ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2019 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Nissan ได้เปิดตัวครอสโอเวอร์ที่เป็นผลผลิตใหม่ที่จะใช้พื้นฐานของระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าของ LEAF ในการสร้างทางเลือกในตลาดเพื่อรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และนั่นได้นำไปสู่การเปิดตัวต้นแบบที่เรียกว่า Ariya ออกมา ซึ่งอีกกว่าครึ่งปีให้หลัง Ariya ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาสู่การใช้งานจริงกับเวอร์ชันที่เป็น Production Car ซึ่งเรามาดูกันว่าระหว่างคันจริงกับคันต้นแบบนั้นมีความแตกต่างและได้รับการปรับปรุงอย่างไร

รูปลักษณ์ภายนอกของรุ่นจำหน่ายจริงมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดรอบคันเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในชีวิตประจำวันจากรุ่นต้นแบบอย่างชัดเจน โดยในการออกแบบนี้นำเสนอปรัชญาในการออกแบบใหม่ของ Nissan ที่เรียกว่า “Timeless Japanese Futurism” หรือ “โลกแห่งอนาคตแบบญี่ปุ่นที่อยู่อยู่กาลเวลา” ที่ถูกถ่ายทอดในรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยทีมออกแบบของ Nissan ใช้ประโยชน์ของแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ของบริษัท ทำให้ Ariya สามารถนำเสนอพื้นรถที่เรียบเปิดโล่ง ส่วนประกอบของระบบส่งกำลังที่มีขนาดกะทัดรัด ทำให้ห้องโดยสารมีความกว้างขวางที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน การออกแบบภายในสร้างบรรยากาศเสมือนห้องรับรอง พร้อมเบาะที่นั่งแบบ Zero Gravity ที่สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทาง

ตัวรถมากับขนาดตัวถังที่มีความยาว 4,595 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,655 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,775 มิลลิเมตร สามารถบรรทุกสัมภาระได้ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีทั้งขนาด 466 และ 408 ลิตรสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ

Ariya เวอร์ชั่นผลิตขายจริงเป็นครั้งแรกของโลก มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนสองล้อ 2WD และสี่ล้อ AWD ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุตั้งแต่ 65-90 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีกำลังสูงสุด 160-290 กิโลวัตต์ (215-389 แรงม้า) ระยะการขับไกล 450-580 กม. (ตามมาตรฐานทดสอบ WLTC) ต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง วางกำหนดขายในประเทศญี่ปุ่น ช่วงกลางปี 2021 โดยราคาจะอยู่ในราว 5 ล้านเยนหรือประมาณ 1.47 ล้านบาท โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อรุ่นมาตรฐานมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 7.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโทมง ขณะที่รุ่นท็อปซึ่งเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมกำลัง 290 กิโลวัตต์ จะมีตัวเลขอยู่ที่ 5.1 วินาที และ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ประสิทธิภาพอันทรงพลัง ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายด้วยการผลิตของนิสสันในฐานะผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Ariya ยกระดับประสิทธิภาพ และขีดความสามารถของยานยนต์ไร้มลพิษไปอีกขั้น โดยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจะผสานการถ่ายทอดกำลังขับเคลื่อน และประสิทธิภาพการชาร์จที่ดีเยี่ยม พร้อมระยะทางในการขับขี่ที่ไกลกว่าเดิมเข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถเลือกกำหนดค่าต่าง ๆ ตามความต้องการในการขับขี่ของลูกค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนสองล้อ และเทคโนโลยีการควบคุม e-4ORCE ที่ควบคุมได้สำหรับล้อทั้งสี่ รวมทั้งแบตเตอรี่สองขนาดที่แตกต่างกัน เทคโนโลยีการควบคุม e-4ORCE ที่ควบคุมได้สำหรับล้อทั้งสี่ ให้ความสมดุลในประสิทธิภาพที่ทรงพลังพร้อมรองรับการขับขี่ในทุกสภาพอากาศ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ใน Nissan Ariya ทำให้การขับขี่มีความสมดุลและมั่นคงด้วยพลังระดับรถสปอร์ตในพริบตา

ภายในยังยึดรูปแบบเดิมของรุ่นต้นแบบแต่มีการปรับเปลี่ยนในแง่ของรายละเอียดที่อยู่ข้างในอย่างชัดเจน มีการอินเทอร์เฟซใหม่ ระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ภาษาธรรมชาติเพื่อปรับการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์ได้ รวมถึงการอัพเดตเฟิร์มแวร์ต่างๆ แบบไร้สายที่ทำให้ Nissan Ariya มีความแปลกใหม่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ อริยะ ยังมีเทคโนโลยีช่วยเหลืออย่าง Amazon Alexa เพื่อช่วยให้ลูกค้าลดความซับซ้อนและจัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตของพวกเขาได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ All-new Ariya ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย Nissan Safety Shield ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor, เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning, เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking และเทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย Rear Automatic Emergency Brake การออกแบบ และเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการขับขี่ที่ลดความเครียดของผู้ขับขี่ โดย All-new Ariya เป็นรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของ Nissan ที่มีในปัจจุบัน ผู้ขับขี่จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น และมีเครียดลดลงด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT 2.0 ที่ช่วยเหลือผู้ขับขี่ และระบบช่วยจอดผ่านรีโมต ProPILOT Remote Park และเทคโนโลยีคันแร่งอัจฉริยะ e-Pedal

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th