Porsche 919 Hybrid ทิ้งทวนความแรงลงสนามครั้งสุดท้ายที่บาห์เรน
หนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ความสำเร็จสูงสุดของปอร์เช่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตกำลังจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (18 พ.ย.) สนามที่ 9 หรือสนามสุดท้ายของฤดูกาลแข่งขัน 2017 รายการ FIA World Endurance Championship ทั้งยังเป็นสนามสุดท้ายสำหรับการเข้าร่วมประลองความเร็วของรถแข่ง ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid)
ย้อนกลับไปถึงรถทดสอบรุ่นแรกใน Class 1 Le Mans รุ่นโปรโตไทป์ (prototype) ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกพร้อมกับทีมแข่งที่ได้รับ
การจัดตั้งขึ้นใหม่ทั้งหมดภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาปอร์เช่ที่ Weissach ประเทศเยอรมนีเมื่อปี 2013 แนวคิดในการออกแบบระบบขับเคลื่อนถือได้ว่าเป็นที่สุดของนวัตกรรมแห่งความเหนือชั้นในขณะนั้น ประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่ปอร์เช่เคยสร้างขึ้นมา ผสานการทำงานร่วมกับระบบประจุพลังงานย้อนกลับหรือenergy recovery systems ที่แตกต่างกัน 2 รูปแบบ แม้ว่าในขั้นตอนการทดสอบจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ท้ายที่สุดแล้วผลสัมฤทธิ์แรกก็เริ่มปรากฎให้เห็นในปี 2014 ด้วยตำแหน่งโพลในการออกสตาร์ทถึง 4 ครั้งและชัยชนะครั้งแรกที่ช่วงชิงมาได้สำเร็จ นับตั้งแต่ฤดูกาล 2015 ในจนถึงปัจจุบัน ทีมแข่งปอร์เช่ LMP ในสามารถสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยมเกินบรรยาย และนั่นหมายถึงการครองแชมป์ในสนาม Le Mans ในพร้อมตำแหน่งชนะเลิศประเภทผู้ผลิตรวมทั้งตำแหน่งชนะเลิศในประเภทนักขับโดยเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงจากบรรดานักแข่งผู้บังคับพวงมาลัยปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) ในได้ถึง 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
เหตุการณ์ในวันที่ปอร์เช่ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันในรุ่น LMP1 ในฤดูกาล 2014 เกิดขึ้นได้ด้วยเจตน์จำนงค์อันแน่วแน่ที่สืบทอดมากจากปรัชญาในการดำเนินงานของ Ferrt Porsche ผู้ก่อตั้งบริษัทซึ่งตั้งมั่น สร้างสรรค์และพัฒนาเพื่อยนตกรรมที่เพียบพร้อมด้วยศักยภาพแห่งความเป็นเลิศในวงการมอเตอร์สปอร์ต ทั้งนี้ข้อกำหนดด้านเทคนิคของรถแข่งในรุ่น LMP 1 ในฤดูกาล 2014 คือความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่ต้องเผชิญ กฎข้อบังคับดังกล่าวต้องการให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์นำเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริดมาใช้ในการแข่งขัน ในขณะเดียวกันก็ได้กำหนดข้อจำกัดปริมาณการบรรจุพลังงานย้อนกลับผ่านตัวเลขอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถึงกระนั้น กฎเกณฑ์ข้างต้นยังคงหลงเหลืออิสระให้แก่นักพัฒนาในการรับมือเงื่อนไขที่สลับซับซ้อน ทีมวิศวกรมือฉมังของปอร์เช่ ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การปรับแต่งบรรดารถแข่งที่มีอยู่ในมือ แต่กลับใช้โอกาสและทรัพยากรทั้งหมดในการปฏิวัติและรังสรรค์สุดยอดรถแข่งสายพันธุ์ใหม่ตั้งแต่แรกเริ่ม
รถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) ติดตั้งขุมพลังที่ประสานการทำงานของทุกระบบขับเคลื่อนเข้าด้วยกัน ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 900 แรงม้า (662 กิโลวัตต์) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ V4 ที่มีขนาดความจุเพียง 2 ลิตร (ให้พละกำลังเกือบ 500 แรงม้า/368 กิโลวัตต์) ทำงานร่วมกับระบบประจุพลังงานย้อนกลับที่มีรูปแบบแตกต่างกัน 2 ลักษณะ พลังงานสะสมที่ได้จากระบบเบรกในล้อคู่หน้าและพลังงานสะสมที่ได้จากระบบระบายไอเสียแทนที่จะปล่อยทิ้งไปในชั้นบรรยากาศอย่างไร้ประโยชน์ ในส่วนของพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับจากระบบเบรกของล้อคู่หน้าและระบบระบายไอเสียจะได้รับการกักเก็บไว้เป็นการชั่วคราวในแบตเตอรี่แบบ liquid-cooled lithium ion สิ่งที่ปอร์เช่เรียนรู้จากโครงการค้นคว้าพัฒนารถแข่ง 919 เป็นความล้ำค่าที่ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน เมื่อประเมินในมุมมองของอนาคตวันข้างหน้าไม่ว่าจะเป็น ระบบขับเคลื่อนไฮบริดและยานพาหนะพลังงานไฟฟ้ายุคใหม่ นวัตกรรมชั้นเลิศมากมายที่อาจจะไม่ถูกค้นพบหากปราศจากการแสวงหา อาทิ ลักษณะของการจุดระเบิดที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบไฟฟ้าแรงดันสูงรวมทั้งระบบประจุพลังงานย้อนกลับ
การประลองความเร็วระยะเวลารวม 6 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นสนามสุดท้ายของรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) คืออีกครั้งที่รถคันนี้จะได้โลดแล่นตั้งแต่ท้องฟ้ายังมีแสงแดดสาดส่องไปจนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้ายามค่ำคืนของวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายนนี้ที่ประเทศบาห์เรน การแข่งขันจะเริ่มต้นเวลา 16:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (14:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของยุโรป) โดยตะวันจะลับขอบฟ้าในเวลา 16:46 น. ความแตกต่างระหว่างบาห์เรนและ Le Mans คือนักแข่งไม่ต้องขับขี่ภายใต้แสงสว่างจากไฟหน้าของรถตนเองราวกับกำลังวิ่งอยู่ในอุโมงค์ หลอดไฟกว่า 5,000 ดวง จะทำหน้าที่สร้างความสว่างไสวให้แก่สนามแข่งรถ Formula One ในไปพร้อมกับการถ่ายทอดสัญญาณออนไลน์ในและสัญญาณโทรทัศน์ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก จนกระทั่งธงตราหมากรุกโบกสะบัด
กำหนดการแข่งขัน (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศบาห์เรน):
วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2017
15:00 – 16:30 น. ขับทดสอบรอบที่ 1
19:30 – 21:00 น. ขับทดสอบรอบที่ 2
วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2017
11:20 – 12:20 น. ขับทดสอบรอบที่ 3
17:30 – 17:50 น. รอบจัดอันดับรุ่น LMP1 และ LMP2
วันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2017
16:00 – 22:00 น. เริ่มต้นการแข่งขัน
การถ่ายทอดทางโทรทัศน์และออกอากาศสัญญาณสด:
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการของ WEC โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือดาวน์โหลดเวอร์ชั่นเพิ่มเติม
(มีค่าใช้จ่าย) ซึ่งรวมการถ่ายทอดสดตลอดระยะเวลาการแข่งขัน ทีมงาน FIA WEC TV ของรับหน้าที่บรรยาย
การแข่งขันและสัมภาษณ์สดส่งตรงจากพิท - ติดตามการแข่งขันรายการระยนต์ทางเรียบรายการ WEC ได้จากหลากหลายช่องโทรทัศน์ได้ ทั้งในทวีปยุโรป
เอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ รวมทั้งตะวันออกกลางและแอฟริกา
ช่องทาง Social Media ที่ร่วมส่งท้ายและรำสึกถึงตำนานรถแข่ง: #919tribute
