Nissan GT-R50 by Italdesign หรือจะเป็นโฉมใหม่ ?
คำพูดของ Alfonso Albaisa รองประธานอาวุโสในส่วน Global Design ของ Nissan ที่ว่า “อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราออกแบบ GT-R โดยไร้ข้อจำกัด” อาจเป็นแค่คำเปรยทั่วไปกับทีมงานโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นในสถานการณ์ปกติ แต่ในช่วงเวลาที่ Italdesign ร่วมมือกับ Nissan เป็นครั้งแรกในโอกาสฉลองอายุครบ 50 ปีของทั้งสำนักออกแบบรถยนต์ชื่อดังและ GTR รถสปอร์ตยอดนิยมของ Nissan จึงทำให้รถต้นแบบ GT-R ที่ไร้ข้อจำกัดเป็นไปได้ด้วยการริเริ่ม กำหนดโครงสร้าง และสร้างรถโดย Italdesign ขณะที่ทางทีมออกแบบของ Nissan Design Europe ในลอนดอนและ Nissan Design America รับหน้าที่ในการตกแต่งภายนอกและภายใน
ผลผลิตจากความร่วมมือของทั้งสำนักออกแบบรถยนต์ชื่อดังและ Nissan ทำให้เกิดเป็น GT-R50 โดย Italdesign ที่ดูล้ำหน้าและแตกต่างจาก GT-R ทั่วไปบนพื้นฐานของรถ Nissan GT-R Nismo โมเดล 2018 ที่ถูกใช้ในการสร้าง
ภาพที่ปรากฏของ GT-R50 คือด้านข้างของรถมีหลังคาที่เตี้ยลงกว่ารุ่นปกติ 54 มม. พร้อมกับมีส่วนกลางที่ต่ำกว่าด้านข้างเพื่อให้ทั้ง 2 ด้านของหลังคาที่สูงกว่าเล็กน้อยดูเหมือนกล้ามเนื้อที่ทรงพลัง ขณะที่กระจกหลังของรถมีความยาวขึ้นพร้อมกับลาดเอียงมากขึ้น นอกจากนี้ตัวรถยังมีความกว้างมากขึ้นจากทั้งด้านหน้าและบริเวณโป่งล้อหลังขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนมัดกล้ามเนื้อที่บึกบึน
ด้านหน้าของรถจากความร่วมมือของ GT-R โดย Italdesign ใช้ฝากระโปรงที่มีความโค้งนูนเพื่อบ่งบอกพลังภายใน เปลี่ยนรูปแบบไฟหน้า LED ใหม่ให้มีความเรียวยาวตั้งแต่ซุ้มล้อหน้าจนถึงขอบฝากระโปรงเหนือช่องรับอากาศด้านหน้า ด้านข้างของรถ ช่องระบายอากาศ Samurai Blade ที่เป็นเอกลักษณ์ของ GT-R ได้รับการขยายให้มีความยาวขึ้นตั้งแต่ขอบล่างของประตูจนถึงขอบตัวถังรถด้านบน ขณะที่ด้านท้ายไฟกลมคู่ของ GT-R ปกติได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็นไฟคู่แยกจากกันโดยลอยจากพื้นที่หลังรถ แต่ยังคงไฟลักษณะไฟกลมโดนัมเหมือนเดิมด้วยการออกแบบให้มีรูตรงกลาง รวมทั้งยังมีสปอยเลอร์ปรับมุมได้ขนาดใหญ่อยู่เหนือฝากระโปรงหลัง
เพื่อแสดงถึงการเฉลิมฉลองนอกจากจะใช้สีเทาบนตัวรถภายนอกแล้ว ยังมีการใช้สีทองร่วมด้วยในหลายส่วนทั้งที่กรอบกระจังหน้า กรอบกระจกมองข้าง ช่องรับอากาศบนฝากระโปรง Samurai Blade รวมไปถึงพื้นที่ต่อจากกระจกหลังของรถที่ต่อเนื่องไปจนถึงฝากระโปรงหลัง
นอกจากรูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบใหม่แล้ว เครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงยังได้รับความสำคัญ ทาง Nismo ได้นำประสบการณ์จากรถแข่ง GT3 มาใช้ โดยมีการประกอบเครื่องยนต์ VR38DETT V6 3,000 ซีซี และปรับเปลี่ยนในหลายส่วนของเครื่องยนต์ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มการเข้าของอากาศให้มากที่สุด ใช้เทอร์โบชาร์จที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ของ GT3 ขยายอินเตอร์คูลเลอร์ให้ใหญ่ขึ้น ใช้วัสดุที่รองรับการทำงานหนักขึ้น รวมไปถึงเพิ่มการจ่ายน้ำมันมากขึ้น และปรับปรุงทั้งการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ระบบไหลเวียนของอากาศเข้าและไอเสียให้ดีขึ้น โดยใช้เกียร์ดูอัลคลัชต์ 6 สปีดในการส่งกำลังสู่ล้อ
ผลจากการปรับแต่งเครื่องยนต์ใหม่ทำให้ GT-R50 โดย Italdesign มีกำลัง 720 แรงม้าที่ 7,100 รอบ/นาที แรงบิด 780 นิวตันเมตรตั้งแต่ 3,600-5,600 รอบ/นาที
ช่วงล่างของ GT-R50 เป็นอีกส่วนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยใช้ระบบ Damping ปรับได้ต่อเนื่อง Bilstein DampTronic I และใช้เบรก Brembo ในการหยุดรถ ให้การยึดเกาะถนนที่ตอบสนองต่อสมรรถนะที่สูงของรถด้วยยาง Michellin Pilot Super Sport ที่ประกบกับล้อออกแบบใหม่ขนาด 21 x 10 ที่ด้านหน้า และ 21 x 10.5 ที่ด้านหลัง
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบเพื่อสื่อถึงความทันสมัยและสมรรถนะสูงของรถเน้นโทนสีดำโดยมีการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ 2 แบบทั้งที่คอนโซลกลาง แผงปุ่มปรับควบคุม และที่ประตู เบาะใช้วัสดุทั้งหนังแท้อิตาลีและ Alcantara ขณะที่พวงมาลัยเป็นคาร์บอนไฟเบอร์หุ้ม Alcantara ที่ขอบ นอกจากนี้เกียร์ยังได้รับการออกแบบเพื่อสื่อไปถึงอนาคตโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง และแน่นอนว่าบนพื้นที่สีดำในห้องโดยสารมีการใช้สีทองแทรกอยู่เพื่อแสดงถึงการเฉลิมฉลอง
เห็นทั้งรูปลักษณ์และข้อมูลต่างๆ มากขนาดนี้ แต่อย่าเพิ่งหวังว่าจะออกมาเป็นคันสำหรับจำหน่ายจริงเพราะ Alfonso Albaisa รองประธานอาวุโสของ Nissan พูดถึง Nissan GT-R50 โดย Italdesign ไว้ว่า “แม้นี่จะไม่ใช่ GT-R เจนเนอเรชั่นต่อไป แต่ก็เป็นการฉลองการครบรอบที่น่าตื่นเต้น ซึ่งนำเอาการออกแบบและพื้นฐานวิศวกรรมที่ดีที่สุดของ Nissan มารวมกับการทำตัวถังรถในแบบอิตาลี”
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th