ปอร์เช่ ประเทศไทย ประเดิมปี 2018 ด้วยการเชิญสื่อมวลชนมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับ Porsche Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo รถยนต์ซาลูน 4 ประตูรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมกำลัง Plug-in Hybrid ที่มีพลังสูงสุด 462 แรงม้า และทำความเร็วสูงสุด 275 กิโลเมตร/ชั่วโมง

งานทดสอบ “Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo Driving Experience 2018” จัดขึ้นที่สนามปทุมธานี สปีดเวย์ โดยแบ่งเป็น 3 สถานี เพื่อให้สัมผัสสมรรถนะการขับที่ยอดเยี่ยมของรถซาลูนคันนี้ หลังจากเคยได้ลองขับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เมื่อกลางปีที่แล้ว

เริ่มต้นด้วยการทดสอบที่สถานี Braking แต่ความจริงเป็นเหมือนการวอร์มอัพให้ลองอัตราเร่งจากการที่เจ้าหน้าที่อินสตรักเตอร์ที่คอยแนะนำบอกให้กดคันเร่งเต็มที่ และเบรกในตำแหน่งที่กำหนดเพื่อให้ระบบ ABS ทำงาน พร้อมแนะนำให้หักพวงมาลัยตามที่สายตาของเรามองไปหรือ “Where you look is where your drive” และจากที่ได้ลองของจริงสัมผัสความมั่นใจของระบบเบรกมาตรฐานจาก Porsche ที่มอบความปลอดภัยในทุกสถานการณ์ได้จริงๆ

ด้วยพลังขับเคลื่อนแบบผสมระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน Twin-turbocharged V6 3.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาแค่ 4.6 วินาที โดยมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถรีดพลังได้สูงสุด 136 แรงม้า และแรงบิดสูงกว่า 400 นิวตันเมตร ทำให้หากรวมทั้ง 2 ระบบ รถซาลูนคันนี้จะมีกำลัง 462 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ระยะการวิ่งช่วงสั้นๆ ในสถานีแรก เราถึงกับหลังติดเบาะทันทีที่กดคันเร่งลงไป

10 เหตุผลที่ควรซื้อรถจากผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

1. มั่นใจว่าได้รับรถยนต์ Porsche ใหม่จากผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการแน่นอน

2. การรับประกันจากโรงงาน Porsche สูงสุดนาน 9 ปีหรือ 200,000 กม.

3. บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. สูงสุด 9 ปี

4. บริการแจ้งเรียกรถยนต์เพื่อเข้ารับบริการตรวจสอบ และเปลี่ยนชิ้นส่วน

5. วิศวกรได้รับการรับรอง และทดสอบตามมาตรฐานจาก Porsche ประเทศเยอรมนี

6. อะไหล่รถยนต์ Porsche ของแท้ 100% พร้อมรับประกันคุณภาพอะไหล่ 2 ปี

7. รถรุ่นใหม่สามารถเลือกอุปกรณ์เสริม (Personalisation) ได้ตามความต้องการ

8. รถยนต์ทุกคันได้รับการผลิตขึ้นให้เหมาะสมตามข้อกำหนดของประเทศไทย

9. โชว์รูม และศูนย์บริการรถยนต์ที่ผ่านการรับรองจากโรงงาน Porsche ประเทศเยอรมนี

10. ซื้อขายแลกเปลี่ยนรถยนต์ Porsche ด้วยราคาที่เหมาะสม

เข้าสู่สถานี Handling เพื่อเรียนรู้การควบคุม Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ที่มีการทรงตัว และการตอบสนองของพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งทดสอบการตั้งค่า Porsche Active Suspension Management (PASM) เพื่อเข้าใจความแตกต่างของช่วงล่างที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์ของผู้ขับขี่ รวมทั้งการเลือกโหมดการขับ “Normal”, “Sport” และ “Sport Plus”

ก่อนจะจบด้วยการทดสอบความแม่นยำรวดเร็วของช่วงล่างในสถานี Slalom โดยระบบอัจฉริยะต่างๆ ที่อยู่ใน Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Dynamic Chassis Control Sport (PDCC Sport), ระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง Rear Axle Steering หรือระบบควบคุมตัวถัง Porsche 4D Chassis Control ช่วยให้การขับแบบผาดโผนในช่วงสุดท้ายผ่านไปอย่างง่ายดายแทบจะเหมือนกับเวลาได้ลองรุ่นสปอร์ตของพวกเขาเลย

นอกจากนี้ Panamera 4 E-Hybrid Sport Turismo ให้ความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยการออกแบบที่หรูหรา และล้ำสมัยด้วยรูปแบบที่นั่ง 4+1 โดดเด่นด้วยฝากระโปรงท้ายขนาดใหญ่ ปริมาตรความจุ 520 ลิตร และพนักพิงหลังบริเวณห้องโดยสารตอนท้ายสามารถพับเก็บ เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้เป็น 1,390 ลิตร พลังงาน การขับเคลื่อนสูงสุดถึง 462 แรงม้า และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 40 กิโลเมตร/ลิตร โดยราคาเริ่มต้นที่ 9.5 ล้านบาท

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: AAS Auto Service

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th