Nissan : Car of the year 2020
All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO
BEST TECHNOLOGY CITY CAR
นับว่าเป็นการปฏิวัติวงการรถยนต์อย่างสิ้นเชิง เมื่อนิสสันเปิดตัว All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO รถ Eco Car ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด รวมถึงเครื่องยนต์บล็อกใหม่ 1.0L TURBO ที่พ่วงด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มรูปแบบ จนกลายเป็นรถขวัญใจมหาชนทั้งในด้านราคา ความคุ้มค่า และความประหยัดด้วยความโดดเด่นเหล่านี้ ทำให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ลงคะแนนและความเห็นว่า All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO คือรถที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในกลุ่มรถ CITY CAR สำหรับความพิเศษจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกัน
มุมมองคณะกรรมการ
เครื่องยนต์ 1.0L TURBO เทคโนโลยีแห่งความประหยัด
All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร ใหม่ ภายใต้รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียง แบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ขนาดปริมาตรความจุ 999 ซี.ซี. ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ ตอบสนองอัตราเร่งแซงที่ดีขึ้น ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นกว่าเดิม และด้วยเทคโนโลยี D-Step Logic สร้างการขับขี่ให้น่าตื่นเต้นและส่งกำลังที่มีความละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์บนท้องถนนให้ผู้ขับขี่เมื่อเปรียบเทียบกับระบบเกียร์ทั่วไป ตอบสนองคันเร่งได้เป็นอย่างดี ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้น ทั้งยังมีการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นอีกด้วย
นอกเหนือจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แล้ว เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร ใหม่ ที่อยู่ใน All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคมากมาย เช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่การควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ต อย่าง Nissan GT-R ซึ่งเพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอและน้ำหนักของกระบอกสูบ ในขณะที่ปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อนและการเผาไหม้
All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO มาพร้อมกับประสิทธิภาพอัตรา สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดในระดับรถยนต์เดียวกัน ถึง 23.3 กม. ต่อลิตร ให้กำลังสูงสุด 100 พีเอส (PS) มีแรงบิดถึง 152 นิวตันเมตร (Nm) ตั้งแต่รอบเครื่องที่ 2,400 ถึง 4,000 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น สามารถเปิด-ปิด ระบบการทำงานได้
เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย
All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO ยังมาพร้อมด้วยเทคโนโลยีของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Nissan Intelligent Safety Shield อาทิเทคโนโลยีสัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning-IFCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking-IEB) โดยระบบจะช่วยวิเคราะห์ระยะห่างและความเร็วของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อชะลอความเร็วและหยุดรถ ให้ความเสียหายที่จะเกิดจากอุบัติเหตุบรรเทาลงเทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning-BSW) เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert-RCTA) ระบบจะตรวจเช็กรถที่กำลังเคลื่อนเข้ามาทางด้านหลังทั้งซ้ายและขวา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมไฟกะพริบเตือนในด้านเดียวกันกับที่มีรถเคลื่อนที่เข้ามาเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) เทคโนโลยีตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคัน จับการเคลื่อนไหวได้ เทคโนโลยีอัจฉริยะนี้จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัย เทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC) ระบบนี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวของรถขณะหักหลบกะทันหัน หักเลี้ยวอย่างมั่นใจ เทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) เมื่อขับรถขึ้นบนทางลาดชัน ระบบจะช่วยป้องกันไม่ไห้ไหลลงขณะออกตัว เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะสั่งให้เบรกทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเหยียบคันเร่งและออกตัวอย่างนุ่มนวล
นอกจากเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี แล้ว All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO ยังอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มความ ปลอดภัยทั้งใน เชิงการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และระบบลดความรุนแรง ความเสียหายจากอุบัติเหตุ (Passive Safety) อันได้แก่ โครงสร้างตัวถังเป็นแบบ Zone Body Concept เพิ่มความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และกระจายแรงกระแทก เพื่อปกป้องห้องโดยสารและผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ใน นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ทุกรุ่น ขณะที่ด้านข้าง (side airbags) และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (curtain airbags) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น VL เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ปรับสูง-ต่ำ ได้ เพื่อความเหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแต่ละคน โดยเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าเป็นแบบ ELR 3 จุด แบบดึงกลับอัตโนมัติ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุดครบทั้ง 3 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กด้วยจุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX และระบบป้องกันเด็กเปิดประตูจากภายในรถ, ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เห็นได้ชัดเจน โดยระบบเบรกหน้าเป็นแบบดิสก์เบรก พร้อมช่องระบายความร้อน ขณะที่ด้านหลังเป็นแบบดรัมเบรก
ภายในกว้างและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
ขณะที่ภายในของ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับหน้าจอแสดงผลใหม่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมช่องเชื่อมต่อ Bluetooth USB และ AUX IN สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง พร้อมลำโพงคุณภาพดี 6 จุด และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนอย่าง Apple CarPlay มาตรวัดเรือนไมล์แบบเรืองแสง Fine Vision Meter แบบ Digital ผ่านหน้าจอ TFT หน้าจอสีขนาด 7 นิ้ว / แสดงผลข้อมูลการขับขี่ / แสดงมาตรวัดอุณหภูมิภายนอก พวงมาลัย เบาะนั่งห้องโดยสารภายในที่มีสไตล์ ใช้วัสดุคุณภาพสูง และเน้นความประณีตในการประกอบ ช่วยเสริมความโดดเด่นและความหรูหราให้กับรถคันนี้ ด้วยปรัชญาการออกแบบลายเส้นของปีกเครื่องร่อนของนิสสัน (Nissan Gliding Wing) ถูกนำไปใช้ตกแต่งในส่วนแผงหน้ารถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ถึงแนวเส้นโค้งที่โฉบเฉี่ยวบริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งมอบความประทับใจและความสวยงามจากแนวปีกที่กว้างขึ้น
ทั้งหมดที่ได้กล่าวถึงนี้ คือความพิเศษที่เหล่าคณะกรรมการต่างลงคะแนนให้ All-New NISSAN ALMERA 1.0L TURBO คือรถที่มีความสุดยอดด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในกลุ่มรถ CITY CAR และได้รับรางวัล BEST TECHNOLOGY CITY CAR มาครองได้สำเร็จ
NISSAN GT-R 50th ANNIVERSARY
BEST RIDING QUALITY SPORT CAR
ขุมพลัง 555 แรงม้า พร้อมระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบ
NISSAN GT-R 50th ANNIVERSARY มาพร้อมกับตัวถังที่มีให้เลือก 3 สีคือ น้ำเงินตัดขาว ขาวตัดแดง เทาตัดขาวและขุมพลังความแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส VR38DETT V6 ขนาด 3.8 ลิตร 3,799 ซี.ซี. Twin-Turbo 24 วาล์ว ให้พละกำลังสูงสุด 555 แรงม้าที่ 6,800 รอบ/นาทีแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร ที่ 3,300-5,800 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD
