BMW เปิดตัว M3 และ M4 ลุยตลาดรถสมรรถนะสูงทั้งซีดานและคูเป้
BMW เปิดตัวรถสมรรถนะสูงของตนออกมาพร้อมกันทั้ง M3 ซีดานและ M4 คูเป้เรียกได้ว่าไม่ว่าจะชอบความแรงในแบบ 4 หรือ 2 ประตูก็เลือกได้เลยไม่ต้องรอ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีความแตกต่างกันที่กระจังหน้าเหมือน 3 Series และ 4 Series เพราะทั้ง M3 และ M4 ใหม่มากับกระจังหน้าขนาดใหญ่ในสไตล์เดียวกับ 4 Series เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น รวมทั้งยังมีรุ่นเพิ่มความแรง Competition มาให้เลือก
ทั้ง BMW M3 และ M4 มาพร้อมกับขุมกำลัง 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังขับเคลื่อน 480 แรงม้าที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตรที่ 2,650-6,130 รอบ/นาที ทั้งตัวถัง 4 ประตูและ 2 ประตูใช้เวลา 4.2 วินาทีในการทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. เท่ากัน ในขณะที่ M3 Competition และ M4 Competition ถูกเพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 510 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ใช้เวลา 3.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนการทำความเร็วสูงสุดของทุกรุ่นถูกจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. เหมือนกัน ก็หากมาพร้อมกับสเปก M Driver’s Package ความเร็วสูงสุดจะเพิ่มไปเป็น 290 กม./ชม.
ในด้านการส่งกำลังทั้ง M3 และ M4 มาตรฐานใช้เกียร์แมนนวล 6 สปีดส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อหลัง ซึ่งไม่เพียงทำให้ผู้ขับมีส่วนร่วมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังลดร้ำหนักลงจากการใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดได้ถึง 25 กิโลกรัม รวมไปถึงช่วยในการกระจายน้ำหนักของรถให้ดีขึ้น โดยที่มี Gear Shift Assistant ช่วยควบคุมความเร็วในขณะลดเกียร์หรือเบรกเมื่อเข้าโค้ง ในขณะที่รุ่น Competition ของทั้ง M3 และ M4 ใช้เกียร์ M Steptronic 8 สปีดในการนำกำลังสู่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive โดยที่นอกจากการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติแล้วยังให้ความเร้าใจในการขับด้วยการเปลี่ยนเกียร์เองได้
นอกจากการขับเคลื่อนด้วยล้อหลังแล้วทั้ง M3 และ M4 จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive พร้อมเฟืองท้ายหลัง Active M Differential มาเป็นทางเลือกตั้งแต่ช่วงกลางปีหน้า โดยมี 3 โหมดมาให้เลือกคือโหมด 4WD สำหรับการขับเคลื่อน 4 ล้อตามปกติ โหมด 4WD Sport ที่จะเน้นส่งแรงบิดสู่ล้อหลังมากขึ้น โดยเป็นโหมดที่ออกแบบมาสำหรับการขับในสนามแข่ง และโหมด 2WD ที่สามารถปิดการทำงานควบคุมการทรงตัวของรถได้ เพื่อประสบการณ์การขับด้วยล้อหลังอย่างแท้จริง
เพื่อรองรับกำลังของเครื่องยนต์ ทั้ง M3 และ M4 จึงมีช่วงล่าง Adaptive M เป็นมาตรฐาน พร้อมด้วย M-Specific Double-joint Spring Strut ที่ด้านหน้า ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบ 5-Link พร้อมการออกแบบปีกนกใหม่เพื่อให้การควบคุมที่แม่นยำตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับ ในส่วนของการหยุดรถใช้คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบ พร้อมดิสก์เบรกขนาด 380 มม. ที่ล้อหน้า และคาลิกเปอร์ลูกสูบเดียวกับดิสก์เบรกขนาด 370 มม. ที่ล้อหลัง ในขณะที่ล้ออัลลอยฟอร์จมาตรฐานที่มากับรถมีขนาด 18 นิ้วที่ล้อหน้าและ 19 นิ้วที่ล้อหลัง
ภายในห้องโดยสาร M3 และ M4 มาพร้อมกับพวงมาลัยสปอร์ต แต่รุ่น Competition จะมีแป้นชิฟต์เกียร์เพิ่มเข้ามา โดยมีอลูมิเนียม Tretagon เป็นวัสดุมาตรฐานที่ก้านพวงมาลัย แต่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ได้ ส่วนเบาะสปอร์ตมาตรฐานของรถหุ้มด้วยหนัง Merino เนื้อละเอียด โดยที่มีเบาะ M Carbon บักเก็ตซีตเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งช่วยลดน้ำหนักลง 9.5 กิโลกรัม ในส่วนของเรือนไมล์ดิจิตอลเป็นจอขนาด 12.3 นิ้ว ขณะที่จอระบบ Infotainment มีขนาด 10.25 นิ้ว โดยมาพร้อมกับ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย
สำหรับการขาย BMW M3 และ M4 รุ่นมาตรฐานจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมปีหน้า ในขณะที่ 2 รุ่น Competition จะเริ่มขายตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนหรือประมาณกลางปีหน้าพร้อมกับการมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive ออกมาเป็นทางเลือกใน M3 และ M4 รุ่นปกติ ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมา
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th