Opel ปั้น Corsa-e เป็นรถแข่งแรลลีไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก

อีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าได้ดีคือการทำให้เห็นว่ารถยนต์รุ่นนั้นมีสมรรถนะในระดับที่สามารถใช้ในการแข่งมอเตอร์สปอร์ตได้ ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีอย่าง Opel ที่เพิ่งเปิดตัวรถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าขนาดเล็ก Corsa-e ออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จึงเลือกที่จะใช้วิธีนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่ารถไฟฟ้าของตนทำได้มากการขับไปมาในเมืองหรือบนถนทั่วไป ด้วยการนำเอา Corsa-e มาทำเป็นรถแข่งแรลลีไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกโดยจะมีการเปิดตัวในแฟรงก์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์ต้นเดือนหน้านี้

ทาง Opel ทำรถแข่งแรลลี Corsa-e ซึ่งใช้พื้นฐานจาก Corsa-e ทั่วไปไม่ได้เพียงแค่ออกมาโชว์เท่านั้น แต่จะใช้รถแข่งแรลลีไฟฟ้าของตนในการแข่งขัน ADAC Opel e-Rally Cup ปี 2020 ด้วยโดยจะมาแทนที่รถแข่ง Adam R2 ซึ่งรถแข่งแรลลี Corsa-e จะยังคงมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 136 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี 50 kWh ที่ใช้เดินทางได้ 330 กิโลเมตร แต่มีการเปลี่ยนสเปกบางด้านของรถเพื่อให้เหมาะกับการแข่งแรลลีอย่างการใช้เฟืองท้าย Torsen Limited-slip Differential ใช้ช่วงล่างสำหรับรถแข่งแรลลี ใช้คาลิเปอร์เบรก 4 ลูกสูบกับดิสก์เบรกแบบเซาะร่องขนาด 332 มม. ที่ล้อหน้า และขนาด 246 มม. ที่ล้อหลังเพื่อหยุดรถ ปิดการทำงาน ABS, ESP และ Traction Control รวมไปถึงมีการแสดงข้อมูลสำหรับมอเตอร์สปอร์ตพร้อม Data-Logger[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]

การแข่งแรลลีรายการ ADAC Opel Rally Cup ได้เริ่มต้นจัดมาตั้งแต่ปี 2013 ในเยอรมนีโดยใช้รถแรลลี Opel Adam สำหรับนักแข่งหน้าใหม่ ส่วนการแข่งขันในปี 2020 ซึ่งจะใช้ Corsa-e จะเริ่มในฤดูร้อนปีหน้า โดยรอบแรกจะจัดเป็นการแข่งขันพิเศษในรายการ German Rally Championship แล้วตามด้วยรายการอื่นๆ ที่ถูกเลือก ทาง Opel วางแผนที่จะทำ Corsa-e Rally ออกมา 15 คันสำหรับ ADAC Opel Rally Cup 2020/2021 ซึ่งจะขายในราคาไม่ถึง 50,000 ยูโร

ทาง Michael Lohscheller ซีอีโอของ Opel ได้พูดถึงรถแข่งแรลลีไฟฟ้าของตนว่า “Corsa-e เป็นรถไฟฟ้าสำหรับทุกคน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในราคาที่จับต้องได้ เหมือนกับที่สามารถปรับเพื่อใช้ในมอเตอร์สปอร์ตได้ Corsa ใหม่ยังให้ความสนุกในการขับและมีพลัง การใช้รถจากสายการผลิตเป็นพื้นฐานทำให้เราเป็นผู้ผลิตรถรายแรกในโลกที่ได้พัฒนารถแข่งแรลลีไฟฟ้า”