Porsche เปลี่ยนแบตเตอรีเพิ่มระยะเดินทางที่ไร้มลพิษให้ Cayenne E-Hybrid
ในยุคที่รถยนต์มีการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกสิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์สามารถทำเพื่ออัพเดตรักษาความน่าสนใจให้กับรถยนต์ของตนได้คือการเพิ่มความจุของแบตเตอรีซึ่งส่งผลโดยตรงต่อระยะการเดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษ จึงทำให้มักเห็นบรรดาผู้ผลิตรถยนต์มีการระบุถึงการเพิ่มขนาดแบตเตอรีให้กับรุ่นไฮบริดของตนอยู่เสมอเมื่อมีการอัพเดตหรือปรับโฉมให้กับรถ และล่าสุดที่มีการอัพเดตความจุแบตเตอรีให้กับรถคือ Porsche ที่ได้เพิ่มความจุแบตเตอรีให้กับ Cayenne E-Hybrid
ผลจากการเปลี่ยนแบตเตอรีใหม่ทำให้ Porsche Cayenne E-Hybrid มาพร้อมกับแบตเตอรี 17.9 kWh แทนแบตเตอรีเดิมขนาด 14.1 kWh ซึ่งแม้จะดูเหมือนตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ก็เป็นการเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลจากการเปลี่ยนแบตเตอรีทำให้ Cayenne E-Hybrid สามารถเดินทางโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ 48 กิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 2.5-2.4 ลิตร/100 กิโลเมตร ในขณะที่ Cayenne E-Hybrid Coupe มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 2.6-2.5 ลิตร/100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นที่มีกำลังมากขึ้น Turbo S E-Hybrid มีระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้า 42 กิโลเมตร และอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 3.3-3.2 ลิตร/100 กิโลเมตร
ในส่วนระบบไฮบริดของรถไม่มีความเปลี่ยนแปลงจึงยังคงเป็นการใช้เครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังรวม 455 แรงม้าใน Cayenne E-Hybrid และ Cayenne E-Hybrid Coupe ในขณะที่รุ่น Turbo S E-Hybrid ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งมีกำลังรวม 670 แรงม้า
นอกจากการเปลี่ยนแบตเตอรีใหม่ที่มีความจุมากขึ้นแล้ว ทาง Porsche ยังมีการปรับโหมดการขับใน Sport Chrono Package ด้วย ซึ่งทำให้มีการปรับการชาร์จพลังงานกลับสู่แบตเตอรีในขณะเดินทาง เพื่อให้พลังงานที่ถูกชาร์จกลับนั้นมีให้ใช้ได้ตลอดเวลาเพื่อทำให้การขับในระบบไฮบริดมีความประหยัดเชื้อเพลิงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ในเมื่อขับในโหมด Sport และ Sport Plus จะมีการชาร์จพลังงานในระดับน้อยที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกในประสบการณ์การขับที่ดีขึ้น
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th