra หน้าใหม่ เครื่องเดิม เติมออฟชั่น ดีขึ้นมั้ยเดี๋ยวรู้กัน นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่พร้อมพาทุกคนไปทุกเส้นทาง ภายนอกดีไซน์ใหม่สะท้อนความละเอียดประณีตและโมเดิร์น ภายในดีไซน์ภายในใหม่เรียบหรูดูพรีเมียมกว่าเดิม สมรรถนะการขับขี่โดดเด่น ทนทาน ให้ความสะดวกสบายด้วยระบบเอ็นเตอร์เทนเมนท์คุณภาพสูงพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย 360 องศา ดูแลตลอดการขับขี่ ครบกว่ารถยนต์อเนกประสงค์ในระดับเดียวกัน

การออกแบบภายนอก

ดีไซน์ใหม่เพื่อสะท้อนความละเอียดประณีตแบบโมเดิร์น สะท้อนบุคลิกที่ทันสมัยยิ่งขึ้น New Nissan Terra เปลี่ยนดีไซน์ด้วยความละเอียดประณีต ถึงแม้จะพัฒนาตามแนวคิด “Unbreakable Design” ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง แต่เทอร์ร่า ใหม่ ก็ให้ความรู้สึกที่หรูหราด้วยกระจังที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เส้นโครเมียมแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรา  รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรง เสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่เป็นสีเงิน ตามสไตล์เอสยูวีที่ทันสมัย ไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ดีไซน์ใหม่ ประสิทธิภาพสูงให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% ตัวโคมไฟถูกดีไซน์ให้เพรียวบาง ดูปราดเปรียว และทันสมัย ไฟ Daytime Running Light ยิ่งทำให้ดีไซน์โดดเด่นกว่าเดิม ไฟตัดหมอก LED ประสิทธิภาพสูงล้อมรอบด้วยแถบโครเมียมขนาดใหญ่ ที่หรูหราให้แสงสีขาวที่เป็นธรรมชาติ รับกับมุมมองด้านหน้า ลดความร้อนแม้เปิดเป็นเวลานาน และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเดิม ขณะที่ด้านท้ายถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่สปอยเลอร์บนหลังคาจนถึงชายกันชนด้านล่าง ฝาท้ายเพิ่มความหรูหราและโดดเด่นมากขึ้นในทุกรายละเอียด ด้วยการใช้วัสดุโครเมียม และชิ้นส่วนสีเงินเข้ามาตกแต่งมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายลดความสูง และเพิ่มความกว้างมากขึ้นให้ดูโฉบเฉี่ยว โดยเป็น ไฟ LED แบบ Light Guide เส้นคู่ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย ไฟเบรกแบบ LED ให้ทั้งความสว่าง ความสวยงาม และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว ออกแบบให้สอดคล้องกับดีไซน์ภายนอก เพิ่มความสปอร์ต ด้วยการใช้สีทูโทนแบบปัดเงา

ขนาดตัวถัง

ยาว 4,890 มม. กว้าง 1,865 มม. และสูง 1,865 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 225 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร

การออกแบบภายใน

ภายในใหม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดการใช้งาน ทำให้ทุกคนในครอบครับสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ภายในของ New Nissan Terra ได้ถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ ให้ความสะดวกสบายอย่างมีสไตล์ จากแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่แบบกว้างเต็มพื้นที่ ทำให้รู้สึกถึงห้องโดยสารที่กว้างขวางยิ่งกว่าเดิม ตกแต่งด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ที่ให้สัมผัสนุ่มสบาย ใช้หน้าจอ Display Audio แสดงผลแบบสัมผัสใหม่ขนาด 9 นิ้ว ปุ่มควบคุมต่าง ๆ คอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ติดตั้งระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติแยกการควบคุมอุณภูมิ พร้อมช่องแอร์ครอบคลุมผู้โดยสารทั้ง 7 ที่นั่ง ที่ ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับแรงลมอิสระตามความต้องการ เบาะนั่งดีไซน์ใหม่อย่างประณีต มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และใช้วัสดุระดับพรีเมียม ห้องโดยสารยังคงความกว้างขวาง สะดวกสบาย และสามารถปรับพื้นที่ห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระได้ตามความต้องการ

