Nissan เผยโฉมรุ่นใหม่ของรถซับคอมแพ็กแฮทช์แบ็ก Note ซึ่งเป็นเจนเนอรเชั่นที่ 3 ออกมาแทนที่รุ่นปัจจุบันขายมาตั้งแต่ปี 2012 พร้อมกับดีไซน์ภายนอกใหม่แตกต่างกับรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน ร่วมกับการใช้ขุมกำลัง e-Power เจนเนอเรชั่นที่ 2 โดยที่คนญี่ปุ่นไม่ต้องรอนาน เพราะพร้อมที่จะทำตลาดในบ้านตนเองอย่างรวดเร็ว โดยวางแผนที่จะขายวันที่ 23 ธันวาคมนี้

        การออกแบบของ Nissan Note ใหม่ถูกระบุว่าเป็นแนวคิดการออกแบบล่าสุดของ Nissan คือ Timeless Japanese Futurism เพื่อให้ดูเรียบง่ายแต่มีพลังที่ทัยสมัย โดยมีกระจังหน้า V-Motion สร้างความโดดเด่นที่ภายนอกด้วยเส้นตัว V ที่แข็งแกร่งใต้ไฟหน้าใหม่ทรงเรียวซึ่งประกอบด้วยไฟ LED 4 ดวงวางเรียงกัน ในขณะที่ล้ออลูมิเนียมขนาด 16 นิ้วใหม่ของ Note จะทำให้คิดถึงใบมีด โดยในญี่ปุ่นจะมีสีภายนอกของรถให้เลือกถึง 13 สี รวมทั้ง 2 ทางเลือกในแบบสีทูโทน

        สำหรับภายในห้องโดยสารของ Note ถูกออกแบบโดยระบุว่าลดส่วนต่างๆ ลงแต่เพิ่มความสะดวกและเทคโนโลยีมากขึ้น อย่างการเอื้อมไปเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ซึ่งมีขนาดเล็กลงที่คอนโซลกลางได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังมีพื้นที่เปิดโล่งด้านล่าง นอกจากนี้เบาะนั่งยังเป็นแบบ Zero Gravity พร้อมกับมีที่ท้าวแขนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความสบายในการเดินทางไกล ส่วนเบาะหลังถูกระบุว่ามีการขยายพื้นที่มากขึ้นทั้งในพื้นที่ส่วนหัวและส่วนขารวมไปถึงการเอนหลังของเบาะ ขณะที่พื้นที่เก็บของด้านหลังสามารถเปิดได้กว้างเพื่อทำให้เก็บและนำสิ่งของออกได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมกับทั้งจอขนาดใหญ่แบบไร้ขอบสำหรับระบบ Infotainment และระบบนำทางตรงกลาง เรือนไมล์ดิจิตอลที่ดูข้อมูลได้ง่ายและชัดเจน รวมไปถึงมีที่ชาร์จไร้สายที่คอนโซลกลาง

        ระบบ e-Power ที่ใช้ใน Note ใหม่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและ Inverterใหม่ โดยที่มอเตอร์ไฟฟ้าจะให้แรงบิดเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์และกำลังเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ทั้งพลังและอัตราเร่งที่เร้าใจขึ้น นอกจากนี้ Inverter ใหม่ยังมีขนาดเล็กลง 40 เปอร์เซ็นต์ และน้ำหนักเบาลง 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเครื่องยนต์ HR12DE-EM47 ที่ทำงานร่วมด้วยเพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าถูกระบุว่าประหยัดพลังงานมากขึ้นพร้อมกับมีกำลังมากขึ้น โดยมีการทำงานในรอบที่น้อยลงและทำงานน้อยลงในการขับทั่วไป

        ความล้ำหน้าหนึ่งที่ Nissan ระบุเกี่ยวกับรถรุ่นใหม่ของตนคือเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการควบคุมการสร้างพลังงานไฟฟ้าตามสภาพถนน โดยเมื่อมีเสียงรบกวนจากถนนเพิ่มขึ้นจากสภาพพื้นผิวของถนนและความเร็วของรถ เครื่องยนต์จะเปลี่ยนไปชาร์จพลังงานให้แบตเตอรีของ e-Power เพื่อลดความจำเป็นในการทำงานของเครื่องยนต์ในสถานการณ์ที่ต้องการความเงียบขึ้น

ส่วนความปลอดภัยทาง Nissan ระบุว่า Note ใหม่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม 360 องศาของรถ รวมทั้งมี ProPILOT with Navi-link ที่เชื่อมระบบนำทางกับทางหลวงและการตรวจจับป้ายสัญญาณจำกัดความเร็วสำหรับการปรับความเร็วของรถตามอัตโนมัติ

        Nissan Note จะถูกขายในญี่ปุ่น 3 เกรดคือ S, F และ X โดยมีราคา 2,029,500 เยน, 2,054,800 เยน และ 2,186,800 เยนหรือ 591,000 บาท, 598,400 บาท และ 636,860 บาทตามลำดับ

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th