ส่วนระบบช่วงล่าง มีการเซตให้ลงตัวมากที่สุด เพื่อรองรับแรงบิดที่มากถึง 632 นิวตันเมตร โดยใช้ปีกนกคู่ พร้อมปีกนกบนและปีกนกล่างอะลูมิเนียม (Forged) ที่ด้านหน้า และ Multilink พร้อมปีกนกบนอะลูมิเนียม (Forged) ที่ด้านหลัง จับคู่กับระบบกันสะเทือน Bilstein Damptronic ปรับได้ 3 รูปแบบ Normal / Comfort / R สามารถเลือกใช้ได้ในทุกรูปแบบการขับขี่ พวงมาลัยควบคุมเป็นแบบไฟฟ้า แร็ค แอนด์ พิเนียน ควบคุมด้วย Electronic ผ่อนแรงไฟฟ้าตามความเร็วรถ ทำให้มั่นใจในการใช้งานในความเร็วสูง และกลับกัน ในความเร็วต่ำ พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา ซึ่งทำให้ควบคุมง่ายมากยิ่งขึ้น ส่วนระบบเบรกใช้เป็นดิสก์เบรก 4 ล้อของ Nissan-Brembo เจาะรู เซาะร่องกลาง ระบบเบรก ด้านหน้า 6 pot ลูกสูบแบบ Super Rigid ขนาด 390 มิลลิเมตรระบบเบรก ด้านหลัง 4 pot Monoblock พร้อมระบบ Radial Mount ขนาด 380 มิลลิเมตร และรองรับแรงบิดด้วยล้อ Forged จาก Rays ขนาด 20 นิ้ว ล้อคู่หน้า 20 x 9.5 ล้อหลัง 20 x 10.5 ยาง Runflat Tyre Dunlop SP Sport Maxx GT600 DSST CTT ยางคู่หน้าขนาด 255/40ZFR20 คู่หลัง 285/35ZFR20 ท่อไอเสียไทเทเนียมแบบใหม่ 4 ท่อ พร้อม Active Sound Enhancement
ภายนอกถ่ายทอด DNA ของรหัส GT-R ไว้อย่างครบถ้วน
NISSAN GT-R 50th ANNIVERSARY มีการออกแบบกระจังหน้าแบบ V-Motion ตกแต่งด้วยโครเมียมแบบด้าน และตาข่าย มือเปิดประตูภายนอกอะลูมิเนียม พร้อมสวิตช์ i-key ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED ไฟหน้าปรับตามองศาการหมุนพวงมาลัย AFS ระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า พร้อมใบปัด ไฟตัดหมอกคู่หน้า ไฟหรี่แบบ LED ไฟท้ายแบบ Multi-LED พร้อมสัญลักษณ์ GT-R ระบบปัดน้ำฝน แบบอัตโนมัติ Rain Sensor กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว ดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าแบบ Carbon SMC ด้านหลัง Carbon Composite สเกิร์ตด้านข้าง สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก
ภายในห้องโดยสารของ NISSAN GT-R 50th ANNIVERSARY เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและปรับด้วยไฟฟ้าในคู่หน้า แผงแดชบอร์ดหุ้มด้วยหนัง พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก) พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง ระบบเซ็นทรัลล็อก ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็ว Auto lock by Speed กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติ พร้อมระบบป้องกันการหนีบ มาตรวัด Optitron พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูล MID ปุ่มควบคุมหน้าจอ MID บนพวงมาลัย ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button เครื่องเสียง วิทยุ AM/FM, CD, MP3 เครื่องเสียง หน้าจอระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE 11 ลำโพง
NISSAN GT-R 50th ANNIVERSARY มาพร้อมระบบความปลอดภัยอาทิ ระบบเบรก ABS / EBD / BA ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง(คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย) กล้องมองภาพขณะถอยจอด เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง
โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ GT-R 50th ANNIVERSARY สัญลักษณ์พิเศษสำหรับ GT-R 50th ANNIVERSARY ภายในห้องโดยสารสีน้ำเงินเทา บริเวณเบาะนั่ง พวงมาลัย หัวเกียร์ แดชบอร์ด เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ประทับตรา 50th ANNIVERSARY ฐานเกียร์ พร้อมสัญลักษณ์ 50th ANNIVERSARY มาตรวัด พร้อมสัญลักษณ์ 50th ANNIVERSARY ที่บังแดด หุ้มด้วย Alcantara เพดานภายในห้องโดยสารบุด้วย Alcantara ส่วนภายนอก มาพร้อมด้วยสัญลักษณ์ 50th ANNIVERSARY ที่ตัวถังรถ ล้อ Forged RAYS ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน พร้อมสัญลักษณ์ และสติกเกอร์ 50th ANNIVERSARY ท้ายรถ
และนี่คือความพิเศษที่สานต่อตำนานความสปอร์ตอันทรงคุณค่า NISSAN GT-R 50th ANNIVERSARY ไม่ได้มีเพียงแต่ความแรงเท่านั้น แต่ยังเป็นรถที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน ที่สำคัญ ยังเป็นตัวแทนความสำเร็จของรหัส GT-R ที่คนหลงใหลมาตลอด 50 ปี
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th