Nissan Patrol รุ่นใหม่ทันสมัยพร้อมแกร่ง
Patrol รถเอสยูวีรุ่นใหญ่ของ Nissan ลุยตลาดมาถึงเจเนเรชันที่ 7 โดยเพิ่งเปิดตัวที่ตะวันออกกลาง พร้อมกับการเปิดตัวเป็นรุ่นใหม่ของ Armado ที่สหรัฐอเมริกา โดยรถรุ่นใหม่มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและทนทาน
Nissan Patrol ใหม่ถูกออกแบบให้โดดเด่นเมื่ออยู่บนถนนด้วยกระจังหน้า V-motion ที่เป็นศูนย์กลางของด้านหน้ารถซึ่งถูกออกแบบให้มีความกว้างและรวมเข้ากับตัวรถมากขึ้น ขนาบข้างด้วยไฟหน้า Double C-shaped ที่ใช้เทคโนโลยี Adaptive Driving Beam ในขณะที่ไฟท้ายสะท้อนการออกแบบมาจากกระจังหน้าพร้อมมีแถบไฟยาวเต็มความกว้างของรถ ขณะที่ล้อมาตรฐานของรถมีขนาด 22 นิ้วเพื่อเพิ่มความสูงของรถและสมรรถนะออฟโรดมากขึ้น
นอกจากนี้รถยังเพิ่มความพรีเมียมด้วยไฟ Puddle Lamp ที่ทำงานเพื่อเดินมาถึงรถพร้อมกุญแจหรือเมื่อปลดล็อกประตู โดยฉายไฟเป็นรูปทรงของรถและข้อความ Since 1951 เพื่อบอกถึงประวัติศาสตร์ของรถ
ขณะที่ภายนอกของรถเน้นความรู้สึกแกร่ง ห้องโดยสารของรถผสานความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า เพื่อให้ทั้งความผ่อนคลายและความสะดวก ขณะที่หนังในห้องโดยสารถูกเย็บให้มีลายที่มาจากงานฝีมือไม้ดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยที่บางเกรดของรถจะมีเบาะปรับได้ 8 ทิศทางและฟังก์ชันนวด รวมทั้งยังมีความสมดุลย์ทั้งด้านการหนุนเพื่อรองรับและการเข้ากับสรีระเพื่อความสบาย ขณะที่หลังคาซันรูฟพาโนรามิกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานมากับรถทั้งหมด
ความสบายในห้องโดยสารยังรวมไปถึงใช้เทคโนโลยี Biometric Cooling ที่ใช้เซ็นเซอร์อินฟราเรดตรวจจับอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารที่เบาะหน้าและเบาะแถวที่ 2 เพื่อปรับการไหลเวียนอากาศอัตโนมัติ
นอกจากความสบายแล้วยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีด้วยจอ Monolith ขนาด 28.6 นิ้ว โดยประกอบด้วยจอขนาด 14.3 นิ้วคู่สำหรับระบบนำทาง ความบันเทิง และแสดงข้อมูลการขับ รวมทั้งมีออปชันจอ 12.8 นิ้วสำหรับเบาะหลังเพื่อให้ความบันเทิงผ่าน Miracast, HDMI หรือ USB และมีไฟ Ambient Lighting 64 สีที่ปรับแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารได้ โดยรถบางเกรดจะให้ความเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีด้วยระบบเสียง Klipsch Premium Audio ลำโพง 12 ตัว
ขุมพลังของรถเป็นเครื่องยนต์ V6 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ 425 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตัน-เมตร โดยที่มีเครื่องยนต์ V6 3.8 ลิตร 316 แรงม้า แรงบิด 386 นิวตัน-เมตรเป็นอีกทางเลือก ขณะที่ระบบส่งกำลังเป็นแบบอัตโนมัติ 9 สปีด ส่วนช่วงล่างของรถเป็นแบบ Adaptive Air Suspension ที่ปรับความสูงของรถให้เหมาะกับการขับในเมืองหรือบนทางออฟโรด
รถเอสยูวีเรือธงรุ่นใหม่มี 6 โหมดขับให้เลือก รวมทั้งมี 4WD Transfer Mode Interlock System ใหม่เป็นครั้งแรกของ Nissanเพื่อการเปลี่ยนโหมดที่ราบลื่นและรับมือกับพื้นที่ที่ท้าทาย
ในเมื่อรถถูกเปิดตัวที่ตะวันออกกลาง ดังนั้นจึงเริ่มขายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซาอุดิอาระเบีย และพื้นที่อื่นในตะวันออกกลางก่อนโดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024 นี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th