Peugeot ได้เผยโฉมใหม่ของ 308 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ออกมา โดยจะเริ่มขายที่ยุโรปรวมไปถึงตลาดอื่นๆ ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งรถคอมแพกต์แฮทช์แบ็กเจนเนเรชั่นใหม่ไม่เพียงมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สปอร์ตขึ้น แต่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี พร้อมกับมี 2 ทางเลือกในแบบปลั๊กอินไฮบริดให้เลือก

Peugeot 308 เจนเนอเรชั่นที่ 3 อยู่บนแพลตฟอร์ม EMP2 ของ Stellantis ซึ่งส่งผลให้รถมีระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นจากเจนเนอเรชั่นที่แล้ว 55 มม. พร้อมกับถูกออกแบบเพื่อลดความสูงลงจากรุ่นก่อนหน้า 20 มม. เพื่อให้มีรูปทรงที่สปอร์ตมากขึ้น โดยที่ด้านหน้าของรถนอกจากมีไฟหน้า LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมกับไฟ Daytime Running Light แนวตั้งแล้ว ยังมาพร้อมกับโลโก้ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดยที่หากเป็นเกรดสูงขึ้นไฟหน้าจะเป็นเทคโนโลยี Matrix LED ในขณะที่ด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้ายซิกเนเจอร์ 3 Claw ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยทางผู้ผลิตรถยนต์จากฝรั่งเศสมีสีภายนอกสำหรับ 308 ใหม่ให้เลือก 7 สีทั้งสีเขียว เทา ดำ ฟ้า แดง และ 2 โทนสีขาว

ภายในห้องโดยสารของ 308 มากับการออกแบบ i-Cockpit ของ Peugeot โดยที่มีจอขนาด 10 นิ้วสำหรับการแสดงข้อมูลดิจิตอลแก่ผู้ขับ และหากเป็นเกรด GT จะเป็นการแสดงข้อมูล 3 มิติ ขณะที่จอระบบ Infotainment มีขนาด 10 นิ้วเหมือนกัน พร้อมกับมี i-toggle สำหรับการควบคุมอยู่ใกล้กับจอ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบช่องระบบปรับอากาศแตกต่างจากรุ่นที่แล้ว

อย่างไรก็ตามจุดเด่นในห้องโดยสารของ 308 ใหม่คือการที่ Peugeot ใช้ซอฟต์แวร์ i-Connect ของระบบ Infotainment ใหม่ ซึ่งทำให้กำหนดและเลือกโปรไฟล์ผู้ขับได้แตกต่างกัน 8 โปรไฟล์ รวมไปถึงมีฟังก์ชั่น Screen Mirroring ไร้สาย

ด้านขุมกำลังในคอมแพกต์แฮทช์แบ็กเจนเนอเรชั่นใหม่ของ Peugeot มี 2 รุ่นปลั๊กอินไฮบริดให้เลือก โดยรุ่นพื้นฐานคือ Hybrid 180e-EAT8 ใช้เครื่องยนต์ 150 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 81 kW สามารถเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าได้ 60 กิโลเมตร ส่วนรุ่นสูงขึ้น Hybrid 225 e-EAT8 ใช้เครื่องยนต์ 180 แรงม้ากับมอเตอร์ที่มีกำลัง 81 kW เหมือนเดิม ส่วนระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าลดลงเหลือ 58 กิโลเมตร โดยแบตเตอรีของทั้ง 2 รุ่นปลั๊กอินไฮบริดมีความจุ 12.4 kWh เท่ากัน ส่วนรุ่นที่ไม่ใช้ไฮบริด Peugeot ก็มีเครื่องยนต์เบนซิน PureTech 130 1.2 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล BlueHD 130 1.5 ลิตรให้เลือก

308 เจนเนอเรชั่นที่ 3 มาพร้อมกับระบบช่วยขับและระบบความปลอดภัย Drive Assist Pack สำหรับความสะดวกในการควบคุมความเร็วของรถ โดยมีทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอแดปทีฟพร้อม Stop and Go, ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน, ระบบช่วยปลี่ยนเลนกึ่งอัตโนมัติ, ระบบให้คำแนะนำเรื่องความเร็ว และระบบปรับความเร็วตามความโค้งของถนน นอกจากนี้ยังมีการทำงานอื่นๆ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานหรืออุปกรณ์เสริมอย่างระบบตรวจจับมุมบอด ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านด้านข้างขณะถอย กล้องมองภาพ 180 องศาพร้อมระบบทำความสะอาดในตัวขณะถอยหลัง ระบบมองภาพรอบคัน 360 องศาเพื่อช่วยในการจอดรถ ระบบปรับความอุ่นที่กระจกหน้าและพวงมาลัย รวมไปถึงฟังก์ชั่นติดต่อฉุกเฉิน

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th