ในโอกาสที่ รถไฟฟ้า Leaf ถูกเปิดตัวออกมาทำตลาดครบรอบ 10 นับตั้งแต่เจนเนเรชั่นแรกเมื่อปี 2010 Nissan จึงทำการอัพเกรดเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งระบบช่วยขับรวมทั้งระบบเชื่อมต่อให้กับ รถไฟฟ้า รุ่นนี้ของตนในญี่ปุ่น และจะเริ่มทำตลาด Leaf ที่ถูกเพิ่มเทคโนโลยีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 เป็นต้นไป

Nissan Leaf ที่จะถูกขายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าจะมาพร้อมกับระบบช่วยขับ ProPilot ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่ช่วยผู้ขับมากขึ้นเพื่อช่วยลดความอ่อนล้าและความเครียดในการขับรถ โดยมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระบบควบคุมความเร็วให้มีประสิทฑิภาพสูงขึ้น ด้วยการเบรกที่มีความนุ่มนวลขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถรักษาความเร็วที่ผู้ขับตั้งไว้บนถนนทีมีความลาดเอียง และรักษาสมดุลย์ด้านกำลังของรถเมื่อกลับเข้ามาอยู่บนพื้นถนนที่มีความเรียบตามปกติได้ นอกจากนี้ระบบ ProPilot ใน Leaf ที่ขายในปีหน้ายังถูกปรับเพื่อลดเวลาที่ใช้ในการทำงานของระบบช่วยจอดรถลง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ระบบจะทำหน้าที่ช่วยผู้ขับทุกด้านในการจอดรถทั้งการเร่ง เบรก ควบคุมพวงมาลัย เปลี่ยนเกียร์ และเบรกเมื่อจอด

       นอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงานที่มีอยู่แล้ว Leaf ที่ขายในญี่ปุ่นปีหน้าจะมาพร้อมกับการทำงานใหม่เป็นครั้งแรกอย่างของรุ่นอย่าง Intelligent Blind Spot Intervention ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดการชนจากการเปลี่ยนเลน รวมไปถึงมีการติดตั้ง Canto หรือเสียงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Nissan ที่ดังออกมาในระดับที่ช่วยเตือนคนเดินถนนและรถคันอื่นว่ารถกำลังเข้ามาเมื่อขับรถภายใต้ความเร็วที่กำหนดสำหรับในตัวเมืองหรือเมื่อกลับรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทาง Nissan เคยนำเสนอในโตเกียวมอเตอร์โชว์ปี 2017 และมีการเปิดตัวใช้ครั้งแรกกับ Nissan Serena ในตลาดญี่ปุ่นไปแล้ว

การทำงานอื่นๆ ที่ถูกเพิ่มใน Leaf คือ Door to Door Navigation ซึ่งจับคู่ระบบนำทางของรถกับสมาร์ทโฟน จะมาพร้อมกับฟีเจอร์เฉพาะสำหรับรถไฟฟ้าโดยแสดงแผนการชาร์จพลังงานเพื่อช่วยให้เดินทางไปถึงจุดหมาย รวมไปถึงสามารถอัพเดตแผนที่ได้ทางออนไลน์ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ Leaf มาพร้อมกับ Docomo in Car Connect ที่เปลี่ยนห้องโดยสารเป็นพื้นที่ไว-ไฟสำหรับลดการใช้ข้อมูลจากสมาร์ทโฟนในขณะขับ รวมทั้งเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ของ Nissan มาพร้อมกับเครื่องมือค้นหาของ Google เพื่อความง่ายขึ้นในการค้นหาสถานที่เดินทาง และด้วยแอพพ์ Check/Remote Door Lock จะช่วยให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้ล็อกรถหรือยัง โดยหากลืมล็อกจะสามารถทำได้จากระยะไกลผ่านแอพพ์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้แอพพ์เพื่อตรวจสอบสถานะต่างๆ ของ Leaf เมื่อมีผู้อื่นนำไปใช้งานได้ทั้งความเร็วของรถ สถานที่ รวมทั้งสามารถแจ้งเตือนกำหนดเวลาใช้งานได้

สำหรับสิ่งอื่นๆ ที่ทาง Nissan เพิ่มให้กับ Leaf สำหรับขายปีหน้าในบ้านตนเองมีทั้งการใช้จอขนาด 9 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งให้มุมมองที่ดีขึ้นสำหรับการดูแผนที่ระบบนำทาง และมีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้น ส่วนภายนอกของรถมีการเพิ่มสีใหม่คือสีฟ้า Vivid Blue และสีเทา Stealth Gray เข้ามา โดยมีเสาอากาศ Shark Fin เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th