Nio ES7 รถเอสยูวีไฟฟ้าแดนมังกรที่ครบเครื่องทั้งการเดินทางและความบันเทิง
Nio ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากจีนเผยโฉมรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ES7 ออกมา โดยระบุว่าเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่อัตโนมัติ รวมทั้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ เพื่อตอบสนองทั้งการเดินทางและการทำกิจกรรมในวันพักผ่อน
Nio ES7 ถูกระบุว่าเป็นรถรุ่นแทรกกลางระหว่างขนาดกลางและขนาดใหญ่ มีตัวรถที่มีความยาว 4,912 มม. กว้าง 1,987 มม. สูง 1,720 มม. พร้อมกับระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,960 มม. ส่วนการออกแบบภายนอกทางผู้ผลิตบอกว่าเป็นการแสดงถึงภาษาการออกแบบล่าสุดของตนที่ลดเส้นต่างๆ ลงพร้อมกับการมีสัดส่วนองรถที่มีพลัง โดยด้านหน้าของรถมาพร้อมกับการออกแบบในลักษณะจมูกปลาฉลาม พร้อมกระจังหน้าที่เรียบ มีไฟ Daytime Running Light ที่ทางผู้ผลิตเรียกว่า Double-Dash แยกจากไฟหน้าอยู่ที่ขอบบนของกระจังหน้า และมีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ที่กันชน
ส่วนด้านข้างของรถมาพร้อมกับชุดแต่งซุ้มล้อรวมทั้งคิ้วประตูสีดำเพื่อเสริมสไตล์ลุยของรถเอสยูวีรวมทั้งยังเข้ากับการแต่งที่กันชนหน้า พร้อมให้ความทันสมัยด้วยที่เปิดประตูเรียบไปกับตัวรถ ส่วนด้านหลังมีแถบไฟท้ายยาวเต็มความกว้างของรถที่ทางผู้ผลิตเรียกว่า Air Wing ซึ่งประกอบด้วย 202 โมดูลไฟ LED Crystal-cut รวมทั้งมีสปอยเลอร์ปลายหลังคาที่ลาดลงด้านหลัง
ห้องโดยสารของ Nio ES7 ถูกให้คำจำกัดความว่าเป็นห้องนั่งเล่นที่สองด้วยการมี PanoCinema System ที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ร่วมกับแว่น Augment Reality สำหรับการฉายจอภาพขนาด 201 นิ้วที่ระยะ 6 เมตร ในขณะที่จอระบบ Infotainment แบบ AMOLED มาในสไตล์แท็บเล็ตขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมมีการแสดงข้อมูล Head-up Display แก่ผู้ขับนอกจากเรือนไมล์ดิจิตอล รวมไปถึงรถยังมีระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่ชื่อ NIMO
การออกแบบห้องโดยสารให้ความรู้สึกหรูด้วยคอนโซลกลางแบบลอยตัวใช้ไม้แต่ง พร้อมไฟ Ambient Lighting 256 สี โดยที่ผู้ซื้อยังสามารถเลือกใช้หนัง Coffee Shell Tanned Nappa ซึ่งไม่ใช้สารเคมีในการผลิตและให้กลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะได้ นอกจากนี้ยังให้ความสบายด้วยเบาะหน้าของรถที่มาพร้อมทั้งระบบปรับความอุ่น ระบายอากาศ และนวด ส่วนเบาะหลังนอกจากปรับความอุ่นได้แล้วยังปรับเอนหนักพิงหลังได้ 2 ระดับระหว่าง 23 และ 31 องศา และให้ความเต็มอิ่มด้านเสียงในห้องโดยสารด้วยระบบเสียง Dolby Atmos
ES7 ใช้มอเตอร์คู่ขับเคลื่อนล้อทั้ง 4 ของรถมีกำลังรวม 653 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร และสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.9 วินาทีในโหมด Sport+ ส่วนระยะการเดินทางเลือกได้ 3 ระดับจาก 3 ความจุแบตเตอรีคือ 75 kWh ให้ระยะการเดินทาง 485 กิโลเมตร 100 kWh ให้ระยะการเดินทาง 620 กิโลเมตร และ 150 kWh ที่ให้ระยะการเดินทางถึง 850 กิโลเมตรต่อการชาร์จ
นอกจากกำลังขับเคลื่อนที่สูงและระยะการเดินทางที่เลือกได้จาก 3 ความจุของแบตเตอรีแล้ว ES7 ยังมาพร้อมกับช่วงล่าง Air Suspension คาลิเปอร์เบรก Brembo 4 ลูกสูบที่ล้อหน้า รวมทั้งโช๊กอัพอแดปทีฟ โดยรถมีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50 และมี 10 โหมดการขับให้เลือก รวมไปถึงสามารถลากจูงสิ่งของได้หนักถึง 2,000 กิโลกรัม และสามารถจ่ายไฟ 3.3 kW ให้แก่เครื่องไฟฟ้าขนาดเล็กต่างๆ เมื่ออกไปแคมปิ้งได้ รวมไปถึงมี Camping Mode ที่ระบบปรับอากาศของรถยังคงทำงานเพื่อให้ความสบายเมื่อนอนในรถตอนกลางคืน
Nio ES7 มีทั้ง LiDAR ระยะไกลเป็นพิเศษ 7 กล้องความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล 3 กล้องความไวแสงสูง 3 ล้านพิกเซล รวมทั้ง 5 เรดาร์ และ 12 เซ็นเซอร์อุลตร้าโซนิก เพื่อสนับการทำงานขับขี่อัตโนมัติล่าสุดของ Nio ซึ่งทางผู้ผลิตระบุว่าจะให้ประสบการณ์การขับขี่อัตโนมัติทั้งบนทางหลวงและในเมือง
ราคาของ Nio ES7 เริ่มต้นตั้งแต่ 468,000 หยวนหรือประมาณ 2,470,000 บาท โดยทาง Nio เปิดรับจองรถแล้วและจะส่งมอบรถได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2022 นี้