NISSAN LEAF NISMO RC Electric Race Car
NISMO ย่อมาจาก Nissan Motorsport ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 17 กันยายน ปี 1984 หรือกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา จากเดิมเน้นโมรถบ้านให้เป็นรถแข่งเพื่อลงสนาม ก็หันมาผลิตรถบ้านที่แรงแตกต่างจากรถถนนรุ่นมาตรฐาน เอาใจแฟนคลับประจำค่ายที่นิยมการเพิ่มสมรรถนะให้กับรถคันโปรด แต่ต้องการมาตรฐานการอัปเกรดระดับโรงงาน ซึ่งให้ความสบายใจได้ทั้งในเรื่องความทนทาน อายุการใช้งาน การรับประกัน รวมถึงการเข้าศูนย์บริการ สรุป คือ แรงขึ้น ขับสนุกขึ้น โดยที่ไม่เสียสิทธิ์ใดๆ ที่ลูกค้าควรจะได้รับจากบริษัทผู้ผลิต
- ดีไซน์ภายนอก ตัวแข่งไฟฟ้าได้รับอิทธิพลมาจาก LEAF เจเนอเรชันที่ 2
- ความสูง วัดจากหลังคาถึงพื้นถนน ตัวแข่งเตี้ยลงถึง 300 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ LEAF เวอร์ชันถนน
จากคอนเซปต์โมรถบ้านให้เป็นรถแข่งเพื่อลงสนาม สำหรับ NISMO ไม่มีข้อยกเว้นแม้กระทั่งรถไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกอย่าง LEAF ซึ่งถูกต่อยอดไปเป็น ‘LEAF NISMO RC’ มองผิวเผินจากภายนอก เวอร์ชันตัวแข่งได้รับดีไซน์มาจากรถบ้าน หรือ LEAF เจเนอเรชันที่ 2 แบบไม่ต้องสงสัย แต่หากเอกซเรย์ลึกถึงภายใน จะพบว่า NISMO ได้จัดหนักด้วยเทคโนโลยีจากสนามแข่ง Formula E โดยตรง และในทุกองค์ประกอบ
สำหรับ NISSAN LEAF Mk.II ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High Respond Synchronous AC Motor มีพละกำลัง 110 kW หรือราว 150 PS ที่ 3,283-9,795 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 320 Nm ที่ 0-3,283 รอบ/นาที แบตเตอรี่ถูกวางไว้ในส่วนของพื้นห้องโดยสาร ยังคงเป็นแบบลิเทียม-ไอออน ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับ EV มีขนาด 40 kWh ระยะทางที่วิ่งได้ตามมาตรฐานยุโรป (NEDC) อยู่ที่ 378 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.9 วินาที และความเร็วสูงสุดยังคงอยู่ที่ 140 กม./ชม. เท่ากับ LEAF Mk.I
ขณะที่ LEAF NISMO RC ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แต่ละตัวมีกำลัง 120 kW กำลังรวมทั้งคันจึงอยู่ที่ 240 kW หรือ 322 PS พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 640 Nm ตัวเลขแรงม้าอาจดูไม่น่าตื่นเต้น แต่สำหรับแรงบิด นับว่าใกล้เคียงเครื่องยนต์ V8 bi-turbo ที่มีใช้งานอยู่ในรถแรงจากหลายค่าย จุดที่เป็นข้อได้เปรียบคือ แรงบิดจาก LEAF NISMO RC ปราศจากอาการรอรอบ กดคันเร่งปุ๊บ ดึงทันที เพราะแรงบิดสูงสุดมีมาขับเคลื่อนรถแบบเต็มๆ ตั้งแต่มอเตอร์เริ่มต้นหมุน
- แอโรไดนามิกบนตัวถัง NISMO จัดเต็มให้ตามมาตรฐานรถแข่งทุกรายละเอียด
มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 120 kW แต่ละตัว จะวางเชื่อมต่ออยู่กับเพลาขับของล้อหน้าและล้อหลังโดยตรง จึงเป็นการขับเคลื่อนในรูปแบบ AWD ขณะออกตัว LEAF NISMO RC สามารถดึงร่างของนักแข่งให้จมลงในเบาะ ด้วยแรง G มหาศาล อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วระดับซูเปอร์คาร์ ใช้เวลาเพียง 3.4 วินาที ทว่า แตกต่าง เพราะ LEAF NISMO RC เป็นรถแข่งที่ไร้มลพิษ
