Nissan ปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ เตรียมปิดโรงงานบางประเทศ ยกไทยเป็นฐานการผลิตของอาเซียน
Nissan ได้ประการแผนการปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาไม่ใช่ข่าวดีสำหรับบางภูมิภาค เพราะผลที่ตามมาคือการปิดโรงงานผลิตซึ่งมีทั้งในยุโรปและเอเชียไม่ไกลจากเมืองไทย พร้อมยกไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาค
แผนการปรับโครงสร้างที่ Nissan ได้ประกาศออกมาโดยมีกรอบเวลา 4 ปีได้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างการปิดโรงงานผลิตในเมืองบาร์เซโลนาประเทศสเปนตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2020 นี้หลังจากที่มีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1983 และปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 2,400 คน รวมทั้งอีก 600 คนในการผลิตที่เกี่ยวข้อง โดยโรงงานในบาร์เซโลนาของ Nissan เป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ซึ่งมีทั้งรถปิกอัพ Navara และรถแวนไฟฟ้า e-NV200 ซึ่งสำหรับรถปิกอัพดูเหมือนว่าทาง Nissan จะย้ายไปผลิตในแอฟริกาใต้แทน ในขณะที่รถแวนไฟฟ้าอาจมีการผลิตที่โรงงานของ Renault ในเมือง Maubeuge ฝรั่งเศส
การปิดโรงงานที่บาร์เซโลนาเป็นเพียงหนึ่งในการตัดสินใจตามแผนงาน 4 ปีที่ทาง Nissan ตั้งเป้าที่จะ “สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน มีการเงินที่มั่นคง และทำกำไรได้ภายในสิ้นปีธุรกิจ 2023” นอกจากนี้ทางผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้ยังแถลงเพิ่มว่า จะมีการกระทำอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนธุรกิจของตนโดยการปรับปรุงการทำงานที่ไม่เกิดกำไรและส่วนที่เกินความจำเป็นไปพร้อมกับการสร้างโครงสร้างใหม่ นอกจากนี้บริษัทจะทำการลดต้นทุนคงที่โดยการทำให้มีศักยภาพการผลิต รุ่นรถยนต์ทั่วโลก และค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ Nissan จะให้ความสำคัญและลงทุนในส่วนธุรกิจที่คาดว่าจะช่วยให้มีการฟื้นตัวและมีการเติบโตอย่างยั่งยืน
เป้าหมายในการปรับโครงสร้างของ Nissan คือทำให้เกิดกำไร 5 เปอร์เซ็นต์ และมีส่วนแบ่งตลาดโลกที่ยั่งยืน 6 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปี 2023 โดยแผนงานจะเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์คือ ความสมเหตุสมผลและเน้นไปที่ตลาดหลักและผลิตภัณฑ์หลักก่อน
นอกเหนือไปจากการปิดโรงงานที่บาร์เซโลนาแล้ว มาตรการสมเหตุสมผลของ Nissan ยังรวมไปถึงการลดกำลังการผลิตลง 20 เปอร์เซ็นต์เหลือจำนวน 5.4 ล้านคันต่อปี ลดรุ่นรถในตลาดโลกลง 20 เปอร์เซ็นต์จาก 69 โมเดลเหลือ 55 โมเดล รวมไปถึงมีการรวมผลิตภัณฑ์ในอเมริกาเหนือให้เป็นผลิตภัณฑ์หลัก
เป้าหมายอื่นในการปรับโครงสร้างของ Nissan คือการลดค้นทุนคงที่ลงประมาณ 2,780 ล้านดอลล่าร์ ด้วยการปิดโรงงานในอินโดนีเซียแล้วให้ความสำคัญกับโรงงานในไทยด้วยการเป็นฐานการผลิตเดียวในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งจะมีการแบ่งปันทรัพยากรร่วมกับกลุ่มพันธมิตร Alliance ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ รุ่นรถ และเทคโนโลยี
ในด้านผลิตภัณฑ์ Nissan จะเน้นรุ่นรถในเซ็กเม้นต์หลักของตลาดโลก ซึ่งรวมไปถึงการเพิ่มรถ C และ D เซ็กเม้นต์ รถไฟฟ้า และรถสปอร์ต โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถจำนวน 12 รุ่นภายใน 18 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้จะมีการขยายรถไฟฟ้าและรถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งรวมถึง e-Power ให้มีการขายรถใช้ไฟฟ้ามากกว่า 1 ล้านคันต่อปีภายในสิ้นปี 2023 ในขณะที่ในบ้านตนเองที่ญี่ปุ่น Nissan จะเปิดตัวรถไฟฟ้ามากกว่า 2 รุ่น และรถ e-Power มากกว่า 4 รุ่น เพื่อเพิ่มอัตราส่วนการขายรถใช้ไฟฟ้าให้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
สิ่งสุดท้ายในแถลงการคือ Nissan จะมีการใส่ระบบช่วยขับ ProPilot ในรถมากกว่า 20 รุ่นใน 20 ตลาด และภายในสิ้นปี 2023 ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ต้องการให้มีรถที่ติดตั้งระบบช่วยขับที่ล้ำหน้าของตนมารถมากกว่า 1.5 ล้านคันในแต่ละปี
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th