Polestar 2 ที่อยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปี 2019 โดยได้รับการปรับโฉมไปเมื่อปี 2023 ได้รับการอัปเดตเพิ่มเทคโนโลยีในห้องโดยสารของรถ ทำให้รถไฟฟ้าลิฟต์แบ็กรุ่นใหม่มากับหน่วยประมวลผลใหม่สำหรับระบบ Infotainment พร้อมมีออปชันระบบเสียงที่ให้ความรื่นรมย์มากขึ้นขณะเดินทาง และยังขยายออปชันแต่งรถตามความต้องการมากขึ้น

แม้จะเน้นการอัปเดตในห้องโดยสาร แต่ภายนอกของ Polestar 2 ใหม่ก็มีสีใหม่ที่เรียกว่า Dune ให้เลือก โดยถูกระบุว่าเป็นสีที่มีความโดดเด่นจากเม็ดสีที่มีความราบเรียบมากขึ้น นอกจากนี้ออปชัน Performance Pack ยังได้รับการอัปเดตล้อฟอร์จอัลลอยขนาด 20 นิ้วเป็นลาย 5 ก้านใหม่

ห้องโดยสารของรถมีความทันสมัยมากขึ้นด้วยการใช้ชิป Qualcomm Snapdragon ทำให้มีพลังในการประมวลผลใกล้เคียงกับรถรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์มากขึ้น ส่งผลให้ดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น มีการตอบสนองที่ดีขึ้น รวมทั้งระบบ Infotainment มีประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีออปชันระบบเสียง Bowers & Wilkins ลำโพง 14 ตำแหน่ง กำลังเสียง 1,350 วัตต์ให้เลือก ในขณะที่ออปชัน Plus Pack มีวัสดุหุ้ม MicroTech สีชาโคลเพิ่มเข้ามา พร้อมมีการแต่งด้วยไม้ Black Ash นอกจากนี้ยังมีออปชัน Prime Pack เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะประกอบด้วยแพกเก็จต่างๆ ทั้ง Pilot, Plus และ Climate รวมทั้งมีกระจกหน้าต่าง Privacy Glass ที่เบาะหลังและกระจกหลัง

ในด้านระบบขับเคลื่อนของรถไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่จะมีการใช้แบตเตอรี 70 kWh จาก CATL ที่เริ่มใช้แทนแบตเตอรี 69 kWh จาก LG Chem ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วในตลาดต่างๆ ที่ขายรถรุ่นนี้มากขึ้น ส่งผลให้รถรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวมีระยะเดินทางเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 339 กิโลเมตรเป็น 344 กิโลเมตร

รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ซึ่งเป็นรุ่นปี 2026 เริ่มขายแล้วที่ยุโรป ส่วนตลาดอื่นจะเริ่มขายปลายปี 2025 นี้

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th