Nissan Navara Single Cab กระบะเพื่ออาชีพ ของดีที่ไม่ควรมองข้าม
มีโอกาสน้อยมากที่ค่ายรถจะจัดรถมาให้ทดสอบในรุ่นเริ่มต้น ปกติแล้วจะจัดรุ่นท๊อปให้ได้ลองกันประจำ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนไป ทางค่ายนิสสันชวนให้ไปขับ Nissan Navara Single Cab รถกระบะหัวเดี่ยว เกียร์ธรรมดาไปบรรทุกสับปะรดกันถึงราชบุรี และเมื่อหลังจากได้ลองขับทางทางฝุ่นลุยไปกลางไร่ และขับแบบเส้นทางทั่วไปแล้ว ถือว่าเป็นรถสร้างอาชีพที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะมันดีจริง ดีอย่างไรมาติดตามกัน
สำหรับ Nissan Navara Single Cab มีจุดเด่นที่มากกว่ากระบะหัวเดี่ยวรุ่นอื่น คือ Nissan Connect รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto ขึ้นบนหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อได้ง่ายซิงก์ข้อมูลจากสมาร์ทโฟนได้ทันที จะเล่นเพลงผ่านสมาร์ทโฟนหรือเปิดแผนที่นำทาง Google Map พร้อมแสดงผลบนหน้าจอแบบแบ่งครึ่ง ฝั่งซ้ายเป็นเพลงที่เล่น ฝั่งขวาเป็นแผนที่นำทาง ใช้งานได้สะดวกไม่ต่างจากรุ่นท้อปเลย
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.5 ลิตร VGS Turbo แรงม้าสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร เกียร์เป็นแบบธรรมดา 6 สปีด พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อ Shift on the fly 4 Whell Drive & 4LO ติดตั้งไว้มุมล่างของคอนโซล ทำงานด้วยการบิดเพื่อเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน อยู่ในจุดที่ใช้งานได้สะดวก ซึ่งปรับได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ในเวลาใช้งานจริงบนเส้นทางเข้าไร่สับปะรม พื้นถนนเป็นทางลูกรังและทางดินปนทรายที่บางจุดมีความร่วนของดินอยู่พอสมควร บางจุดขับเคลื่อน 2 ล้อหลังผ่านไปได้ แต่บางจุดเส้นทางหลอกตาเหมือนเป็นทางปกติ แต่กลายเป็นทรายนุ่มๆ ขับ 2 ผ่านไม่ได้ แค่ปรับระบบขับเคลื่อนเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถขับผ่านได้อย่างสบาย รวมทั้งมีโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบความเร็วต่ำ หรือ 4LO ไว้ช่วยเพิ่มกำลังฉุดเมื่อรถติดหล่มเอาไว้ด้วย ถือว่ากระบะหัวเดี่ยวรุ่นนี้พร้อมลุยในการใช้งานจริงได้อย่างตอบโจทย์
นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บของในหลายตำแหน่ง ทั้งช่องเก็บฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าและด้านข้างคนขับ ที่ด้านข้างออกแบบให้มีที่เหยียบขึ้นกระบะด้านข้าง จุดนี้ช่วยให้การขนของทำได้สบายและง่ายสะดวกมากขึ้น และโครงสร้างตัวถังยังเป็นเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดทั้งคัน รองรับการบรรทุกหนัก ซึ่งตามสเปคสามารถบรรทุกลังกระดาษได้ถึง 14 ลัง ตะกร้า 14 ชิ้น สามารถซ้อนตระกร้าได้ 3 ชั้น กลายเป็นขนได้สูงสุด 40 ชิ้น และมีน้ำหนักรวมสูงสุดได้ 1,090 กิโลกรัม ซึ่งถ้ากระบะเป็นแบบพื้นเรียบ ไม่ติดซุ้มล้อจะดีกว่านี้มากๆ
โดยจากการใช้งานจริงด้วยการบรรทุกสับปะรดแบบเต็มความจุ น้ำหนักรวมเกิน 1,100 กิโลกรัม ถือว่าพละกำลังมาเหลือเฟือ เพราะในตอนออกตัว เข้าเกียร์ 1 ปล่อยคลัช รถจะเริ่มค่อยๆ ออกตัว ไม่ต่างกับตอนที่ไม่ได้บรรทุก และไม่ต้องกดคันเร่งเพิ่มเพื่อให้รถเคลื่อนตัวเลย ถือว่าพลังมากพอ แรงบิด 403 นิวตันเมตร รองรับการบรรทุกแบบนี้ได้สบาย รวมทั้งในการขับจากจุดที่ขนสับปะรดออกไปยังรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อส่งออกนอกไร่ ระยะทางร่วม 4 กิโลเมตร เส้นทางเป็นทางดินร่วนๆ สลับดินแข็งตลอดเส้นทาง ช่วงล่างของรถที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบแหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ ให้ความนุ่มนวลมาก ยิ่งบรรทุกหนักยิ่งทำให้ระบบช่วงล่างทำงานได้ชัดเจนขึ้น แม้บรรทุกหนักยังขับได้สบาย จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ทำได้ราบรื่น เกียร์สั้น เข้าเกียร์ง่าย แป้นคลัชน้ำหนักเบา แค่รู้สึกว่าแป้นคลัชสูงไปสักหน่อย ทำให้เวลาขับใช้งานแบบนี้ต้องใช้คลัชบ่อยๆ มีอาการเมื่อยข้อเท้าซ้ายพอประมาณเท่านั้น
