Panigale V4 รุ่นใหม่ล่าสุด เริ่มต้น 1.19 ล้านบาท

Panigale V4 รุ่นใหม่ล่าสุด เริ่มต้น 1.19 ล้านบาท เทคโนโลยีความปลอดภัยที่มีมาให้ครบ และ คุ้มค่าสำหรับไบค์เกอร์สายสปอร์ต

การออกแบบครั้งนี้มาใน คอนเซ็ปต์ Beauty meets function หรือ ความงามที่มาพร้อมฟังก์ชั่น สรรสร้างรูปทรงที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยอ้างอิงจาก Ducati 916 ที่ถือเป็นรุ่นไอคอนิค ของ Ducati

การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale เครื่องยนต์ V4 90° เป็นเครื่องยนต์เพียงรุ่นเดียวที่มี ระบบ Desmodromic Counter-rotating crankshaft และ Twin pulse firing order ทำให้การขับขี่ และ การทรงตัวทำได้ดีเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทาง

พร้อมระบบไทม์มิ่งวาล์ว Desmodromic เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่ง MotoGP ใช้กระบอกสูบขนาด 81 มม. การออกแบบใหม่นั้น นักออกแบบยังทำงานร่วมกับช่างเทคนิคด้านอากาศพลศาสตร์ของ Ducati Corse และวิศวกรด้านยานยนต์ R&D อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างรูปทรงทีดูดี สะอาดตาและทรงพลัง

นอกเหนือไปจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาจากสนามแข่งระดับโลกอย่าง MotoGP แล้ว ยังเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับมาตรฐาน EURO5+ และยังสามารถคงเอกลักษณ์การวางท่อไว้ใต้เครื่องโดยรักษาการขับขี่อันทรงประสิทธิภาพไว้ได้เช่นเดิม เพิ่มตัวเก็บเสียงแบบช่องทางออกคู่ใหม่ทั้งหมด ในส่วนของการระบายความร้อนได้มีการพัฒนาให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น 12%

มาพร้อมสวิงอาร์มแบบใหม่ Hollow Symmetrical Swingarm ถูกออกแบบโดยวิศวกรผู้ออกแบบ และ ทีม Ducati Corse เพื่อหารูปทรงเรขาคณิตที่สวยงาม ผสานเข้ากับ Panigale V4 ใหม่ได้อย่างลงตัว สวิงอาร์มสมมาตรแบบใหม่มาพร้อมกับตัวปรับความตึงโซ่ Monolithic tension แบบชิ้นเดียว เช่นเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขัน MotoGP

เฟรมหน้ามีเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale เป็นองค์ประกอบโครงสร้าง โดยที่ “เฟรมหน้า” เชื่อมต่อกับเครื่องยนต์โดยตรงทำให้เฟรมหน้ามีความแข็งแกร่งมากเมื่อขับขี่ และ มีน้ำหนักที่เบาลง 0.73 กิโลกรัม ซับเฟรมด้านท้ายใหม่ทำด้วยอลูมิเนียมหล่อสองชิ้นที่โอบรับส่วนใต้เบาะของถังไว้ ระบบ linkage กันสะเทือนหลังแบบใหม่ ซึ่งติดเข้ากับเครื่องยนต์โดยตรงผ่านคอนเนคเตอร์อลูมิเนียมหล่อแบบชิ้นเดียว ทำให้ลดน้ำหนักรวมของระบบกันสะเทือนด้านหลัง – 0.6 กก. และสามารถติดตั้งระบบกันสะเทือนบนลูกปืนเข็มแทนที่จะเป็นบูชแบบเดิมได้

สำหรับที่นั่งผู้ขับขี่นั้นถูกปรับปรุงเบาะให้ขยายออกด้านข้าง 50มม. และ มีความยาวเพิ่มขึ้น 35มม. ตำแหน่งพักเท้ายังมีการออกแบบให้ชิดเข้าด้านในตัวรถมากขึ้นกว่ารุ่นปัจจุบัน 10มม. มาพร้อมกับล้ออลูมิเนียมหล่อก้านรูปตัว Y แบบ 5 ก้าน และ V4S เป็นล้อฟอร์จอลูมิเนียมนํ้าหนักเบาแบบใหม่ที่มีดีไซน์ก้าน 5 ก้านเบากว่าถึง 2.17 กิโลกรัม

ยางสลิก Pirelli ขนาด 125/70 ล้อหน้า และ 200/65 ล้อหลัง ระบบกันสะเทือนใหม่เฉพาะ กับช็อคอับหน้า Öhlins NPX 25/30 (SV) S-EC และ ช็อคอับหลัง Öhlins TTX36 (SV) S-EC 3.0 ระบบช็อคอับ Öhlins ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่มาพร้อมกับ “วาล์วแกนหมุน” (SV)

เบรก Brembo Hypure® กระบอกสูบหลัก PR 17/19 แบบเรเดียลใหม่ คาลิเปอร์มีขนาดกะทัดรัดขึ้น เบากว่าเดิม 60 กรัม คาลิเปอร์มีการปรับปรุงการระบายอากาศภายใน เพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อน (+ 4%) คาลิเปอร์ใช้กระบอกสูบแบบเรเดียลใหม่ลูกสูบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 มม. และระยะห่าง 19 มม.

โหมดการขับขี่ทั้งหมด 5 โหมด ได้แก่ Race A, Race B, Sport, Road, Wet และมีระบบควบคุมการขับขี่มีให้ทั้งหมด 6 โหมด โดยใช้อัลกอริทึม Ducati Vehicle Observer (DVO) จาก Ducati Corse

อุปกรณ์เสริมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายที่ไม่เคยมีมาก่อนสําหรับรถซุปเปอร์ไบค์

Cruise control ช่วยให้การเดินทางไปยังสนามแข่งผ่อนคลายมากขึ้น และยังช่วยให้ปฏิบัติตามขีดจํากัดความเร็วได้ Cruise control นี้ใช้ได้เฉพาะในโหมด Info Mode Road เท่านั้น
ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) – TPMSจะแจ้งเตือนความดันลมยางที่ลดลงโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ TPMS ซึ่งมีความแม่นยําเท่ากับนาโนมิเตอร์ ยังช่วยให้ตรวจสอบความดันลมยางขณะขับขี่ในแต่ละรอบได้อีกด้วย
Turn by Turn navigator – ทิศทางการเดินทางจะแสดงในรูปแบบคําแนะนําด้วยเสียงหรือคําแนะนําแบบภาพบนแผงหน้าปัด ต้องใช้ DMS และแอปเฉพาะ ใช้งานได้กับ Info Mode Road เท่านั้น
พอร์ต USB – ติดตั้งไว้ในส่วนของการออกแบบบริเวณแฟริ่งด้านหน้า ช่วยให้สามารถชาร์จโทรศัพท์และชาร์จไฟไว้ระหว่างใช้งาน