Nissan เตรียมเสริมความแข็งแกร่งในตลาดรถไฟฟ้าให้ตนเองด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้าที่เรียกว่า e-4ORCE ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ที่มีฐานในเมืองโยโกฮามาอธิบายว่าเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติการขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ ซึ่งสามารถช่วยผู้ขับทุกระดับทักษะการขับโดยการให้แรงบิดแก่ทุกล้อของรถพร้อมกับให้ความสมดุลย์และพลังที่คาดการได้ในทุกสถานการณ์

ด้วยตัวอักษร e ใน e-4ORCE ของ Nissan จึงหมายความว่าเป็นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์โดยการใช้มอเตอร์คู่ ส่วน 4ORCE ซึ่ง Nissan ออกเสียงเหมือนคำว่า Force เป็นลักษณะที่มีกำลังและพลังงานของรถ ส่วนเลข 4 แน่นอนว่าหมายถึงการการขับเคลื่อนด้วยทุกล้อของรถ โดย Nissan ระบุว่าเทคโนโลยีนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนา และใช้ประโยชน์จากความรู้ของตนที่ได้มาจากทั้งระบบกระจายแรงบิด ATTESA E-TS ใน GT-R และระบบ Intelligent 4×4 ของรถเอสยูวี Patrol

ทาง Nissan ได้เปิดเผยว่ามีการทำรถทดสอบที่มีระบบ e-4ORCE เรียบร้อยแล้ว โดยใช้ Leaf e+ เป็นพื้นฐานในการสร้าง และจัดให้มีการสาธิตระบบนี้แบบปิดไปตอนช่วงระหว่างโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2019 และที่งาน CES ที่ลาสเวกัสครั้งล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยผลสรุปที่ได้จากการทดสอบน่าพอใจอย่างมาก ซึ่งทาง Nissan ได้ระบุถึงประโยชน์ 4 ด้านที่เทคโนโลยี e-4ORCE มีต่อผู้ขับ เริ่มจากสิ่งแรกคือการเป็นระบบขับเคลื่อนทุกล้อด้วยไฟฟ้าหมายถึงการที่ e-4ORCE ถูกสร้างขึ้นโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ซึ่งจนถึงปัจจุบันรถไฟฟ้าของ Nissan ทั้งหมดใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อจึงเป็นขั้นตอนต่อไปโดยเฉพาะรถไฟฟ้าครอสโอเวอร์ในอนาคตที่มี Ariya Concept เป็นผู้นำ นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าระบบให้การเร่งที่รวดเร็วและราบลื่น พร้อมกับเพิ่มควบคุมในสถานการณ์ที่กว้างขึ้น รวมไปถึงเมื่อผู้ขับต้องการการตอบสนองทันท่วงทีเพื่อหลบหลีกบางสิ่งบนถนนเช่นสัตว์หรือสิ่งของที่ตกอยู่บนถนน

การควบคุมรถคือประโยชน์ด้านที่ 2 ของ e-4ORCE โดย Nissan ให้ความมั่นใจในเรื่องการควบคุมแชสซีส์ที่สมดุลย์ การรักษารถให้อยู่ในเส้นทาง และการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ความมั่นใจว่ารถจะยังคงมีลักษณะที่คาดการณ์ได้แม้ระหว่างเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นมาทันทีทันใด ซึ่งเพื่อให้เกิดสิ่งนี้ระบบจะมีการปรับกำลังของแต่ละมอเตอร์ตลอดเวลารวมไปถึงควบคุมการเบรกที่แต่ละล้อ และแม้โดยการทำงานพื้นฐานจะมีการกระจายแรงบิด 50/50 แต่ e-4ORCE จะสามารถส่งกำลังถึง 100 เปอร์เซ็นต์ไปยังล้อหน้าหรือล้อหลัง หรือกระจายการส่งกำลังที่แตกต่างกันระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้

ประโยชน์ข้อที่ 3 ทาง Nissan ระบุว่า e-4ORCE ให้ความสบายที่สัมผัสได้ ซึ่งหมายถึงการให้การเดินทางที่มีความนุ่มนวลภายใต้สถานการณ์ที่หลากหลาย รวมทั้งระบบเบรกที่ชาร์จพลังงานได้ยังช่วยลดลักษณะการโคลง ทำให้ห้องโดยสารมีความมั่นคงขึ้น ลดความไม่สบายจากการเดินทาง

ส่วนประโยชน์สุดท้ายคือเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจบนถนน ไม่ว่าจะเป็นถนนเปียก ถนนลื่น หรือถนนที่มีหิมะ เช่นหากผู้ขับใช้พลังการขับเคลื่อนมากเกินไปบนถนนที่ลื่น ระบบจะจัดการเพื่อให้ความมั่นใจในการควบคุมและมีรถยังคงมีสเถียรภาพ

อย่างไรก็ตามแม้จะใช้ Leaf e+ เป็นพื้นฐานสำหรับทดสอบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า e-4ORCE แต่ทาง Nissan ก็ไม่มีการเผยออกมาว่า Leaf จะมีระบบนี้เป็นทางเลือกในอนาคตหรือไม่

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th