Nissan คืนชีพ All-New X-Trail กลับมาขายเมืองไทย-มีลุ้นเปลี่ยนใจขาย Ariya เอสยูวีไฟฟ้า
All-New Nissan X-Trail มีลุ้นกลับมาทำตลาดในประเทศไทย โดยคาดว่าจะเปิดตัวต่อจาก Serena รถเอ็มพีวีที่จะเริ่มต้นขายปลายปีนี้ รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะนำ Ariya เอสยูวีไฟฟ้าเทคโนโลยีสุดล้ำเข้ามาขายอีก 1 รุ่นในอนาคตอันใกล้
หลังจากตกเป็นกระแสข่าวลือว่าอยู่ในข่ายบริษัทรถยนต์ที่เตรียมม้วนเสื่อกลับแดนซามูไรมาพักใหญ่ ในที่สุด นิสสัน มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น เริ่มขยับตัวปล่อยข่าวใหญ่มาสร้างความฮือฮากับกองทัพรถยนต์รุ่นใหม่ที่เตรียมจะเปิดตัวขายในประเทศไทยอีกไม่นานนี้
ตามข้อมูลที่ Grand Prix Online สืบทราบมาโมเดลใหม่แบบ All-New คันแรกในรอบหลายปีของ Nissan จะเป็น Serena มินิแวน 7 ที่นั่ง ที่มีข่าวลือมายาวนาน โดยคาดว่าจะได้ขายสักทีในช่วงปลายปีนี้ แต่โมเดลถัดมาที่จะนำเข้ามาเปิดตัวค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น All-New X-Trail เจเนอเรชั่นใหม่ของคอมแพ็กต์เอสยูวีจะกลับมาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากเชิญตัวแทนดีลเลอร์ของบ้านเราเดินทางไปทดสอบที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย
Nissan เคยนำ X-Trail เจเนอเรชั่นที่ 3 เข้ามาเปิดตัวขายในประเทศไทยเมื่อปี 2014 โดยมีตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และไฮบริด แต่ไม่ประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายเท่าไรนัก ทำให้ยุติการทำตลาดในเดือนกันยายน 2020 โดยไม่มีแผนนำเจเนอเรชั่น 4 ซึ่งเปิดตัวในปีถัดมาเข้ามาทำตลาดต่อ จากกระแสความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของนิสสัน มอเตอร์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
All-New X-Trail e-Power สานต่อการลงทุนในประะเทศไทย
All-New X-Trail รหัสตัวถัง T33 เปิดตัวครั้งแรกในงานออโต้ ไชน่า 2021 โดยมีตัวเลือกขุมกำลังที่แตกต่างไปตามภูมิภาคที่จำหน่ายทั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบ Variable Compression Ratio เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร, เครื่องยนต์เบนซิน Direct Injection 2.5 ลิตร, ระบบขับเคลื่อน e-Power ที่มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมเทคโนโลยี e-4ORCE
Nissan X-Trail ใส่เทคโนโลยี e-Power เจน 2 ทำตลาดในบ้านตนเอง
อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้ที่สุดของ All-New X-Trail ที่จะกลับมาขายในประเทศไทย เชื่อว่าจะเป็นขุมกำลัง e-Power เหมือนกับออสเตรเลีย ที่เป็นตลาดเดียว (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นนี้ขายอยู่ แต่จะเป็นรุ่นขับเคลื่อนสองล้อที่มีกำลังสูงสุด 201 แรงม้าที่ขายอยู่ในตลาดยุโรป หรือจะกล้าเดิมพันนำตัวท็อปขับเคลื่อนสี่ล้อเทคโนโลยี e-4ORCE ที่มีกำลังเพิ่มอีกเล็กน้อย 210 แรงม้า เข้ามาขายในประเทศไทยคงต้องรอลุ้นกันอีกที
นอกจากนี้การที่นิสสัน มอเตอร์ ตั้งโรงงานประกอบแบตเตอรี่สำหรับระบบขับเคลื่อน e-Power ที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยเปิดดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 นับเป็น 1 ในโรงงานนิสสัน 4 แห่งทั่วโลกเท่านั้นที่มีศักยภาพในการประกอบแบตเตอรี่สำหรับระบบขับเคลื่อนอี-พาวเวอร์ และเป็นแห่งแรกที่ตั้งอยู่นอกประเทศญี่ปุ่น คงจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไรที่พวกเขาคงจะปล่อยโรงงานที่ทันสมัยแห่งนี้ประกอบแบตเตอรี่ให้ Nissan Kicks ที่กำลังเข้าสู่ช่วงปลายอายุโมเดลอยู่เพียงรุ่นเดียวไปตลอดแน่นอน
ไม่ตัดใจรถยนต์ไฟฟ้า Ariya ยังมีลุ้นเข้ามาขาย
นอกจากนี้เชื่อว่า Nissan ไม่ตัดใจกับการนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หลังจากมีการนำ Ariya ครอสส์โอเวอร์พลังไฟฟ้ามาให้ตัวแทนดีลเลอร์ของบ้านเราได้ร่วมทดสอบพร้อมกับ Serena และ X-Trail
Nissan เปิดตัวครอสส์โอเวอร์ไฟฟ้าใหม่ All-new Ariya พร้อมขายจริงกลางปีหน้า
