NIO ET7 รถซีดานไฟฟ้าหรูสัญชาติจีนที่ถูกวางตัวให้มาต่อกรกับ Tesla
NIO ผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากจีนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซียงไฮ้ได้มีการเปิดตัวรถซีดานไฟฟ้าขนาดกลางรุ่นแรกของตนออกมาในชื่อ ET7 เพื่อเสริมทางเลือกจากรถไฟฟ้าที่มีขายอยู่ในปัจจุบัน 3 รุ่นซึ่งเป็นรถเอสยูวีทั้งหมด รวมทั้งยังวางเป้าไว้ว่ารถซีดานไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้จะเป็นคู่แข่งมาต่อกรกับรถไฟฟ้าจาก Tesla
NIO ET7 ที่ตัวรถมีความยาว 5,098 มม. กว้าง 1,987 มม. และระยะฐานล้อมีความยาว 3,060 มม. ซึ่งถูกระบุว่ามีพื้นที่ห้องโดยสารในระดับแนวหน้าของรถคลาสเดียวกัน ไม่เพียงแค่ถูกออกแบบให้มีรูปทรงสปอร์ตหรูรอบคันและมาพร้อมกับไฟหน้าและไฟท้ายที่โฉบเฉี่ยวเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับรถด้วยไม่ว่าจะเป็นหลังคากระจกลามิเนต เบาะปรับความอุ่น ระบายอากาศ และมีฟังก์ชั่นนวดทั้ง 2 แถว รวมทั้งระบบเสียงพร้อมลำโพงที่มากถึง 23 ตัว นอกจากนี้ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวของรถยังส่งผลลัพธ์ให้มีค่าสัมประสิทธิ์การต้านอากาศแค่ 0.23 ด้วย
ในด้านการเดินทาง NIO ET7 ที่มาพร้อมกับแบตเตอรีมาตรฐาน 70 kWh ถูกระบุว่าเดินทางได้มากกว่า 500 กิโลเมตร และสามารถเดินทางได้กว่า 700 กิโลเมตรกับแบตเตอรี 100 kWh แต่หากเป็นแบตเตอรีใหม่ 150 kWh ที่ทาง NIO เพิ่งเปิดตัวออกมาจะเพิ่มระยะการเดินทางเป็นกว่า 1,000 กิโลเมตร สำหรับด้านสมรรถนะถูกระบุว่ามีกำลัง 644 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 850 นิวตัน-เมตร โดยใช้เวลา 3.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม.
ทาง William Li ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง NIO ได้บอกว่า ET7 สามารถทำงานร่วมกับระบบขับขี่อัตโนมัติใหม่ของบริษัทได้ ซึ่งจะมีการใช้กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลและชิปประมวลผล Nvidia ที่มีความเร็วกว่าการทำงานของคอมพิวเตอร์ในระบบขับขี่อัตโนมัติของ Tesla ถึง 7 เท่า นอกจากนี้ ET7 ยังถูกติดตั้งเซ็นเซอร์ Lidar เพื่อให้สามารถรับรู้ถึงสิ่งรอบข้างได้ดีขึ้น
จุดเด่นของเซ็นเซอร์ Lidar ที่ใช้ใน ET7 คือมีเลเซอร์ 1550 นาโนเมตร มุมการทำงานกว้าง 120 องศา และระยะการทำงานที่ไกลถึง 500 เมตร จึงทำให้ระบบสามารถเน้นไปที่วัตถุที่สนใจเพื่อช่วยให้มีการตรวจจับวัตถุได้แม่นยำขึ้น นอกจากนี้รถยังมีชุดทำงานเพื่อรับรู้รอบตัวรถ 33 ชุด รวมไปถึงประกอบด้วยคลื่นเรดาร์ 5 มม. 12 เซ็นเซอร์อุลตร้าโซนิก และ 2 ชุดระบุตำแหน่งความแม่นยำสูง
ความโดดเด่นหนึ่งของ NIO คือการมีระบบที่ทำให้สลับเปลี่ยนแบตเตอรีได้เร็วที่สุดในโลกที่เรียกว่า Power Swap Station 2.0 ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแบตเตอรีอัตโนมัติในเวลาแค่ 3 นาที โดยในระหว่างกระบวนการนี้แบตเตอรีและระบบตรวจสอบยังคงมีการทำงานอยู่ได้ นอกจากนี้สถานีสลับเปลี่ยนแบตเตอรีจะใช้พื้นที่แค่ประมาณ 3 ช่องจอดรถจึงไม่เปลืองพื้นที่ โดยแต่ละสถานีจะมี 13 แบตเตอรี และสามารถสลับเปลี่ยนแบตเตอรีได้ 312 ครั้งต่อวัน นอกจากนี้รถไฟฟ้าของ NIO ยังสามารถจอดรถอัตโนมัติได้ในสถานี ซึ่งทาง NIO คาดการณ์ว่าจะมีสถานีสลับแบตเตอรี 2.0 ถึง 500 แห่งภายในปี 2021
การส่งมอบ NIO ET7 ในจีนถูกกำหนดไว้ที่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 โดยราคารถพร้อมแบตเตอรีมาตรฐานอยู่ที่ 448,000 หยวนหรือประมาณ 2,083,000 บาท
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRAND PRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th