แม้ว่ารถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้าของ Nissan ที่ทำตลาดอยู่ในตอนนี้จะเป็นรถขนาดเล็กอย่าง Leaf แต่ Nissan ก็ตัดสินใจที่จะลงสู้ศึกการแข่งขัน ABB FIA Formula E Cjampionship เป็นครั้งแรกในชื่อทีม Nissan e.Adam  เพื่อแสดงถึงมุมมองใหม่ในด้านสมรรถนะของ Nissan Intelligent Mobility ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของ Nissan ต่อการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน การขับ และความมีส่วนร่วมในสังคม โดยเป็นผู้ผลิตจากญี่ปุ่นรายแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ และเพื่อสู้ศึกประลองความเร็วโดยใช้พลังงานไฟฟ้าฤดูกาลใหม่ที่จะเริ่มต้นในเดือนธัรวาคมนี้ทางทีม Nissan e.Adam ก็ได้เซ็นต์สัญญาทั้งนักขับที่มีปรสบการณ์และนักขับหน้าใหม่ผลงานเยี่ยมมาทำหน้าที่หลังพวงมาลัย

นักขับคนแรกของ Nissan e.Adam คือ Sebastien Buemi นักขับชาวสวิสส์วัย 29 ปีที่เคยมีประสบการณ์ในฟอร์มูล่าอีมาแล้วสี่ฤดูกาลในฐานะนับขับของทีม e.Adam ซึ่งเป็นหุ้นส่วนในการแข่งขันของ Nissan โดย Buemi จะเปิดตัวในสีเสื้อของ Nissan เป็นครั้งแรกกับรถแข่งฟอมูล่าอีเจน 2 ใหม่ของทีมในช่วงการขับทดสอบเดือนตุลาคมที่เมืองบาเลนเซียประเทศสเปน สำหรับผลงานสำคัญที่ผ่านมาของนักขับชาวสวิสส์ในฟอร์มูล่าอีคือการเป็นแชมป์ในฤดูกาล 2015/2016 ซึ่งเต็มไปด้วยการสร้างสถิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถิติชนะสูงสุด, ออกสตาร์ตด้วยตำแหน่ง Pole Position สูงสุด, ทำความเร็วต่อรอบสูงสุด, ได้รับชัยชนะติดต่อกันสูงสุดในฤดูกาล, ได้รับคะแนนสูงสุดต่อเนื่อง, เป็นผู้นำต่อรอบและผู้นำการแข่งขันสูงสุด

Buemi ได้พูดถึงการร่วมงานกับ Nissan เพื่อสู้ศึกความเร็วฟอร์มูล่าอีว่า “ฤดูกาลที่ห้าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับผมในหลายๆ ด้าน เพราะมีสิ่งใหม่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นรถ รูปแบบการแข่งขัน สนาม ผมมองไปข้างหน้าถึงการร่วมงานอย่างต่อเนื่องกับ e.Adam และการนำความเป็นผู้นำเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่น่าตื่นเต้นของ Nissan มาสู่แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก”

สำหรับนักขับอีกคนในทีม Nissan e.Adam คือ Alex Albon ชาวอังกฤษซึ่งได้เข้าร่วมกับทีมจากผลงานที่น่าประทับใจทั้งใน International Junior Single-Seater, จบการแข่งขันอันดับสองใน 2016 GP2 Series และล่าสุดคือมีคะแนนอยู่ในอันดับสามของการแข่งขัน FIA Formula 2 ปีนี้ด้วยชัยชนะสามครั้ง ซึ่ง Albon บอกว่า “จากระดับการแข่งขันมีความเข้มข้นผมจึงมองถึงการทดสอบตัวเองกับส่วนหนึ่งของนักขับที่ดีที่สุดในโลก การแข่งขันด้วยพลังงานไฟฟ้าบนถนนเป็นความท้าทายใหม่สำหรับผม แต่การร่วมงานกับ Sebastien ในฐานะเพื่อนร่วมทีมช่วยได้อย่างมาก ในเมื่อเขาได้ตั้งมาตรฐานสำหรับการแข่งขันไว้”

ในส่วนของผู้อำนวยการ Global Motorsports ของ Nissan Michael Carcamo ได้พูดถึงการแข่งขันที่จะมาถึงว่า “สถิติที่น่าประทับใจของ Sebastien ในฟอร์มูล่าอีได้บอกถึงตัวมันเองอยู่แล้ว และการจับคู่เขากับดาวรุ่งอย่าง Alex ก็เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยม เราไม่คิดว่าจะมีทีมที่ดีกว่านี้ในการแสดงเทคโนโลยีใหม่ๆ และวิสัยทัศน์ Nissan Intelligent Mobility ของเรา”

สำหรับการแข่งขันฟอร์มูล่าอีฤดูกาล 2018/2019 จะเริ่มสนามแรกกลางเดือนธันวาคม 2018 ที่ริยาดห์ ซาอุดิอาระเบีย

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th