Polestar เปิดตัว Polester 2 Arctic Circle รถคอนเซ็ปต์ที่ทำออกมาโดยเฉพาะพร้อมกับการปรับเพิ่มกำลังขับเคลื่อนมากขึ้นและอัพเกรดแชสซีส์สำหรับการแข่งแรลลีเพื่อให้รถไปได้เร็วขึ้นสำหรับการแข่งขันบนพื้นถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็ง

Polestar 2 Arctic Circle ที่ทำออกมาพิเศษเพียงคันเดียวจาก Polestar ซึ่งใช้พื้นฐานจาก Polestar 2 Long Range Dual Motor ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดพร้อมกับเพิ่มออฟชั่น Performance Pack ได้รับการปรับในส่วนของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเพื่อเพิ่มกำลังขับเคลื่อนขึ้นเล็กน้อยทำให้มีกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 476 แรงม้าจากเดิมที่รถจากโรงงานมีกำลัง 473 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงสุดของรถยังคงเดิมที่ 680 นิวตัน-เมตร เช่นเดียวกับที่แบตเตอรีในรถยังคงมีความจุ 78 kWh ไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้การเปลี่ยนจากรถซีดานไฟฟ้าเป็นตัวประลองความเร็วบนพื้นหิมะยังมีในส่วนของล้อที่ใช้ล้อแรลลี OZ Racing ขนาด 19 นิ้วสีขาว พร้อมกับใช้ยางวินเทอร์ไทร์ขนาด 245/35 R19 ที่ทำมาโดยเฉพาะมีหนามโลหะขนาด 4 มม. จำนวน 490 หนามในแต่ละล้อของรถเพื่อช่วยในการยึดเกาะพื้นถนน รวมไปถึงมีการปรับในช่วงล่างของรถอย่างการใช้สปริงที่อ่อนลง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรถมาตรฐานและใช้โช๊กเพอร์ฟอร์แมนซ์ Ohlins ปรับได้ 3 ทิศทาง รวมไปถึงเพิ่มความสูงของรถขึ้นอีก 30 มม.

การปรับแต่งรถคอนเซ็ปต์ลุยพื้นหิมะของ Polestar ยังรวมไปถึงเพิ่มสตรัตบาร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ทนต่อการบิดตัวมากขึ้น และมีการตอบสนองต่อการควบคุมดีขึ้น ในขณะที่การหยุดรถยังคงเป็นหน้าที่ของเบรก Brembo พร้อมคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบเหมือนรถมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม Polestar 2 Arctic Circle มาพร้อมกับระบบ Launch Control ใหม่ พร้อมมีแป้นชิฟต์ที่พวงมาลัย

ในส่วนภายนอกของรถที่เป็นสีเทาด้านมีการเพิ่มไฟ Stedi Quad Pro LED 4 ดวงที่ด้านหน้า ติดแผ่นกันกระแทกคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อป้องกันใต้ท้องรถ และมีขอเกี่ยวสีทองสำหรับการลากจูงซึ่งเข้ากับสีของคาลิเปอร์เบรกที่อยู่ด้านหลังล้อ ขณะที่ในห้องโดยสารมาพร้อมกับเบาะบั๊กเก็ตซีต Recaro คู่หน้าหุ้มด้วยผ้าสี Charcoal พร้อมมีตัวหนังสือและเข็มขัดนิรภัยสีทอง ในขณะที่พื้นที่เก็บของด้านหลังรถมีพลั่วสำหรับตักหิมะมาให้รวมทั้งสาย Recovery Strap สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

Polestar 2 Arctic Circle ถูกสร้างขึ้นมาโดย Joakim Rydholm หัวหน้าวิศวกรแชสซีส์ของ Polestar และนักแข่งแรลลีซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในการขับและปรับแต่งรถไฟฟ้าบนพื้นหิมะและน้ำแข็งในการทดสอบช่วงฤดูหนาวแต่ละปีของผู้ผลิตรถยนต์จากสวีเดน ซึ่งใช้เวลา 15 สัปดาห์ระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคมที่อาร์ติกเซอร์เคิลที่มีอุณหภูมิต่ำถึง -35 องศาเซลเซียส