กระแสข่าวลือการนำ Ariya เอสยูวีที่มีระยะการขับ 450-580 กม./ชาร์จ (ตามมาตรฐานทดสอบ WLTC) เข้ามาขายในประเทศไทยเกิดขึ้นมานาน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกเผชิญวิกฤตขาดแคลนชิป (Chip Shortage) จนทำให้กำหนดขายถูกเลื่อนไปในต้นปี 2022 และด้วยความผิดพลาดของการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Nissan Leaf ในประเทศไทยที่มียอดขายไม่ได้ตามเป้าหมาย ส่งผลให้ นิสสัน ปรับแผนมานำเสนอระบบขับเคลื่อน e-Power เป็นหลักสำหรับตลาดประเทศไทย
การปัดฝุ่นแผนการเปิดตัว Ariya ยังช่วยคอนเฟิร์มข้อมูลที่ Grand Prix Online เคยได้รู้มาว่า นิสสัน มอเตอร์ กำลังวางแผนให้กลุ่มบริษัทเก่าแก่ที่เป็นพันธมิตรกับพวกเขาในประเทศไทยมาอย่างยาวนานรับผิดชอบแผนการก่อสร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ได้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ Nissan เท่านั้น แต่ยังรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นที่ทำตลาดอยู่ในบ้านเราเวลานี้
อย่างไรก็ตามโอกาสที่ Ariya จะเข้ามาขายในประเทศไทยต้องผ่านอีกหลายด่านทั้งการเจรจาเงื่อนไขสนับสนุนการลงทุนกับหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งการตัดสินใจเลือกระหว่างโมเดลปัจจุบันหรือจะเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ และศูนย์บริการของนิสสัน ในเวลานี้พร้อมรองรับรถยนต์ไฟฟ้ากี่แห่ง
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: อินเตอร์เน็ต
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Nissan X-Trail ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์ม CMF-C สำหรับขายในญี่ปุ่นใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร VC-Turbo พร้อมกับเทคโนโลยี e-Power เจนที่ 2 ซึ่งถูกระบุว่าได้รับการปรับปรุงในด้านกำลัง ความราบลื่น และความเงียบให้ดีขึ้น แต่รูปแบบการทำงานไม่ต่างกับเจนแรกที่เครื่องยนต์ไม่ได้สร้างกำลังขับเคลื่อนสู่ล้อ
แต่ทำหน้าที่สร้างพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์สำหรับขับเคลื่อนอีกที โดยที่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนทุกล้อด้วยไฟฟ้า e-4ORCE จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เหมือนที่อยู่ในรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้า Ariya
นอกจากนี้ X-Trail ที่ญี่ปุ่นยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี e-Pedal Step ที่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าจากการเบรกได้
ความแตกต่างในด้านระบบขับเคลื่อนแล้ว X-Trail ที่เปิดตัวในญี่ปุ่นมีรูปลักษณ์ภายนอกไม่แตกต่างจาก Rogue ที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2020 ทั้งการมีไฟหน้าแบบแยก กระจังหน้า V-Motion มีการแทรกด้วยโครเมียม รถมาพร้อมกับแผ่นกันกระแทกอลูมิเนียม มีเสาสีดำยกเเส้นเสาหลังที่เป็นสีเดียวกับตัวรถ โดยที่ X-Trail ในญี่ปุ่นจะ 12 สีภายนอกให้เลือกรวมทั้ง 5 สีดูโอโทน และมีเกรด X ที่เพิ่มความแกร่งให้รูปลักษณ์มากขึ้น
ห้องโดยสารของ X-Trail มีจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 12.3 นิ้วที่มี 2 โหมดการแสดงข้อมูลให้เลือก รวมไปถึงมีการแสดงข้อมูล Head-up Display ขนาด 10.8 นิ้ว ในขณะที่จอระบบ Infotainment มีขนาด 12.3 นิ้วเท่ากับจอแสดงข้อมูลผู้ขับ โดยในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อจะมีเฉพาะรูปแบบเบาะ 2 แถวในห้องโดยสาร แต่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมีรูปแบบเบาะ 3 แถวเพิ่มเข้ามาให้เลือก
อุปกรณ์อื่นในห้องโดยสารมีระบบเสียงพรีเมียมจาก Bose สำหรับ X-Trail โดยเฉพาะ ช่องจ่ายไฟ AC 100V มีหลากหลายวัสดุหุ้มเบาะอย่างผ้าสีดำ หนัง Nappa สีน้ำตาล รวมถึง Cell-Cloth ที่ป้องกันน้ำ นอกจากนี้ยังมีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา รวมไปถึงการทำงานช่วยผู้ขับกึ่งขับขี่อัตโนมัติในชุดการทำงาน ProPilot