เทคโนโลยีในส่วนของชุดขับเคลื่อน อันได้แก่ แบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน และชุดอินเวอร์เตอร์ (Inverter ทำหน้าที่แปลงไฟ DC จากแบตเตอรี่ไปเป็นไฟ AC เพื่อส่งไปขับมอเตอร์ไฟฟ้า) ใช้ร่วมกับ LEAF Mk.II ขนาดความจุแบตเตอรี่ ข้อมูลจาก NISSAN ไม่ได้ระบุ แต่น่าจะมากกว่า LEAF รถถนนปกติเกิน 2 เท่า
- มอเตอร์ 2 ตัว ขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการกระจายกำลังและการยึดเกาะ
รูปแบบการขับเคลื่อน AWD ของ LEAF NISMO RC จะเป็นไปในลักษณะเดียวกับรถไฟฟ้า AWD โมเดลอื่นๆ กล่าวคือ นอกจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันทั้ง 2 ตัว ในรูปแบบการขับขี่ที่ต้องการเน้นสมรรถนะสูงสุด เช่น การสร้างความเร็วสูงสุดในทางตรง ยังสามารถสลับกันทำงานเหลือเพียงตัวใดตัวหนึ่ง อาทิ ใช้มอเตอร์ตัวหลังขับเคลื่อนรถ และใช้มอเตอร์ตัวหน้าชาร์จไฟป้อนกลับเข้าระบบ เพื่อให้ LEAF NISMO RC มีพลังงานสำรอง เพื่อวิ่งทำเวลาต่อรอบในสนามได้ตลอดระยะการแข่งขัน
และเมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว สามารถขับเคลื่อนรถได้พร้อมๆ กัน มันก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นเจเนอเรเตอร์ หรือไดชาร์จ เพื่อสร้างแรงหน่วง ขณะรถไฟฟ้าตัวแข่งชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้งได้พร้อมๆ กันด้วย และนั่นหมายความว่า จะได้กระแสไฟป้อนกลับไปยังแบตเตอรี่เป็น 2 เท่า ประโยชน์ของระบบขับเคลื่อนแบบ AWD ใน LEAF NISMO RC ไม่ได้มีแค่เรื่องของพละกำลัง แต่วิศวกรลงรายละเอียดถึงอัตราส่วนในการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง ที่เชื่อมโยงไปกับประสิทธิภาพในการยึดเกาะ การเร่ง รวมทั้งการทะยานออกจากโค้ง
- LEAF NISMO RC ใช้ LED ทั้งในส่วนของไฟหน้าและไฟท้าย
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วเพียง 4 วินาที
แชสซีและการจัดวางอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าของ LEAF NISMO RC ถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำ ซึ่งให้การสมดุลน้ำหนักที่ยอดเยี่ยม พร้อมจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ มาพร้อมความยาว 4,546 มิลลิเมตร โดยใช้ระยะฐานล้อมากถึง 2,750 มิลลิเมตร ขณะที่ความสูงวัดจากหลังคาจนถึงพื้นถนนเหลือเพียง 1,212 มิลลิเมตร ซึ่งเตี้ยกว่า LEAF Mk.II ถึง 300 มิลลิเมตร
ในส่วนของโครงสร้างและตัวถัง NISMO จัดเต็มด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ตามมาตรฐานรถแข่งทุกประการ ส่งผลให้น้ำหนักของรถทั้งคันอยู่ในระดับ 1,220 กิโลกรัม หากเทียบกับ LEAF Mk.II จะเบาขึ้นกว่า 300 กิโลกรัม เบื้องต้นทาง NISSAN วางแผนจะผลิต LEAF NISMO RC ออกมาเพียงแค่ 6 คัน เพื่อนำไปวิ่งโชว์ตัวให้แฟนๆ NISMO ทั่วโลก ได้สัมผัสถึงสมรรถนะที่แท้จริงของรถไฟฟ้า
เรื่อง พิทักษ์ บุญท้วม / กรังด์ปรีซ์ แมกกาซีน ฉบับมกราคา 2561
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th