Nissan Rogue รุ่นปรับโฉมกลางอายุตลาดเปลี่ยนหน้าใหม่พร้อมเพิ่มความทันสมัยในห้องโดยสาร
Nissan ทำการอัพเดทกลางอายุตลาดให้กับ Rogue รุ่นปรับโฉม ซึ่งเป็นรถเอสยูวีที่ขายดีที่สุดของตนในสหรัฐอเมริกา หรือที่ใช้ชื่อ X-Trail ในตลาดภูมิภาคอื่น โดยรถรุ่นใหม่มาพร้อมกับด้านหน้าที่ถูกเปลี่ยนใหม่ รวมทั้งยังเพิ่มความทันสมัยมากขึ้นในห้องโดยสาร
ความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของ Nissan Rogue รุ่นปรับโฉม ที่สหรัฐอเมริกาคือด้านหน้าของรถ ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ขนาดใหญ่มีช่องกระจังหน้าโครเมียมแนวนอน รวมไปถึงมีการออกแบบช่องดักอากาศใหม่ที่กันชนหน้า ในขณะที่ไฟหน้าแบบแยกของรถยังคงไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลง ส่วนไฟท้าย LED ของรถมีการปรับกราฟฟิกใหม่
ในส่วนของแผงตัวถังรถรุ่นปรับโฉมไม่มีความเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน แต่เพิ่ม 3 สีใหม่ให้เลือกคือสีขาว Everest White Pearl สีฟ้า Deep Ocean Blue Pearl และสีทอง Baja Strom รวมไปถึงเกรดสูงสุดของรถจะใช้สีดำเงากับซุ้มล้อ สเกิร์ตข้าง และส่วนล่างของกันชนหน้า-หลัง พร้อมมีล้อขนาด 19 นิ้วลายใหม่
ห้องโดยสารของรถ 2 เกรดสูงสุดมีการเพิ่ม Google Built-in ในระบบ Infotainment ของรถซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีในรถของNissan ทำให้มีแอปพลิเคชันต่างๆ อย่าง Google Map, Google Assistant และ Google Play มาพร้อมกับจอของรถ รวมทั้งข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเจ้าของรถใน Google Account โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์
นอกจากนี้ 2 เกรดสูงสุดของรถรุ่นปรับโฉมยังมีจอ Infotainment ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 12.3 นิ้วและจอแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วเหมือนกัน รวมไปถึงยังคงมาพร้อมกับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple Car Play ไร้สาย ที่ชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย สี่ช่องต่อ USB-C ในขณะที่เกรดต่ำลงมามีจอ Infotainment และจอแสดงข้อมูลผู้ขับแบบดิจิตอลขนาด 8 นิ้ว แต่มาพร้อมกับการเชื่อมต่อทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สายเหมือนกัน
ด้านระบบความปลอดภัยมี Nissan Safety Shield 360 ADAS มาพร้อมกับเกรดพื้นฐาน แต่เกรดสูงขึ้นมาจะมีระบบช่วยขับ Pro Pilot Assist เพิ่ม ขณะที่ 2 เกรดสูงสุดของรถมี Navi-Link เพิ่มเข้ามาอีก นอกจากนี้รถรุ่นปรับโฉมยังมีการใช้วัสดุและการแต่งใหม่
ด้านการขับเคลื่อนของรถไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 305 นิวตัน-เมตร จับคู่กับระบบส่งกำลัง Xtronic CVTเพื่อส่งกำลังสู่ล้อหน้าหรือทุกล้อของรถ สำหรับการส่งรถไปตามดีลเลอร์จะเริ่มในช่วงต้นปี 2024 ขณะที่ราคาของรถจะออกมาในช่วงที่ใกล้ขาย
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th