นอกจาก Nissan Navara Single Cab คันนี้ ทีมงานยังได้เตรียม Nissan Navara รุ่น King Cab Caliber V 7AT เอาไว้ใช้ลองใช้เทียบความแตกต่างกันด้วย ถือว่าความแตกต่างในเรื่องของพละกำลัง ช่วงล่าง การควบคุม ใกล้เคียงกันมาก มีจุดที่ต่างกันคือ การขับที่สบายกว่าเพราะเป็นเกียร์อัตโนมัติ และยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่มากกว่ารุ่น Single Cab โดยมีทั้งระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง, ระบบการเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชน, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง, ระบบควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทาง, ระบบเตือนรถในมุมอับสายตา, ระบบป้องกันการชนรถในจุดอับสายตา, ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย และระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ
รวมทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.3 ลิตร ที่แรงม้ามากกว่าเป็น 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร เบาะหนัง Quole Modure พร้อมเบาะฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Nissan Connect และล้ออัลลอยปัดเงาทูโทน ขนาด 18 นิ้ว
สำหรับราคา Nissan Navara Single Cab รุ่น 4WD SL 6MT ราคา 659,000 บาท และรุ่น SL 6MT ราคา 595,000 บาท ถือว่าราคาไม่แรงสำหรับการนำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์เป็นรถสร้างอาชีพ หรือจะขยับไปรุ่น King Cab จะเริ่มต้นในรุ่น SL 6MT ราคา 649,000 บาท ไปถึงรุ่นท๊อปของ King Cab เป็นรุ่น Calibre V 7AT ราคา 889,000 บาท
ในภาพรวมของการใช้งาน ในส่วนของการบรรทุกหนักถึง 1 ตัน ขับใช้งานในไร่ที่พื้นผิวมีความหลากหลาย มีหลุม มีเนินสูง ทางดิน ทางลูกรัง ทางทราย ครบทุกแบบ ทำให้การใช้งานรถกระบะขับ 2 ทั่วไปใช้งานได้ลำบาก จำเป็นต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเข้ามาช่วยเป็นเรื่องจำเป็นมาก ซึ่ง Navara Sing Cab 4WD SL 6MT ตอบโจทย์มาก พวงมาลัยน้ำหนักเบามือ เกียร์ธรรมดาเข้าง่าย ห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ ซิงก์หน้าจอเป็น Google Map ได้ รวมทั้งระบบช่วงล่างด้านหลังถึงจะเป็นแหนบ แต่มีความนุ่มนวล ไม่แข็ง ไม่กระเด้งจนหัวคลอน การขับใช้งานแบบบรรทุกหนักถือว่าสอบผ่านสบาย
ส่วนการขับบนทางออนโรดทั่วไป ในช่วงขับจากกรุงเทพมาราชบุรี ทีมงานนำถุงปุ๋ย 4 กระสอบ มาวางไว้ในกระบะเพื่อถ่วงน้ำหนักแล้วมาเทียบความแตกต่างในขากลับเมื่อไม่มีน้ำหนักอะไรมาถ่วง กลายเป็นว่าผมไม่ต่างกัน ช่วงล่างยังคงให้ความนุ่มนวล อัตราเร่งจัดจ้าน เบรกดี ควบคุมได้ง่าย แม้ว่าจะไม่ได้บรรทุกอะไร การขับผ่านเส้นทางขรุขระยังให้ความนุ่มนวล ไม่แข็งไม่โยน จุดนี้ถือว่านิสสันทำการบ้านมาได้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีจริงๆ จุดนี้ต้องขอชม
จะมีจุดที่ติเล็กน้อยเรื่องเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารที่ใหญ่นั่งสบายก็จริง แต่ไม่สามารถขยับเลื่อนได้ เป็นแบบยึดติดอยู่กับที่ และการเข้าเกียร์ถอย ต้องกดก้านเกียร์ลงแล้วค่อยตบขวาแล้วดันลงล่าง มีขัดๆ อยู่เล็กน้อย ต้องกดคนเกียร์ลงตรงๆ ถึงจะใส่เกียร์ถอยได้ ต้องอาศัยความคุ้นเคยนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ถ้ามองว่าต้องการรถกระบะหัวเดี่ยวเอาไว้ขับใช้งานแบบสร้างอาชีพ ถือว่า รุ่น 4WD SL 6MT ราคา 659,000 บาท มีต้นทุนที่ไม่สูง มีความคุ้มค่าสร้างกำไรได้ เพราะการดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก อะไหล่ราคาไม่สูง และที่สำคัญยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย โดยใน Single Cab เกียร์ธรรมดา ในภาพรวมทั้งไป-กลับอยู่ที่ 16 กิโลเมตรต่อลิตร ขับไป-กลับ กรุงเทพ-ราชบุรี ระยะทางรวมเกือบ 300 กิโลเมตร ใช้น้ำมันไปไม่ถึง ¼ ถัง (ถังน้ำมันมีขนาด 80 ลิตร) อยากให้ Nissan Navara Single Cab มาเป็นตัวเลือกหากต้องการใช้งานในเชิงพาณิชย์ เชื่อมั่นว่าจะคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ระยะคืนทุนเร็วแน่นอน
เรื่อง : พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th