‘นิกี เลาด้า’ ตำนานแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน เสียชีวิต!!!
วงการฟอร์มูล่า วัน เผชิญการสูญเสียครั้งใหญ่ นิกี เลาด้า อดีตแชมป์โลก 3 สมัย ชาวออสเตรีย เสียชีวิตด้วยวัย 70 ปี เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเผชิญอาการป่วยรุมเร้ามานับตั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายปอดเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว
“นับเป็นความเสียใจอย่างยิ่งที่เราต้องประกาศว่านิกี ผู้เป็นที่รักได้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางสมาชิกในครอบครัวของเขาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา” แถลงการณ์จากครอบครัวเลาด้า ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าวออสเตรีย พร้อมกล่าวยกย่องความสำเร็จในชีวิตของตำนานนักแข่งเฟอร์รารี่ และแม็คลาเรน “ความสำเร็จที่พิเศษของเขาทั้งในฐานะนักกีฬา และนักธุรกิจ พลังความมุ่งมั่น, ความตรงไปตรงมา และความกล้าหาญที่เขาแสดงออกมาตลอดทั้งชีวิตจะได้รับการจดจำ บุคคลผู้เป็นต้นแบบ และเป็นเป้าหมายของพวกเราทุกคน นอกสายตาของสาธารณชนเขายังเป็นสามี, พ่อ และปู่อันเป็นที่รัก ทุกคนจะระลึกถึงเขา”
เลาด้า ได้รับความเคารพ และยกย่องอย่างสูงจากผู้คนในวงการฟอร์มูล่า วัน หลังจากอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ฤดูกาล 1976 ที่สนามนูร์เบิร์กริงต์ ทำให้เขามีบาดแผลไฟไหม้อย่างรุนแรง สูญเสียหูข้างขวาเกือบทั้งหมดเช่นเดียวกับผมบริเวณศีรษะด้านขวา, ขนคิ้ว และเปลือกตาทำให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมจนต้องใส่หมวกเพื่อปิดปังรอยแผลมานับตั้งแต่นั้น
อย่างไรก็ตามเลาด้า พลาดการลงแข่งขันเพียง 2 สนาม ใช้เวลารักษาตัวเพียง 6 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาลงขับให้เฟอร์รารี่ ในศึกอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ โดยทำผลงานจบอันดับ 4 และกลับมายืนบนโพเดี้ยมด้วยการคว้าอันดับ 3 ในรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ ทำให้มีโอกาสลุ้นแชมป์โลกกับเจมส์ ฮันท์ คู่ปรับสำคัญจากทีมแม็คลาเรน ในสนามสุดท้ายรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์
Niki Lauda Formula One World Championship Career
ผลงานตลอดชีวิตการเป็นนักแข่งฟอร์มูล่า วัน ของนิกี เลาด้า: คว้าแชมป์ 25 รายการ, ยืนบนโพเดี้ยม 54 ครั้ง, โพลล์โพสซิชั่นส์ 24 ครั้ง, คะแนนรวม 420.5, แชมป์โลก 1975, 1977 และ 1984
แต่หลังจากการแข่งขันผ่านไปได้เพียง 2 รอบ เลาด้า ตัดสินใจขับรถกลับเข้าพิตต์ และถอนตัวด้วยเหตุผลว่าสภาพอากาศเลวร้ายที่สนามฟูจิ สปีดเวย์ มีความเสี่ยงที่เขาจะเผชิญอุบัติเหตุร้ายแรงซ้ำรอยเดิม โดยเขาพูดถึงเหตุการณ์นี้หลังจากนั้นว่า “ชีวิตของผมมีค่ามากกว่าตำแหน่งแชมป์” ทำให้ฮันท์ กลายเป็นแชมป์โลกฤดูกาล 1976 ด้วยการเฉือนชนะเขาเพียง 1 แต้มเท่านั้น
ความเป็นนักสู้ของเลาด้า ทำให้เขารักษาตัวจนหายดี และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ในฤดูกาล 1977 ด้วยการเก็บ 77 คะแนนใน 17 รายการ ทิ้งห่างอันดับ 2 จอดี้ เช็กเตอร์ นักแข่งชาวแอฟริกาใต้ของทีมวอลเตอร์ วูล์ฟ เรซซิ่ง 17 คะแนน โดยเขาตัดสินใจอำลาวงการรถสูตรหนึ่งครั้งแรกหลังจบซีซั่น 1979 ก่อนจะกลับมาลงขับให้ทีมแม็คลาเรน ในปี 1982 และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ในฤดูกาล 1984
Did you know?
การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างเลาด้า-ฮันท์ ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ Rush ที่ออกฉายเมื่อปี 2013 นำแสดงโดยคริส เฮมส์เวิร์ธ พระเอกคนดังจากเทพเจ้าสายฟ้า Thor ในบทของเจมส์ ฮันท์ และนิกี เลาด้า รับบทโดยดาเนียล บรูห์ล ประสบความสำเร็จทำรายได้ทั่วโลก 98.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3.04 พันล้านบาท)
หลังจากยุติชีวิตนักแข่ง เลาด้า เปลี่ยนบทบาทสู่ตำแหน่งผู้บริหารด้วยการรับตำแหน่งที่ปรึกษาของลูก้า ดิ มอนเตเซโมโล่ ประธานเฟอร์รารี่ รวมทั้งหัวหน้าทีมจากัวร์ ฟอร์มูล่า วัน ในฤดูกาล 2001 ก่อนที่จะได้รับตำแหน่ง Non-executive Chairman ของทีมเมอร์เซเดส เอเอ็มจี เปโตรนาส เอฟวัน ในปี 2012 โดยมีบทบาทสำคัญในการดึงลูอิส แฮมมิลตัน เข้ามาสู่ทีม และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์โลกประเภทนักขับ 4 สมัย และผูกขาดตำแหน่งแชมป์โลกประเภททีมระหว่างปี 2014-2018
สำหรับคนไทย นิกี เลาด้า กลายเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าของสายการบินเลาด้า แอร์ หลังจากเที่ยวบิน 004 กรุงเทพฯ-เวียนนา ประสบอุบัติเหตุตกเนื่องจากเครื่องยนต์ขัดข้องบริเวณพื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างจังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 1991 (พ.ศ.2534) จนทำให้มีผู้โดยสาร และลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 223 คน ก่อนจะนำมาสู่การที่เขาต้องขายสายการบินที่เป็นผู้ก่อตั้งให้กับออสเตรียน แอร์ไลน์ ในเวลาต่อมา
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: media.daimler.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th