OBD คืออะไร ใส่แล้วรถแรงจริงหรือ
มาทำความรู้จักกับ OBD กันก่อนดีกว่าครับ OBD ย่อมาจากคำว่า On-board Diagnostic เป็นมาตรฐานที่กำหนดขี้นร่วมกันโดย SAE และ ISO ซึ่งกำหนดมาตรฐานวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอล ระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ พูดง่าย ๆ ก็คือ OBD นั้นมีหน้าที่ไว้เพียงรับ-ส่งข้อมูลเพื่อการตรวจสอบค่าต่าง ๆ การทำงานภายในของเครื่องยนต์ ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาจาก OBD I มาเป็น OBD II กันแล้ว
หน้าที่ของพอร์ต OBD II
เป็นตัวบอกค่าต่างๆ และข้อมูลเบื้องต้นว่ารถของคุณผิดปกติที่ส่วนไหน ซึ่งพอร์ตนี้จะเชื่อมกับไฟเครื่องยนต์ที่แผงไฟหน้าปัด หากมีความปกติเกิดขึ้นก็จะทำให้ไฟเครื่องยนต์นั้นสว่างขึ้น และพอร์ตนี้ยังช่วยให้เราสามารถนำค่าต่างๆ ที่รถเก็บไว้มาช่วยวิเคราะห์สภาพของรถได้ ประโยชน์ของพอร์ตนี้แบ่งเป็น 3 ข้อใหญ่ๆ คือ
- ตรวจจับพฤติกรรมการขับรถ ความเร็ว การทำงานของเครื่องยนต์ อุณหภูมิของน้ำ ติดตามการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ หรือดูว่าชิ้นส่วนใดหลวมไวกว่าชิ้นส่วนอื่นๆ หรือไม่ โดย OBD II จะอ่านค่าที่บันทึกไว้ใน ECU (Electronic Control Unit) กล่องเครื่อง หรือ กล่องcomputer
- วิเคราะห์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้คุณป้องกันปัญหาได้ แทนที่จะต้องมาแก้ทีหลัง
- ตรวจการทำงานแต่ละช่วงเวลา ซึ่งข้อมูลที่ได้นี้ส่วนใหญ่จะเอาไปใช้ในการปรับแต่งการทำงานของเครื่องยนต์
ปลั๊ก OBD ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ จะถูกติดตั้งมาในรถยนต์ทุกรุ่นอยู่แล้วส่วนมากก็จะอยู่ที่ใต้คอพวงมาลัย โดยทั่วไปแล้ว การปรับแต่งอ่านค่าหรือแก้ไขโค้ดต่าง ๆ จะต้องเชื่อมต่อไปสู่คอมพิวเตอร์หรือตัวอ่านค่าโดยเฉพาะที่สามารถอ่านค่าและปรับแต่ง รถยนต์รุ่นนั้น ๆ ได้ โดยมากจะเป็นศูนย์บริการ ที่มีเครื่องมือเหล่านี้ เพราะว่าเครื่องมือเหล่าต้องถูกใช้โดยช่างที่ชำนาญและเครื่องมือเหล่านี้ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย
ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับOBD
ปัจจุบัน มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ ปลั๊ก OBD อันละไม่กี่ร้อยบาท สำหรับมาเสียบที่ช่อง OBD โดยมีความเชื่อว่า จะทำให้รถแรงขึ้น สามารถปรับแต่งรถได้ เพิ่มแรงม้าหรือแก้ไขข้อมูลผ่านช่องปลั๊ก OBD ได้เลย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แค่การเสียบผลิตภัณฑ์ที่ว่าค้างเอาไว้ที่ช่องเทียบ OBD ไม่ได้ช่วยให้รถแรงขึ้นมาเลย เพราะว่าช่อง OBD เป็นแค่ช่องทางเชื่อมต่อข้อมูลและการแสดงผลเท่านั้น การอ่านค่าต่าง ๆ ก็ต้องมีเครื่องอ่านหรือคอมพิวเตอร์ที่สามารถอ่านค่าต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะ ซึ่งการปรับแต่งที่ทำให้เครื่องยนต์แรงขึ้นนั้น ก็ไม่เกี่ยวข้องกับ OBD อยู่แล้ว ซึ่งหากต้องการปรับแต่งกันจริง ๆ จะต้องไปทำการปรับแต่งที่กล่อง ECU เท่านั้น ดังนั้นอย่าไปหลงเชื่อกันนะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th