ด้วยการออกแบบที่นั่งแถวที่สอง และสาม ให้ปรับรูปแบบได้หลากหลาย เช่นการพับที่นั่งให้ราบเสมอกันเพื่อรองรับการบรรทุกสัมภาระได้เต็มพื้นที่ ที่นั่งแถว 2 มีฟังก์ชั่น Auto Tumble Seat ที่คอนโซลกลาง โดยจะพับอัตโนมัติเบาะแถวที่ 2 อัตโนมัติเพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของผู้โดยสารแถวที่ 3 เพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนทุกจุดสำคัญของโครงสร้างของรถ และติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังรูปทรง D-shape ปรับอัตราทดใหม่ให้ควบคุมได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัย ขยายจอแสดงผลเป็นขนาด 7 นิ้ว สามารถปรับตั้งการทำงานของระบบต่าง ๆ ได้ผ่านปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย มีให้เลือกทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และ เครื่องเสียงจาก Bose คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ และเปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD) ฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate) เพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิด เพียงแค่ยื่นเท้าเข้าหาบริเวณกึ่งกลางของกันชน โดยไม่ต้องสัมผัสสวิตช์ที่ประตู และมีระบบป้องกันการหนีบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

เทคโนโนโลยี

• ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose Premium Audio System (ในรุ่น VL)
• ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• Intelligent Rear View Mirror ติดกล้องความละเอียดสูงที่กระจกบานหลัง
• เชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย (Wireless Apple CarPlay)
• เทคโนโลยี NissanConnect ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับ Apple CarPlay และ Android Auto
• หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง สามารถสตรีมมิ่งช่องโปรด เช่น NetFlix และ YouTube ผ่านช่อง HDMI ได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องชาร์จไฟ

ระบบเพื่อความปลอดภัย

• 360° Safety Shield เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ แบบ 360 องศา
• เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะทำงานทันทีที่เริ่มขับเคลื่อน 4 ล้อ
• เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)
• เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB)
• เทคโนโลยีเตือนรถในมุมอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)
• เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA)
• เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW)
• เทคโนโลยีเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า(Intelligent Driver Alertness – IDA)
• เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และ เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันHill Descent Control (HDC)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control (TCS) และ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัจฉริยะ Vehicle Dynamic Control (VDC)
• TCS จะควบคุมการขับขี่โดยให้ล้อไม่หมุนฟรี
• ระบบเบรก ABS, EBD และ B-LSD
• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (Anti-lock Braking System – ABS)
• ระบบกระจายแรงเบรก (Electric Brake Force Distribution System – EBD)
• ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD)
• ถุงลม SRS คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง
• โครงสร้างนิรภัย (BODY REINFORCEMENT)

ขุมพลังเดิมปรับจูนเล็กน้อย

เครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ตั้งแต่ 1,500 รอบต่อนาที ที่ให้สมรรถนะสูง ประหยัดน้ำมัน และเนื่องจากการทำงานของเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบนี้มีมีแรงสั่นสะเทือนน้อยจึงช่วยลดเสียงรบกวนที่เข้ามาในห้องโดยสาร ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ทำให้การออกตัว เร่งแซง หรือการขับในเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เต็มไปด้วยกำลังที่ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทางแมนนวลโหมด  (M mode) ยิ่งทำให้การขับขี่สนุกสนานมากกว่าเดิม นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รองรับน้ำมันดีเซลทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 20,000 กิโลเมตร***

