Nissan ได้สร้างรถทดสอบโดยใช้พื้นฐานจาก Leaf e+ ด้วยการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ซึ่งจะใช้กับรถไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นต่อไปออกมา ซึ่งสิ่งอาจทำให้บรรดาผู้รักความแรงพร้อมกับรักษ์โลกต้องหันมาให้ความสนใจก็คือ รถทดสอบนี้มาพร้อมกับการใช้ 2 มอเตอร์ แยกติดตั้งที่แต่ละเพลาของรถซึ่งจะให้กำลังรวมกัน 309 แรงม้า และแรงบิด 680 นิวตัน-เมตร

ด้วยรูปแบบการวางมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนรถจึงทำให้นอกจากมีกำลังสูงกว่า 300 แรงม้าแล้ว รถทดสอบ Nissan Leaf e+ ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออีเล็กทรอนิก พร้อมกับมีเทคโนโลยีอื่นๆ อย่างระบบเบรกใหม่ซึ่งใช้ระบบควบคุมการเบรกอิสระในแต่ละล้อ ที่จะช่วยให้ผู้ขับสนุกไปกับการเข้าโค้งความเร็วสูงได้โดยควบคุมทิศทางน้อยลง

นอกจากมอเตอร์และเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในรถแล้ว รถทดสอบ Leaf ยังมาในขนาดตัวถังที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานเล็กน้อยด้วยความยาว 4,480 มม. กว้าง 1,830 มม. และสูง 1,540 มม. ซึ่งทำให้สั้นลง 10  มม. กว้างขึ้น 42 มม. และสูงขึ้น 10 มม. เมื่อเทียบกับรถมาตรฐาน โดยยังคงรักษาระยะฐานล้อที่ยาว 2,700 มม. ของรถเอาไว้ นอกจากนี้ซุ้มล้อของรถยังถูกขยายขึ้นเพื่อใส่ล้อสไตล์แรลลีขนาด 17 นิ้วกับยาง 215255 ที่ล้อหน้า และ 234250 ที่ล้อหลัง

ส่วนภายในของ Leaf กำลัง 309 แรงม้าวิศวกรของ Nissan ได้ติดตั้งจอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้วซึ่งสามารถรายงานการควบคุมเทคโนโลยีต่างๆ ที่ถูกติดตั้งกับรถได้แบบเรียลไทม์ โดยที่มีกราฟฟิกซึ่งทำให้ผู้ขับเข้าใจได้ง่าย

สำหรับผู้ที่ตาดหวังว่าอนาคตจะมีรถไฟฟ้ากำลังกว่า 300 แรงม้าจาก Nissan ทาง Takao Asami VP อาวุโสด้านวิจัยและวิศกรรมล้ำหน้าของ Nissan ได้พูดถึงรถในอนาคตที่จะมาหลังจากรถทดสอบซึ่งใช้พื้นฐานจาก Leaf e+ ว่า “เร็วๆ นี้ Nissan จะเปิดตัวรถไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะเป็นก้าวสำคัญอย่างแท้จริงเทคโนโลยีควบคุมการขับเคลื่อน 4 อีเล็กทรอนิกใหม่ตอนนี้ถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของ Nissan และเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4  ล้อพร้อมด้วยเทคโนโลยีควบคุมแซสซีส์ของเราจะนำไปสู่สมรรถนะในการเร่ง เข้าโค้ง และเบรกอย่างก้าวกระโดด เทียบเท่ากับรถสปอร์ตรุ่นล่าสุด”

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th