หาก Porsche 911 รุ่นต่างๆ ที่มีให้เลือกในปัจจุบันดูธรรมดาเกินไปและต้องการอะไรที่แตกต่าง Porsche มีทางเลือกใหม่ด้วย 911 Dakar ที่เพิ่งถูกเผยโฉมออกมา ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่แตกต่างจาก 911 ทั่วไปด้วยการถูกออกแบบให้รถมีความสูงมากขึ้นและมีการทำงานสำหรับการลุยไปบนทางขรุขระที่ไม่ใช่ถนนปกติซึ่ง 911 ทั่วไปไม่สามารถทำได้

Porsche 911 Dakar มีความแตกต่างจาก 911 รุ่นอื่นอย่างชัดเจนด้วยการที่ตัวรถมีความสูงมากกว่า   911 ที่ชับเคลื่อนด้วยทุกล้อรุ่นอื่น 50 มม. และมาพร้อมกับยาง Pirelli Scopion All-trerain ขนาด 245/45R19 ที่ล้อหน้าและขนาด 295/40R20 ที่ล้อหลัง แต่หากความสูงปกติของ 911 Dakar ยังไม่พอก็ยังสามารถเพิ่มความสูงขึ้นได้อีก 30 มม. ด้วยโหมดออฟโรด High Level ผ่านแป้นควบคุมที่พวงมาลัยของรถ ซึ่งจะทำให้ 911 Dakar มีความสูงในระดับเดียวกับรถเอสยูวีทั่วไปบางรุ่น เพียงแต่ว่าจะใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 170 กม./ชม. 

นอกจากมีโหมดเพิ่มความสูงของรถมากขึ้นแล้ว 911 Dakar ยังมีโหมด Rally ใหม่ที่ถูกปรับมาสำหรับการขับบนพื้นผิวทางที่ลื่น ทำให้รถมีการยึดเกาะถนนต่ำสูญเสียการควบคุมโดยมีการส่งกำลังไปยังล้อหลังมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการทำงาน Rally Launch Control ซึ่งจะทำให้ล้อมีการลื่น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อออกตัวอย่างรวดเร็วบนพื้นที่ลื่น

ในด้านขุมกำลังของ 911 สำหรับลุยทางวิบากเป็นเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีกำลัง 480 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 570 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์ PDK 8 สปีดส่งกำลังสู่ทุกล้อของรถ โดยใช้เวลา 3.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. อย่างไรก็ตามความสูงที่มากขึ้นและความสามารถในการลุยของ 911 Dakar ต้องแลกมาด้วยความเร็วสูงสุดของรถซึ่งถูกจำกัดไว้ที่ 240 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่น้อยกว่า 911 Carrera 4 GTS ที่ใช้เครื่องยนต์เดียวกัน

แม้ 911 Dakar จะมาพร้อมกับการทำงานต่างๆ เพื่อการลุยทางวิบากรวมทั้งมีระบบเลี้ยวที่ล้อหลังและระบบควบคุมการทรงตัวของรถ PDCC เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1,605 กิโลกรัม มากกว่า 911 Carrera 4 GTS พร้อมเกียร์ PDK แค่ 10 กิโลกรัม ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์บางส่วนของรถอย่างการใช้สปอยเลอร์หลังแบบติดตายตัวแทนสปอยเลอร์ไฟฟ้า ใช้ฝากระโปรงหน้าคาร์บอน-เรนฟอร์ซพลาสติกน้ำหนักเบาจาก 911 GT3 ใช้กระจกที่มีความบางลง  เปลี่ยนมาใช้เบาะหน้าแบบบั๊กเก็ตซีทแทนเบาะปกติ และถอดเบาะหลังของรถออก

ภายนอกของ 911 Dakar นอกจากมีความสูงมากกว่า  911 ทั่วไปแล้ว ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์เพื่อให้ความมั่นใจในการลุยด้วยหูเกี่ยวสีแดงสำหรับการลากจูง มีคิ้วซุ้มล้อและคิ้วกันกระแทกสีดำที่ประตู มีตระแกรงป้องกันที่ช่องดักอากาศด้านหน้า และใช้สเตนเลสสตีลที่มีความทนทานแต่งภายนอกรถ

หากต้องการให้รถมีความโดดเด่นมากขึ้นทาง Porsche ก็มีออฟชัน Rally Design Package ที่จ่ายเงินเพิ่ม 26,061 ยูโรในเยอรมนีให้เลือก ซึ่งเป็นการแต่งที่มาจากรถ Porsche ที่เคยชนะการแข่งแรลลีปารีส-ดาการ์ปี 1984 ทำให้รถมาพร้อมกับสีทูโทนขาวและฟ้า Gertian Blue โดยมีแถบสีแดง-ทองแต่ง รวมไปถึงมีล้อสีขาว แถบสีแดงที่ไฟท้าย และตัวหนังสือ Roughroads ที่ประตูพร้อมกับตัวเลขที่ผู้ซื้อเลือกได้ตั้งแต่ 0-999

ส่วนในห้องโดยสารของ 911 Dakar มีการใช้ Race-Tex เป็นวัสดุหลักกับพื้นผิวต่างๆ พร้อมกับเดินด้ายสีเขียว Shade Green แต่หากมาพร้อมกับออฟชัน Rally Design Package จะมีการใช้ Race-Tex ร่วมกับหนัง โดยที่มีเข็มขัดนิรภัยและการแต่งด้วยสีฟ้า Sharkblue

ทาง Porsche ระบุว่า 911 Dakar ถูกทำออกมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีแนวคิดใดที่เป็นข้อจำกัดต่อ 911 รวมทั้งยังเป็นการย้ำถึงถึงชัยชนะในแรลลีปารีส-ดาการ์ปี ๅ984 แต่อย่างไรก็ตาม 911 Dakar ยังไม่ใช่รุ่นปกติของ 911 เพราะมีการจำกัดการผลิตอยู่ที่ 2,500 คันเท่านั้น