การทดลองขับ

เรามาลองขับเจ้า New Nissan Terra กันดีกว่าครับกดปุ่มสตาร์ทกดคันเร่งลงไปสัมผัสได้ถึงการออกตัวที่ดีขึ้น กระชับกระเฉงกว่ารุ่นก่อนหน้า ความเร็วช่วงต้นทำได้ดีกว่าเดิมคงเป็นเพราะมีการปรับจูนรอบต้นใหม่นั้นเอง ช่วงความเร็วกลางถึงปลายยังคงทำได้ดีเหมือนเดิมเป็นรถ PPV ที่ขับสนุกอีกหนึ่งรุ่นเลยครับ การขับขี่ในเมืองมีความคล่องตัวทัศนะวิสัยดี ลัดเลาะได้อย่างสบาย เพราะมีการปรับปรุงอัตราทดพวงมาลัยให้ฉับไวขึ้น มีระยะการหมุนที่ลดลง ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายทั้งในความเร็วต่ำ การเปลี่ยนช่องทาง หรือเข้าโค้ง การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายหายห่วง สามารถทำความเร็วไปแตะ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แบบสบายๆ แต่ระบบกันสะเทือนของเจ้า New Nissan Terra ยังคงเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร หน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5 ลิ้งค์ (5-Link) พร้อมคอยล์สปริง ถ้าขับด้วยความเร็วปกติมันให้ความนุ่มนวลดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ให้ความนุ่มนวลและนั่งสบาย แต่เมื่อใช้ความเร็วจะสัมผัสได้ถึงอาการโคลง และย้วย ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าถ้าปรับเซ็ทให้เฟริ์มขึ้นอีกนิดจะดีมากเลยครับผมว่าช่วงล่างมันนิ่มไปหน่อย การเค้าโค้งด้วยความเร็วอาจพบอาการโคลงเล็กน้อยแต่ก็ยังควบคุมได้อย่างสบาย ก็อย่างว่าครับลูกค้าของนิสสันเค้าอาจจะชอบช่วงล่างที่นุ่มนวลแบบนี่ก็ได้ แต่เมื่อขับไปในเส้นทางออฟโรดช่วงล่างที่นุ่มนวลมันช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนจากหลุมบ่อได้ดี จึงทำให้การขับขี่บนเส้นทางออฟโรดง่ายและสบายขึ้นเยอะเลยครับจุดนี้ขอชมครับ ระบบเบรกใหม่ ดิสก์เบรกหน้า และ หลัง ขนาดใหญ่พร้อมครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ ตอบสนองต่อการเบรกได้อย่างดีเยี่ยม มั่นใจแม้ขณะเบรกที่ความเร็วสูง หรือเบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน

มาขับต่อบนเส้นทางออฟโรดเล็กๆ เทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อของ New Nissan Terra เราสามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทั้ง 4H และ 4L ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชัน shift-on-the-fly ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในขณะขับขี่แต่ต้องวิ่งไม่เกิน 100 กม./ชม.นะครับ เส้นทางง่ายๆแบบนี้ไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะเครื่องยนต์ของ New Nissan Terra มีแรงบิดถึง 450 นิวตันเมตร และพละกำลัง 190 แรงม้า มั่นใจได้เลยว่าพาคุณไปรอดทุกเส้นทาง วันที่ลองขับมีฝนตกลงมาทำให้ผิวของเส้นทางการเป็นโคลนนิ่มๆ แต่ก็ไม่หวั่นเพราะ New Nissan Terra มาพร้อมระบบ Electronic Locking Rear Differential (Diff-Lock) ช่วยกระจายกำลังไปยังล้อหลังทั้ง  2 ข้างเพื่อเสริมกำลังฉุดให้ขับออกจากหล่มหรือในสถานการณ์ที่ต้องการแรงบิดสูงในโหมด 4L ได้ง่ายขึ้น แถมยังมีระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) โดยระบบจะส่งแรงไปยังล้อที่ลื่นไถลให้การออกตัวที่ลื่น พร้อมกระจายแรงขับขี่ไปที่ล้อแต่ละข้างเมื่อขับขี่ในโหมด 4H เป็นตัวช่วยอีกต่างหาก ต้องบอกว่า New Nissan Terra ทำให้การขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเป็นเรื่องง่ายดาย ขับง่าย ใครก็ขับได้ พาคุณไปได้ในทุกเส้นทางเลยครับ

สรุป

New Nissan Terra มีการปรับลุคใหม่เสริมเติมแต่งมาแบบเต็มที่ รวมไปถึงการแก้ปัญหาจุดด้อยจากรุ่นก่อนหน้ามาได้ดีเช่านปัญหาการออกตัวที่รุ่นก่อนหน้าทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ มารุ่นใหม่นี้อัตราเร่งออกตัว และช่วงต้นไปกลาง ทำได้ดีขึ้นแบบสัมผัสได้ ออฟชั่น ฟังก์ชั่น อัดมาให้แบบเหลือเฟือ ช่วงล่างนุ่มนวล ดูดซับแรงได้ดี โดนใจใครหลายคน แต่คงไม่โดนใจท่านที่ชอบช่วงล่างแบบสปอร์ต ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย ระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์จัดหนักจัดเต็ม ผมว่าเป็นรถ PPV ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th