- ร่วมอำลาภารกิจสุดท้ายได้ทาง Facebook, Instagram และ Twitter ผ่านทาง hashtag #919tribute
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของปอร์เช่ได้ที่ com (http://porsche.com/
919tribute) และผ่านหน้าจอ LED strip light ภายในพิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ Porsche Museum
Zuffenhausen
ข้อมูลที่น่าสนใจ:
- กฎบังคับด้านประสิทธิภาพการทำงานของ WEC กำหนดปริมาณพลังงานที่รถแข่งใช้ต่อรอบสนามด้วยระยะ
ทาง 41 กิโลเมตรของสนาม Bahrain International Circuit รถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid)
พลังงานไฟฟ้า 4.92 เมกะจูลที่ได้จากระบบสะสมพลังงานย้อนกลับ ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 1.907 ลิตร/1.381 กิโลกรัมลิตร - เมื่อวิ่งด้วยความเร็วปกติรถแข่งปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid) จะต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงหลังจาก
ผ่านไปทุกๆ 31 รอบสนาม - การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงและเปลี่ยนยางรถยนต์ไม่จำเป็นต้องทำพร้อมกัน ทีมช่างเทคนิคจำนวน 4 คน และ
ปืนลมเพียง 1 ชุด เท่านั้นที่ต้องใช้ในกาปฏิบัติงาน ซึ่งใช้เวลามากกว่าการทำงานกับรถแข่ง F1 เล็กน้อย - การเปลี่ยนตัวนักแข่งจะกระทำต่อเมื่อมีการเปลี่ยนยางเท่านั้น
- ทีมงานสามารถเลือกใช้ประเภทของยางรถยนต์ที่แตกต่างกัน
ยางสลิกที่มีส่วนผสมของเนื้อยางที่แตกต่างกันถึง 3 รูปแบบ สำหรับสนามแห้ง ยางไฮบริด (ไม่มีดอกยางแต่
เนื้อนุ่มกว่า) สำหรับสนามกึ่งแห้งกึ่งเปียก และยาง wet สำหรับสนามเปียก รถแข่ง 1 คัน สามารถใช้ยาง
สำหรับสนามแห้งได้ทั้งหมด 4 ชุด สำหรับรอบจัดอันดับและการแข่งขันจริง ซึ่งน้อยกว่าฤดูกาล 2016 ถึง 2 ชุด
- เส้นทางรอบสนามที่ใช้ในการแข่งขัน F1 ของ Bahrain International Circuit ประกอบด้วยโค้งขวาทั้งหมด
9 โค้ง และโค้งซ้ายทั้งหมด 6 โค้ง ทางตรงที่ยาวที่สุดคือทางตรงหน้าจุดสตาร์ท มีระยะทาง 090 กิโลเมตร - สนามแข่งแห่งนี้ เปิดใช้งานเมื่อปี 2004 มีที่ตั้งห่างจากเขตเมืองหลวง Manama ของประเทศบาห์เรนประมาณ
30 กิโลเมตร อาณาจักรบาห์เรนประกอบด้วยหมู่เกาะมากกว่า 30 เกาะ บนอ่าวเปอร์เซีย มีพื้นที่รวมประมาณ
750 ตารางกิโลมตรและมีประชากรเกือบ 5 ล้านคน
ย้อนรอยความสำเร็จ:
- ฤดูกาล 2016 ปอร์เช่ได้ฉลองตำแหน่งชนะเลิศประเภทนักขับให้แก่ Romain Dumas (ฝรั่งเศส), Neel Jani
(สวิสเซอร์แลนด์) และ Marc Lieb (เยอรมนี): โดย Dumas/Jani/Lieb ออกจากกริดในอันดับที่ 3 และจบการ
แข่งขันในอันดับที่ 6 หลังจากอุบัติเหตุเมื่อเริ่มการแข่งขันได้ไม่นาน - Timo Bernhard, Brendon Hartley และ Mark Webber (ออสเตรเลีย) ออกสตาร์ทในอันดับที่ 2 และจบการแข่ง
ขันในอันดับที่ 3 สำหรับทีมแข่ง Audi สามารถคว้าชัยชนะในอันดับที่ 1 และ 2 ซึ่งถือว่าเป็นการอำลา
แข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ WEC ไปในฤดูดังกล่าว - ที่จุดปล่อยตัว อุณหภูมิอากาศอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส หลังจากพระอาทิตย์ตก อากาศจะเย็นลงมาที่อุณหภูมิ
24 องศาเซลเซียส
ติดตามอันดับคะแนนสะสมได้ที่: http://www.fiawec.com/en/season/result
ติดตามผลการแข่งขันได้ที่: http://fiawec.alkamelsystems.com
เรื่อง: พุทธิ ผาสุข
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th